ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pitpisit (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Pitpisit (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 1:
รองศาสตราจารย์ ดร.'''ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์''' นักวิชาการชาวไทย นักรัฐศาสตร์ชาวไทย อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
== วาทกรรม ==
* For fuck's sake เมื่อไหร่จะเลิกเรียกทหารเหี้ยๆ ว่า "บิ๊ก" ซะที แดกขนาดนี้ โกงขนาดนั้น แต่ยังใช้คำว่า "บิ๊ก" ไปสรรเสริญเยินยอเศษมนุษย์เหล่านี้.... ป่วย!<ref>https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/715903445178088</ref>
 
<ref>https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/715903445178088</ref>
* คนไทยยังโกรธและเจ็บแค้นไม่พอ พอเจ็บได้ระดับหนึ่ง สักพักก็จางไป ลืมกับความเจ็บแค้นนั้นๆ ยุทธวิธีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานมวลชนที่เข้มแข็งในประเทศอื่นๆ ก็คือการต้องเพิ่มระดับความโกรธและความเจ็บแค้น และต้องผลักดันให้มันเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่จะสามารถขับเคลื่อนการประท้วงขนาดใหญ่ได้ ดังนั้น การหนุนให้เกิดความโกรธและความคับแค้นจึงเป็นหัวใจสำคัญของการเอาชนะเผด็จการ แต่สังคมเราแทบจะไม่ก้าวไปถึงจุดนั้นบ่อย เพราะเราเป็นคนลืมง่าย หวังว่าการทำร้ายจ่านิวในครั้งนี้จะเพิ่มดีกรีความโกรธของสาธารณะให้มากขึ้น
* ...เรื่องนี้ดิชั้นเลยคิดว่า สิ่งที่อนาคตใหม่พูดมากๆ เรื่องสร้างการเมืองแบบสุภาพ (เช่น ไม่ให้พูดว่า เลื่อนแม่มึงสิ แต่ให้เปลี่ยนมาเป็น อย่าเลื่อนเลือกตั้ง) หรือการสร้างความรักมากกว่าความแค้น นั้นคือยุทธศาสตร์ที่ผิดมหันต์ คือนอกจากมันจะไม่ช่วยให้เราเป็นฝ่ายชนะแล้ว มันยังไปสร้างวัฒนธรรมไม่ต้องรับผิด แทนที่จะช่วยกันยกระดับความโกรธ นี่กลับพยายามพูดให้คนโกรธศัตรูน้อยลง ถ้าอย่างนี้ การเมืองมหภาคจะจุดไม่ติด เราจะไม่สามารถถชนะเผด็จการได้ด้วยความรัก เอาตำราที่ไหนมาคะ?