ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระสังฆราช เจริญ สุวฑฺฒโน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัดที่ 56:
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๓''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|เรา เกิดมาด้วยตัณหา ความอยากและกรรมเพื่อสนองตัณหาและกรรมของตนเอง ตัณหาและกรรมจึงเป็นตัวอำนาจหรือผู้สร้างให้เราเกิดมา ใครเล่าเป็นผู้สร้างอำนาจนี้ ตอบได้ว่าคือ ตัวเอง เพราะตนเองเป็นผู้อยากเองและเป็นผู้ทำกรรม ฉะนั้นตนนี้เองแหละเป็นผู้สร้างให้ตนเองเกิดมาอนุมาน ดูตามคำของผู้ตรัสรู้นี้ในกระแสปัจจุบัน สมมติว่าอยากเป็นผู้แทนราษฎร ก็สมัครรับเลือกตั้งและหาเสียง เมื่อชนะคะแนนก็เป็นผู้แทนราษฎร นี่คือความอยากเป็นเหตุให้ทำกรรม คือทำการต่างๆ ตั้งแต่การสมัคร การหาเสียง เป็นต้น ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับผล คือ ได้เป็นผู้แทน}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="4"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๔''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|ความเปลี่ยนแปลงของชีวิตหรือของโลกเป็นทุกข์ประจำชีวิตหรือประจำโลกไม่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอันใด เมื่อจะสรุปกล่าวให้สั้น ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสี่นี้ย่อลงเป็นสอง คือความเกิดและความดับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สกัดหน้าสกัดหลังของโลก ของชีวิตทุกชีวิตนี่เรียกคติธรรมดา แปลว่า ความเป็นไปตามธรรมดา ความไม่สบายใจทุกๆอย่าง พระพุทธเจ้าทรงชี้ว่าเป็นทุกข์ ทุกคนคงเคยประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก พลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก ปรารถนาไม่ได้สมหวัง เกิดทุกข์โศกต่างๆ นี่แหละพระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่าเป็นทุกข์โลกหรือชีวิต ประกอบด้วยทุกข์ดังกล่าวมาแล้ว ฉะนั้น ทุกข์จึงเป็นความจริงที่โลกหรือทุกชีวิตต้องเผชิญ}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="5"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๕''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|ชีวิตคนเรา เติบโตขึ้นมาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความเมตตากรุณาจากผู้อื่นมาตั้งแต่เบื้องต้น คือ เมตตา กรุณา จากบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย ถ้าไม่ได้รับความเมตตา ก็อาจจะสิ้นชีวิตไปแล้วเพราะถูกทิ้ง เมื่อเราเติบโตมาจากความเมตตากรุณา ก็ควรมีความเมตตากรุณาต่อชีวิตอื่นต่อไป วิธีปลูกความเมตตากรุณา คือ ต้องตั้งใจปรารถนาให้เขาเป็นสุข ตั้งใจปรารถนาให้เขาปราศจากทุกข์ โดยเริ่มจากเมตตาตัวเองก่อน แล้วคิดไปถึงคนใกล้ชิด คนที่เรารัก จะทำให้เกิดความเมตตาได้ง่าย แล้วค่อยๆ คิดไปให้ความเมตตาต่อคนที่ห่างออกไปโดยลำดับ}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="6"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๖''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|ตนรักชีวิตของตน สะดุ้งกลัวความตายฉันใด สัตว์อื่นก็รักชีวิตตนและสะดุ้งกลัวความตายฉันนั้น ฉะนั้น จึงไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ให้ผู้อื่นฆ่า อนึ่ง ตนรักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด สัตว์อื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ฉันนั้น จึงไม่ควรสร้างความสุขให้ตนเองด้วยการก่อความทุกข์ให้แก่คนอื่น}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="7"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๗''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|คติธรรมดาที่ไม่มีใครเกิดมาในโลกนี้ จะหนีไปให้พ้นได้ ก็คือ ความแก่ ความตาย แต่คนโดยมากพากันประมาทเหมือนอย่างว่าไม่แก่ ไม่ตาย น่าที่จะรีบทำความดี แต่ก็ไม่ทำ กลับไปทำความชั่ว ก่อความเดือดร้อนให้แก่กันและกัน ต่างต้องเผชิญทุกข์เพราะกรรมที่ต่างก่อให้แก่กันอีกด้วย ฉะนั้น ก็น่าจะนึกถึงความแก่ ความตายกันบ้าง เพื่อจะได้ลดความมัวเมา และทำความดี}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="8"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๘''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|การฆ่าตัวตาย เป็นการแสดงความอับจนพ่ายแพ้หมดหนทางแก้ไข หมดทางออกอย่างอื่น สิ้นหนทางแล้ว เมื่อฆ่าตัวตายก็เป็นการทำลายตัว เมื่อทำลายตัวก็เป็นการทำลายประโยชน์ทุกอย่างที่พึงได้ในชีวิต ในบางกลุ่มบางหมู่เห็นว่าการฆ่าตัวตายในบางกรณีเป็นเกียรติสูง แต่ทางพระพุทธศาสนาแสดงว่าเป็นโมฆกรรม คือกรรมที่เปล่าประโยชน์ เรียกผู้ทำว่า คนเปล่า เท่ากับว่าตายเปล่าๆ ควรจะอยู่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ ก็หมดโอกาส}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="9"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๙''</sup>
|{{Gap|2em}}{{Sq|การแก้ปัญหาของคนเรา ถ้าป้องกันไว้ก่อนแก้ไม่ทันก็แก้เมื่อปัญหายังเล็กน้อยจะง่ายกว่า เหมือนอย่างดับไฟกองเล็กง่ายกว่าดับไฟกองโต ถ้าเป็นผู้ที่สนใจธรรมะบ้างก็จะหาหนทางปฏิบัติได้ถูกต้อง ดังที่พระพุทธเจ้ายกขึ้นแสดงว่า ธรรมะพันเกี่ยวข้องกับตัวเราเอง ทุกๆ คนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง ถ้าตั้งมั่นในการประพฤติธรรมให้พอเหมาะแก่ภาวะของตนเอง ก็จะทำให้พ้นจากความทุกข์ภัยพิบัติได้ ถ้าไม่ปฏิบัติก็อาจจะเผลอพลั้งพลาด และถ้าไม่รู้วิธีแก้ปัญหาด้วยธรรมะก็อาจจะทำให้หลุดพ้นจากบ่วงปัญหาได้ยาก ฉะนั้น ถ้าสนใจพระธรรมบ้างก็จะมีเครื่องป้องกันแก้ไขให้พ้นจากความทุกข์ ดังคำกล่าวที่ว่าพระธรรมคุ้มครอง}}<div><br></div>
|-
|colspan="2" scope="col" style="background: white; border: 6px solid transparent;" align="center" | <div id="10"/>{{fs|100%|<div><br></div>[[#๐|''๑๐๐ คำสอน สมเด็จพระสังฆราช'']]}}
|-
|{{Gap|2em}}[[File:A old white plate-Cetiyas Nirvana.png|24px|link=|alt=]] <code></code><sup>''คำสอนที่ ๑๐''</sup>