ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีไทย
ดร. ทักษิณ ชินวัตร (อังกฤษ: Thaksin Shinawatra; เกิด 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492) นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงก่อนเข้ามาสู่วงการเมือง ศาสตราจารย์อาคันตุกะแห่งมหาวิทยาลัยทากุโชกุ
คำคม
แก้ไข2544
แก้ไข- “ผมจะไม่ยอมทำหน้าที่เป็นเพียงผู้นำตามกฎหมายเท่านั้น ผมจะขอเป็นผู้นำที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทย เพื่อประเทศไทยที่ดีขึ้น พี่น้องที่เคารพครับ ผมจะขอทำหน้าที่เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” — 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ประกาศคำมั่นสัญญา หลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
2546
แก้ไข- “ความสัมพันธ์ว่ากันทีหลัง ผมถือว่าเรื่องศักดิ์ศรีและชีวิตรับไม่ได้ !” — 29 มกราคม พ.ศ. 2546 ตอบผู้สื่อข่าวกรณีสั่งการให้กองทัพอากาศส่งเครื่องบินและหน่วยคอมมานโดไปยังกรุงพนมเปญเพื่อช่วยเหลือคนไทย
- “คุณอย่ามาห่วง ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม เราเป็นสมาชิกยูเอ็นก็ว่ากันไปตามกติกาโลก คุณอย่าไปถามมาก ไม่มีปัญหา มาก็มา สอบก็สอบ ถามทุกวัน” — 3 มีนาคม พ.ศ. 2546 ตอบผู้สื่อข่าวที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ถึงกรณีที่สหประชาชาติจะส่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเข้ามาดูแลมาตรการปราบปรามยาเสพติด ที่ก่อให้เกิดปัญหาฆ่าตัดตอน
2547
แก้ไข- “บางคนที่มีอาวุธอยู่ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขาล่าหาอาวุธก็ยังประมาท มีคลังอาวุธอยู่ แล้วประมาท และมีทหารอยู่ทั้งกองพันยังประมาทอยู่ ก็ถือว่า สมควร สมควร สมควรตาย” — หลังเกิดเหตุ โจรใต้ปล้นปืนเกือบ 400 กระบอก และฆ่าทหาร 4 นาย กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2547
2548
แก้ไข- “บางทีสื่อภาษาภาคกลางบางทีอาจไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยอยากจะขออนุญาตไปตรวจดวงหน่อยว่าดาวพุธมันเป็นอย่างไร ถ้าตรวจดาวพุธดีแล้วค่อยมาให้สัมภาษณ์กันใหม่ ช่วงนี้อยากจะขอพักดาวพุธสักหน่อย ขอบคุณครับ” — 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 กล่าวกับผู้สื่อข่าวโดยที่ผู้สื่อข่าวไม่ได้ตั้งคำถามใด ๆ
- “หลักการของผม ผมชอบทำในสิ่งที่เนียร์ อิมพอสซิเบิล แต่ทำให้มันพอสซิเบิล ถ้าไม่เช่นนั้นมันจะเสียเวลาประเทศมาก และเสียโอกาสประเทศ เพราะการจะแย่งกันเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนั้น จังหวะเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่สามารถจะรอได้ ถ้าเรารอเราอาจจะเสียโอกาสมาก นั้นเราจึงได้ร่วมกันทุกฝ่าย ต้องขอขอบคุณแม้กระทั่งกุลี ที่เป็นช่างก่อสร้างที่นี่ ว่าท่านทั้งหลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย” — 29 กันยายน พ.ศ. 2548 ขณะตรวจโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- “เป็นว่านครสวรรค์ได้มอบความไว้วางใจให้กับรัฐบาล ด้วยการเลือก ส.ส. รัฐบาลทั้งจังหวัด แน่นอนครับอันนี้ก็ตรงไปตรงมา ก็ต้องได้รับสิทธิในการที่จะต้องดูแล เป็นพิเศษก่อน นะครับอันนี้ ผมตรงไปตรงมา ผมไม่อ้อมค้อม นะครับ จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้องดูแลเป็นพิเศษ นะครับอันนั้นก็เป็นเรื่องที่ แต่เราก็ต้องดูแลคนทั้งประเทศ แต่จังหวัดไหน เวลามันจำกัด ก็ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่ไว้วางใจเราเป็นพิเศษก่อน จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อยก็ไปทีหลัง ไม่ใช่ไม่ไป แต่ไปทีหลัง ก็เรียงคิว ต้องเรียงกัน” — 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 กล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.นครสวรรค์ ภายหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม
- “การเมืองต้องมีกติกา ไม่ใช่ประชาชนเลือกมาเกือบ 20 ล้านคน ส.ส. เกินสภา 370 กว่าคน ไม่ใช่ถึงเวลามามีคนไปนั่งเห่าอยู่แถวสวนลุม ขนคนมาจากเพชรบุรี ภูเก็ต ชุมชนบางแห่งใน กทม. แล้วมาบอกว่า ออกไป คืนพระราชอำนาจ เอ็งบ้าหรือเปล่าวะ บางช่วงให้คนนั่งแท็กซี่ บอกเนี้ยะผมกำลังเหลิงจะเป็นประธานาธิบดี ปัดโธ่เป็นแค่นี้ ก็เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว เอะอะก็หาว่า ผมไม่จงรักภักดี ปัดโธ่ถ้านายกฯ ไม่จงรักภักดีแล้วผีที่ไหนจะจงรักภักดี” — 25 ธันวาคม พ.ศ. 2548 กล่าวในงานนายกฯ พบแท็กซี่
- “ถ้าคนที่เป็นนักกีฬาแล้วไม่เคารพกติกาก็จะเป็นกีฬาที่คนอื่นไม่อยากเล่นด้วยถ้าไม่บังคับให้เล่น ตรงนั้นไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นการไปสร้างกติกาเอง ดังนั้นเรื่องของพรรคเราก็มีกติกาชัดเจนว่าพรรคจะไม่หักหลังลูกพรรค ใครอยากจะออกจากพรรคก็บอกล่วงหน้าว่าโอเค หรือยุบสภา หรือมีการเลือกตั้งก็จะบอกล่วงหน้า 90 วัน ทุกคนจะได้เตรียมตัวย้ายพรรคก่อน มันจะได้ไม่เป็นการหักหลังซึ่งกันและกัน ถ้าสมมติไม่มีการบอกล่วงหน้ากัน พอยุบสภาตูม เลือกตั้งแล้วไปย้ายพรรคก็เท่ากับคนที่ย้ายพรรคหักหลังพรรค เพราะพรรคไม่มีโอกาสหาคนแทนได้ทัน ถ้า 90 วันคือการไม่หักหลังซึ่งกันและกัน เมื่อคุณออกไปเราก็ยังหาคนมาแทนได้ ถ้าแน่จริงต้องมีคนใหม่สู้คุณ ไม่ใช่หักหลังแล้วไม่มีอะไรให้ใครสู้ เหมือนกับที่ว่าเมื่อแอบออกไปแล้วโดยไม่บอกให้ใครรู้ เราหาคนมาแทนไม่ทัน แล้วคุณก็จะได้เป็นผู้แทนอีก ทั้ง ๆ ที่ห่วยแตก ดังนั้นขอย้ำว่าเรื่อง 90 วันพรรคจะบอกก่อนแน่นอน ถ้าใครออก พรรคจะหาคนมาแทน มาลงแข่ง ซึ่งเป็นคนใหม่ในนามพรรคเก่า สู้กับคนพรรคเก่าในนามพรรคใหม่ ก็สู้กัน ไม่เห็นเป็นไรเลย และตรงนี้ถือเป็นสัญญาที่ทุกคนสามารถเชื่อมั่นได้แน่นอน” — 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548
2549
แก้ไข- “ย้อนกลับไปในคำขวัญวันเด็ก ในสมัยก่อนคำขวัญวันเด็กก็จะเน้นเรื่องการมีวินัย ความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา อะไรต่ออะไร ซึ่งบังเอิญยุคสมัยมันเปลี่ยน ผมอยากเห็นเด็กไทยเติบโตขึ้นมา ฉลาดและคิดเป็น ถ้าไม่ฉลาดและคิดไม่เป็นมันจะเป็นเหยื่อ เพราะโลกเศรษฐกิจทุนนิยมเป็นโลกที่คนฉลาดได้เปรียบ คนฉลาดน้อยกว่าถูกกิน ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนฉลาดกว่ากินคนโง่กว่า เป็นโลกที่ชอบไม่ชอบก็ต้องอยู่กับมัน” — 13 มกราคม พ.ศ. 2549 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ให้โอวาทต่อเด็กและเยาวชนดีเด่นและเด็กเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 646 คน ก่อนวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2549
- “แล้วมาเรียกร้องให้ผมลาออก แก้ปัญหาของชาติไม่ได้ ชาติหน้าสาย ๆ น่ะครับ ถ้าไอ้กลุ่มพวกนี้เรียกร้อง ผมมาโดยประชาชนเกือบ 19 ล้านคนเลือก อยู่ ๆ คนไม่กี่พันคนมาบอกให้ลาออก แล้วบอกว่าแก้ปัญหาของชาติไม่ได้ จำได้ไหม วันที่ผมมา ประเทศเป็นหนี้แค่ไหน แล้ววันนี้เราใช้หนี้เขาไปแล้ว เวลานี้ประเทศไทยมีเงินฝากในต่างประเทศมากกว่ากู้เขามา รู้ไหมเป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นประเทศไทยมานี่ ว่าประเทศไทยเมื่อก่อนนี้เป็นหนี้เมืองนอกเยอะแยะ เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ ผมใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเร็วกว่า 2 ปี และขณะนี้นี่ เงินประเทศไทยนี่ไปฝากไว้ต่างประเทศมากกว่าไปกู้ต่างประเทศเข้ามา กลายเป็นประเทศผู้ให้กู้ไปแล้ว แล้วบอกว่าแก้ปัญหาของชาติไม่ได้” — 14 มกราคม พ.ศ. 2549
- “ไม่เกี่ยวเลย ไปคิดแทนเขาหมด ไปรู้ได้อย่างไร คุณรู้อย่างไร การซื้อบริษัทแม่ซึ่งบริษัทแม่ถือหุ้นของบริษัทลูก เป็นวิธีที่ดีและฉลาดที่สุด ใครจะมานั่งซื้อรายบริษัทย่อย ๆ โอ้ยตาย คิดกันไปเอง ไปคิดแทนเขาหมด สมองข้างซ้ายทำงานมากไป ทำงานสมองข้างขวากันบ้าง สมองข้างขวาไม่ค่อยได้ใช้ ใช้แต่สมองข้างซ้าย คมเหลือเกิน สมองข้างขวาทื่อิจฉาละซิ แค่นั้นแหละ ตัวเดียวนั่นแหละ” — 25 มกราคม พ.ศ. 2549 ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ป
- “สรุปแล้วนายกฯ ทำอะไรก็ผิดไปหมด ถูกด่ามาตลอด สรุปว่าถูกด่าทุกเรื่อง ผมรู้ว่าคนส่วนใหญ่ยังอยากให้ทำงาน ซึ่งผมทรยศกับคนเหล่านี้ไม่ได้ เพราะคนที่ให้ผมออกได้มีคนเดียวคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าทรงกระซิบว่าทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทลาออกแน่” — 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 รายการ นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
- “ผมจะไม่ทำไม่ดี ไม่โง่ ไม่ขี้ขลาด แม้จะโดนเหยียดหยาม 3 ปีนี้ผมมีภารกิจที่ต้องทำมาก มีคนโง่ไม่กี่คน ช่างแม่งมันเถอะ” — 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ที่จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกับชาวเชียงใหม่หลังพิธีกรรมทางศาสนาทำบุญกระดูกบรรพบุรุษ
- “อาจารย์รัฐศาสตร์ที่ออกมาเรียกร้องให้ลาออก ไม่รู้จักแยกแยะ ทำให้ขาดสติ เป็นอาจารย์รัฐศาสตร์แต่กลับออกมาทำลายประชาธิปไตย อย่างนี้จะไปสอนนักเรียนได้อย่างไร” — 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
- “ผมรับไม่ได้ครับที่จะให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ถ้ากฎหมู่ของคนกลุ่มหนึ่งมากดดันว่า รัฐบาลต้องทำอย่างนั้น รัฐบาลต้องทำอย่างนี้โดยไม่มีหลักการที่ถูกต้อง ผมรับไม่ได้ ผมก็พยายามคิดว่าจะใช้วิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในระบอบประชาธิปไตยนั้น การคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน โดยปวงชน เพื่อปวงชน แต่วันนี้เมื่อมีการขัดแย้งกันว่ารัฐบาลมีอำนาจจริงหรือเปล่า ทั้ง ๆ ที่ผ่านการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยมาเป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อมีความขัดแย้งแบบนี้เกิดขึ้น ผมจึงต้องขอรบกวนพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า พี่น้องประชาชนยังอยากจะใช้รัฐบาลนี้ทำหน้าที่ต่อหรือไม่ หรือพี่น้องเห็นว่ากลุ่มที่คัดค้านทั้งหลายนำเสนอในสิ่งที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งที่พี่น้องจะเป็นผู้ตัดสินใจ” — 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 คำแถลงของนายกรัฐมนตรีภายเกี่ยวกับการยุบสภาผู้แทนราษฎร ถ่ายทอดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แห่งประเทศไทย
- “วันนี้ข่าวลือเยอะมาก ลูกจะไปเมืองนอกก็บอกว่าจะหนีไปแล้ว ข้าจะหนีเอ็งไปทำไมว่ะ ผมเป็นนายกฯที่ทำมาหากินสุจริต เอะอะอะไรก็บอกว่าไม่เสียภาษี ผมเสียภาษีเยอะกว่าพวกมันรวมกันทั้งประเทศอีก ขอยืนยันว่านายกฯที่ประชาชนเลือกมา 19 ล้านเสียง ไม่มีชั่ว โง่ บ้า มีอย่างเดียวคือรักประชาชน ทุ่มเท และทำงานให้ประชาชน วันนี้ปล่อยให้เขาหาเรื่องหลายเดือนแล้ว ด่าผมข้างเดียวมาเยอะแล้ว วันนี้ประชาชนทั้งประเทศมีความรู้สึกเดียวกันว่าคนที่ประชาชนเลือกกำลังถูกรุม วันที่ 2 เมษายน เราจะพากันแหวกวงล้อม พี่น้องช่วยกันอุ้มผมแหวกวงล้อมหน่อย” — 9 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง จ.ชลบุรี
- “(สรยุทธ: คุณทักษิณเคยพูดไว้ว่าบริษัทที่ไปจดทะเบียนในประเทศอย่างบริติชเวอร์จิน เป็นพวกฟอกเงิน ไม่รักชาติ ?) ผมไม่แน่ใจว่าผมพูดขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมว่าผมไม่ได้พูดขนาดนั้นหรอก รู้สึกจะหมายถึงในช่วงวิกฤติที่บริษัทล้มกัน มันมีอย่างนี้ มีบริษัทไปจดทะเบียนในต่างประเทศ แล้วให้บริษัทต่างชาติมาสั่งของในประเทศไทยในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง เพื่อให้บริษัทดูมีกำไร ให้หุ้นขึ้น เพื่อไประดมทุน คือไปแต่งกำไร นี่คือไม่ถูกต้อง ถ้าย้อนไปที่ผมพูดน่าจะหมายถึงอย่างนั้น เพราะมันมีบริษัทหนึ่งล้มไป เพราะกำไรที่แสดงไว้มันไม่มี... ผมไม่ได้พูดขนาดนั้นแน่ เพราะผมก็พอจะเข้าใจอะไรเป็นอะไรอยู่” — 10 มีนาคม พ.ศ. 2549 รายการถึงลูกถึงคน ช่อง 9 อสมท.
- “นั่นคือกติกามันต้องรักษาครับว่า กีฬาเนี่ย ไม่ใช่พอแข่งฟุตบอลชนะแล้วไปดวลปืนกันต่อ แข่งฟุตบอลชนะแล้วก็ต้องปรบมือให้ผู้ชนะไป ผู้ชนะก็รับถ้วยไป ผู้แพ้ก็ไปฝึกกันใหม่ คราวหน้าแข่งกันใหม่” — 3 เมษายน พ.ศ. 2549 ในรายการกรองสถานการณ์ ช่อง 11 กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) และกลุ่มพันธมิตร ที่ยังจะชุมนุมต่อ
- “พี่น้องครับ ผมต้องกราบขอโทษจริง ๆ ที่จะไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในกระบวนการสรรหาที่จะเกิดขึ้นในสภา หลังจากที่ครบ 30 วันหลังการเลือกตั้ง และมีการเปิดประชุมรัฐสภา พี่น้องที่เคารพครับ ผมมีเหตุผลที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่รับตำแหน่ง เพราะว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลยิ่งของคนไทย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปีในวันที่ 9 มิถุนายนนี้” — 4 เมษายน พ.ศ. 2549 คำแถลงในการไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
- “กินก๋วยจั๊บมาอิ่มเลย เราพวกไม่มีเส้น” — 26 กรกฎาคม พ.ศ.2549 กล่าวทิ้งท้ายก่อนขึ้นลิฟต์ไปยังห้องทำงาน หลังจากจบการให้นักข่าวสัมภาษณ์ความเห็นเกี่ยวกับคดีของ กกต. หลังศาลอาญาพิพากษาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ให้จำคุกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 3 คน 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ส่งผลให้ กกต.ทั้ง 3 พ้นสภาพไปทันที - ไทยโพสต์
- “วันนี้ปัญหาของคนไทยคือการโดนหลอก แม้กระทั่งคนมีความรู้ยังโดนหลอกง่าย ใครไม่รู้มาหลอกก็เชื่อ คนกรุงเทพ เรียนหนังสือสูง ผมยังเสียดายปริญญาที่ได้มา โดนคนไม่ดีหลอกด้วย ตรงนี้น่าห่วง ถ้าเรามีข้อมูลใครมาหลอกก็ไม่ได้” — 8 สิงหาคม พ.ศ.2549 คำปราศรัยที่จังหวัดมหาสารคาม เนื่องในโอกาสการตรวจราชการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- “ทำไมกลัวการตัดสินใจของประชาชน” — ปราศรัยถึงการเดินหน้าประกาศกวาดล้างสงครามยาเสพติด ปราศรัยใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเมื่อปี 2549
2552
แก้ไข- “ไม่ต้องห่วงผม ผมเอาตัวรอดได้ แต่ห่วงพี่น้อง ถ้าเมื่อไรเสียงปืนแตกและทหารยิงประชาชน ผมจะนำขบวนพาที่น้องเข้ากรุงเทพทันที พี่น้องทหารตำรวจคนเหล่านี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนไทยทั้งสิ้น จงรักพระเจ้าอยู่หัว อย่าให้ใครผูกขาดแล้วตัดพวกเราไป” — 30 มีนาคม พ.ศ. 2552
2560
แก้ไข- “มงแต็สกีเยอ เคยกล่าว "ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม"” — 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
2561
แก้ไข- “ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ. เลย” — 19 กันยายน พ.ศ. 2561 กล่าวถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีที่ทักษิณออกมาโพสต์ข้อความครบ 12 ปีที่ถูกรัฐประหาร ว่าบ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะใคร แต่ไม่ใช่ คสช.แน่นอน
คำคมเกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร
แก้ไขค
แก้ไข- “สาเหตุที่คุณทักษิณต้องเสื่อมหรือมีปัญหาเพราะความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป และการฟังคนรอบข้างที่อยู่ในสถานะลูกน้องกับเจ้านาย ไม่ฟังคนนอกที่อยู่ในระบอบรัฐสภา แม้กระทั่งสื่อมวลชน ประชาชน นักวิชาการ ซึ่งจำเป็นมากที่ต้องฟัง” — คณิต ณ นคร
ณ
แก้ไข- “สถานการณ์ทางการเมืองแบบนี้ เราเกรงว่าจะเกิดข้อครหาว่า เราเป็นชนวนของความแตกแยกจึงไม่อยากทำอะไรมากนัก เราเป็นนักการตลาด เราอาศัยชื่อท่านทักษิณเพื่อเกาะกระแสความนิยมแต่เราก็ต้องหยุด ไม่อยากถูกหาว่า ไม่รู้จักกาละเทศะ ผมเชื่อว่าคนรักทักษิณมีไม่น้อย และคนกลุ่มนี้ต้องมีบ้างที่ชอบดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ ก็เลยออกสินค้าตัวนี้ออกมา” — ณัชพล สุพัฒนะ
บ
แก้ไข- “ตอนยุบสภานั้น นายกฯ ทักษิณ ให้ผมเตรียมร่างพระราชกฤษฎีกาเข้าไปกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ไปหาที่กระทรวงการต่างประเทศ ผมก็ยกมือไหว้ท่านหนึ่งครั้ง ตอนยื่นพระราชกฤษฎีกาส่งให้ท่านผมขอท่านว่า ขอแสดงความเห็นหน่อยได้ไหม ท่านก็บอกว่าได้ ว่ามาเลย ผมก็บอกว่า ท่านนายกฯ ครับ มันไม่มีเหตุที่จะยุบสภา แต่ท่านก็ตัดบทโดยให้เหตุผลว่า ผมรับผิดชอบเอง” — บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ป
แก้ไข- “สงกรานต์ปีนี้มีโอกาสได้มากราบขอพรผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ ถือเป็นความสุขใจและเป็นมงคลแก่ชีวิตครับ” — ปรีชาพล พงษ์พานิช
พ
แก้ไข- “มัวแต่ปราบทักษิณ แต่ละเลยปล่อยให้ข้าราชการโกงเงินคนจน คนป่วย คนไร้ที่พึ่ง คนพิการ เด็กนักเรียน ชาวนาไร้ที่ดิน ผู้มีเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ลามมาจนถึงพี่น้องบนพื้นที่สูง ประชาชนหายโง่แล้วแต่เมื่อไรข้าราชการจะหายโกง” — พิภพ อุดมอิทธิพงศ์
ภ
แก้ไข- “การเลือกตั้งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทักษิณใช้ต่อสู้กับอำนาจนอกระบบ ฝ่ายทักทักษิณกลายเป็นนักประชาธิปไตยที่เข้มข้นมากกว่าเดิม อันเป็นผลมาจากการรัฐประหารปี 2549” — ภาณุวัฒน์ พันธุ์ประเสริฐ
ร
แก้ไข- “..ต่อให้ทางเลือกมีน้อย ทักษิณก็มีทางเลือกที่จะไม่พูดได้ โดยเฉพาะการพูดสิ่งที่จะตัดพ้อกำลังใจของมวลชน หรือ ไปจูบปากจูบคอกับฝ่ายตรงข้าม..” — รัฐพล ศุภโสภณ
ว
แก้ไข- “ผมหวังว่า นายกฯ ทักษิณ คงจะเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง ควรจะลาออกแล้วตั้งนายกฯขึ้นมาใหม่เพื่อทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนจะคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินอีกครั้ง” — วินัย สมพงษ์
ส
แก้ไข- “ขณะนี้มวลชนแนวร่วมของระบอบทักษิณในหลายภูมิภาคพยายามลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจนไม่ว่จะเป็น กลุ่ม นปก.ที่เคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ เชียงใหม่หรือในพื้นที่อื่นๆ โดยคนกลุ่มนี้มุ่งหวังที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองของประเทศจาก “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ให้เป็น “สาธารณรัฐสยามใหม่” ทั้งนี้คนกลุ่มนี้ได้พยายามยกตัวอย่างความล่มสลายของสถาบันกษัตริย์ในประเทศเนปาล ซึ่งถูกแทนที่ด้วยลัทธิเหมาอิสต์ขึ้นมาเปรียบเทียบ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังล่าวมีหลักฐานที่เห็นได้ชัดจากสื่อหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เคยลงในหน้าปกหนังสือมติชนสุดสัปดาห์ และ ข่าวและสารคดีที่แพร่ภาพทางเอ็นบีที” — สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
- “หากตนได้รับตำแหน่งแล้ว ก็มีแนวคิดจะขอคำปรึกษางานด้านเศรษฐกิจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหากมีช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่มีความคิดนอกกรอบในการคิดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ” — สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี
- “ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดีที่จะเข้ามาแก้ปัญหาระบอบทักษิณ ที่หยั่งรากฝังลึกและแผ่กว้าง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจนยากที่จะแก้ไข จากการติดตามความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่า คณะปฏิรูปการปกครองคงมีเหตุผลค่อนข้างดีในการตัดสินใจปฏิบัติการ และประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกดีกับเรื่องดังกล่าว” — สุทธินันท์ จิตพิมลมาศ
- “พอใจที่ช่วงเวลาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สิ้นสุดลงแน่นอนแล้ว รู้สึกเห็นใจทหาร และศาลยุติธรรม เพราะที่ผ่านมาพยายามใช้กติกาทางรัฐธรรมนูญเข้ามาแก้ไขปัญหาแล้ว แต่พ.ต.ท. ทักษิณกลับไม่ยินยอม จึงนำมาซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้” — สุนทรี เซ่งกิ่ง
- “สุขุมพันธุ์ หรือ พงศพัศ คือผู้ว่ากทม. ตัวเต็งมันมีอยู่สองคนใช่ไหม สุขุมพันธ์ เบอร์ 16 กับ พงศพัศ เบอร์ 9 คือ 2 คนเป็นตัวเก็ง ไอ้คนอื่นน่าสนใจนะ แต่ผมเสนอว่าอย่าเลือกคนอื่น เพราะถ้าเลือกคนอื่นคะแนนจะหัวแหลกหัวแตก เพราะเวลานี้ต้องสู้ระหว่างประชาธิปัตย์กับพรรคทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคดีเด่นอะไร แต่พรรคทักษิณมันเ-ยสุดๆ แล้วเวลานี้มันครองอำนาจอยู่ในบ้านเมืองแล้ว เรายอมให้มีผู้ว่ากทมอีก แสดงว่าเราทั้งหมดแหย สยบกับมันทั้งหมดเลย ผมจึงอยากเสนอว่าใครก็ตามที่มีจิตสำนึกต่อต้านทักษิณ ต่อต้านเผด็จการ ต้องไม่ใช่ไม่เลือกเบอร์ 9 อย่างเดียว ต้องเลือกสุขุมพันธ์ เพราะเป็นอันเดียวที่จะเอาชนะเผด็จการทักษิณได้ เพราะตอนนี้มันใช้ทุกทางเลย มันปั่นกระทั่งโพล ทำได้ทั้งหมด แล้วมันจะเอาเงินซื้อ อะไรต่างๆ ทักษิณมันพูดเลย เอาเสาไฟฟ้ามาลงก็ได้รับเลือก เพราะฉะนั้นผมว่า คนกรุงเทพต้องแสดงกึ๋นหน่อย คือสุขุมพันธุ์ไม่ได้ดีวิเศษอะไรนักหนา ประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ดีวิเศษนักหนา แต่ระหว่างเขาเลือก ภาษาฝรั่งเรียก the lesser evil มันจำเป็น ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยกับผม ไม่เป็นไร ผมอยากให้ปรากฏจุดยืนผมอยู่ตรงนี้” — สุลักษณ์ ศิวรักษ์
- “ต่อจากนี้ไป ครป.จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของ คปค. ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแต่เป็นการตรวจสอบประเด็นตามที่ได้มีการแถลงข่าวการยึดอำนาจใน 4 ประเด็น เช่นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม การเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ การบริหารงานของพ.ต.ท. ทักษิณ ที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีการเอื้อผลประโยชน์ให้พวกพ้อง ว่า คปค.เอาจริงเอาจังกับการจัดการมากขนาดไหน” — สุวิทย์ วัดหนู
- “ผมเคยหลงคิดว่าคนคนหนึ่ง รวยแล้วกลับใจ คิดใช้หนี้แผ่นดิน ตอนนี้ผมรู้ความจริงแล้วว่า รวยจากโกงชาติ กล้าทำแม้เผาบ้านเมืองเพื่อเอาประกัน คนรวยคนนี้รวยแล้วไม่รู้จักพอ ไม่ใช่หนี้แผ่นดินยังไม่พอ มันยังโกงกิน ทรยศต่อแผ่นดิน” — เสนาะ เทียนทอง
อ
แก้ไข- “ผมเคยคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อหน้าคุณหญิงอ้อว่าเป็นนายกฯ ถ้ามีคนมาชม หนีได้ให้หนีอย่าไปคุยด้วย ถ้าหนีไม่ได้ก็ให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา อย่าเก็บมันไว้เพราะเรามีอำนาจมีเงิน เมื่อมีคนมาคุยด้วยต้องระวัง เขาอาจจะเยินยอ จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ทำให้เราลืมตัว แต่ถ้าใครมาต่อว่าหรือด่าเรายังไงก็ให้ยิ้มไว้ก่อนเพราะว่าเรามีอำนาจ หากเราโมโหแผ่นดินมันร้อน ช่วงนั้นเขาเรียกผมว่าพี่ ผมเคยเตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นนายกฯก่อน เหมือนคนจะบวช สิ่งเตรียมอะไรไว้ก็ให้คนมาที่หลังหมด แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเขาฟังใคร วันนี้คุณทักษิณ กินยาผิดล้างท้องก็ไม่หายเพราะฤทธิ์ยามันถึงสมองแล้ว อาการที่ชี้ชัดคือการมองว่าคนรักตัวเองทั้งประเทศ คนเกลียดไม่กี่คน การตัดสินใจยุบสภาเป็นการทำผิดมหันต์ แค่ประธานรัฐสภาเรียกประชุมร่วม 2 สภา นายกฯก็ได้เปรียบแล้ว สภาล่างก็มีพวกทักษิณเยอะ สภาบนก็พวกทักษิณแยะ มันธุระอะไรต้องไปยุบสภา ที่แย่กว่านั้น รัฐธรรมนูญบอกว่าหากยุบสภากะทันหันต้องให้เวลาพรรคการเมืองอื่น 60 วันแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เร่งรัดให้มีการเลือกตั้ง แค่ 30 กว่าวัน ทำอย่างนี้หากไม่ใช่คิดเอาเปรียบเขา ก็แกล้งเขา มีทางออกคือคุณทักษิณเริ่มพิจารณาตัวเองออกไป แต่อย่าไปทำลายระบบ” — อุทัย พิมพ์ใจชน