พระราชสาส์น ถวายพระภิกษุเว่ยหล่าง
คำแปลพระราชสาส์น
แปลโดย ส.โพธินันทะ[1] |
ประวัติพระภิกษุเว่ยหล่าง
ชีวประวัติ พระสังฆปริณายกองค์ที่ ๖[3] พระเว่ยหล่าง มหาครูบา (หุยเล้งไต้ซือ), เดิมเป็นชายหนุ่ม ผู้มีความกตัญญู ตัดฟืนขายเลี้ยงมารดา. ได้ฟังเขาสวด “วัชระ ปรัชญาปารมิตาสูตร” ถึงตอนที่ว่า “จิตเกิดอย่างไม่ติด” แล้ว ใจลุกโพลง ! สว่างไสวในพระพุทธธรรม, อายุ ๒๔ ปี ได้รับการ ถ่ายทอด บาตร-จีวร-สังฆาฏิ-ธรรมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป้นพระสังฆปรินายกองค์ที่ ๖ (ถ้านับตามสายจากอินเดียลงมา ต้องนับเป็นอันดับที่ ๓๓) ได้ฟังโศลกของครูชินเชา (ซิ่งซิ่ว) ก็รู้ว่ามีปัญญาเพียงแค่รู้แจ้งอนัตตา คือโลกียธรรมเท่านั้น. โศลก ของเว่ยหล่าง เข้าถึงสุญตาคือโลกุตรธรรมไปแล้ว. มีโศลกของ พระสังฆปริณายกองค์ที่ 5 (ฮ้งยิ้มมหาครูบา). ท่านอุบาสก เว่ยหล่างได้รับบาตร-จีวร-สังฆาฏิ-ธรรมแล้ว โอ...อมิตาพุทธ ! ต้องรีบหนีภัย ไปอยู่กับพวกพรานในป่าทึบนานถึง ๑๕ ปี. ท่าน ถือมังสวิรัติ ไม่เสพเนื้อสัตว์ ยามจนมุมเข้าก็เดินสายกลาง คือ เอาผักลงไปอาศัยต้มในหม้อเนื้อของพวกพรานป่า แล้วก็กิน แต่ผักนั้นล้วน ๆ เป็นตัวอย่างของผู้ถือมังสวิรัติด้วย “ฉันผักใน จานเนื้อ” พระเจ้าจักรพรรดินีบูเช็กเทียง มอบให้ราชเลขาธิการ ชื่อ “โง้วฉุ่นเท่ง” นำพระราชสาสน์และบาตรไพฑูรย์และสิ่ง ของอื่น ๆ ไปถวาย |