ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชวน หลีกภัย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Lee4112 (คุย | ส่วนร่วม)
Lee4112 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัดที่ 19:
 
* หลายคนไม่ชอบการยึดอำนาจของทหาร ในการยึดอำนาจแต่ละครั้งผู้ที่ยึดอำนาจจะบอกเหตุผลหนึ่งของการยึดอำนาจ คือนักการเมืองรัฐบาลคอรัปชั่น พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่เป็นรัฐบาลแล้วไม่มีการยึดอำนาจ เพราะประชาธิปัตย์ไมไปสร้างเงื่อนไขให้เกิดการยึดอำนาจ ประชาธิปัตย์ไม่โกง
 
== การประชุมรัฐสภา ==
 
* ขอขอบพระคุณท่านสมาชิกทุกท่านที่ได้กรุณาให้โอกาสพวกเราทั้ง ๓ คนได้ทำหน้าที่ ในฐานะประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ผมขอกราบเรียนเพื่อนสมาชิกทุกคนว่า สิ่งแรกคือขอแสดงความยินดีกับท่านด้วยความจริงใจ เพราะรู้ดีว่าการจะเป็นผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกตั้งนั้นยากเพียงไรครับ ตระหนักด้วยตัวเองดีตลอดมา ทุกท่านที่ได้รับ เลือกตั้งมาก็ควรจะภาคภูมิใจด้วยกันทุกคนนะครับ ในฐานะพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของฝ่าย นิติบัญญัติ ซึ่งเราจะเห็นว่าบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย ที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนี้ผ่านทางรัฐสภา เราเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภำ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ผมอยากให้เพื่อนสมาชิกได้ตระหนัก ถึงความสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายนี้คือตัวแทนของประชาชนที่มีหน้าที่ออกกฎหมาย ตรวจสอบฝ่ายบริหารและสามารถมีเสียงข้างมากตั้งเป็นฝ่ายบริหาร เพราะฉะนั้นบทบาทของสภาผู้แทนราษฎรนั้นถือว่าสูงมาก ในฐานะเป็นผู้ออกกฎหมายผมคิดว่าเราต้องเป็นแบบอย่าง ของผู้เคารพกฎหมาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะสะท้อนไปสู่ประชาชนให้เป็นที่ยอมรับสถาบัน ของเรา ลำพังตัวฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งที่จะออกมาจากฝ่ายนิติบัญญัติก็คือ ผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาซึ่งประกอบขึ้นเป็นรัฐสภา เพราะฉะนั้นบทบาทใดก็ตามที่เป็น เรื่องบวกก็เป็นบวกกับฝ่ายนิติบัญญัติ บทบาทใดที่เป็นเรื่องลบก็เป็นลบของฝ่ายนิติบัญญัติ ผมจึงเรียนเรื่องนี้ด้วยความเคารพว่าด้วยความรู้สึกส่วนตัวก็คืออยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นจากพวกเรานะครับ เราพูดถึงเรื่องการปฏิรูปการเมือง เรื่องอื่น ๆ มามาก แท้จริงแล้ว เรานี่แหละคือฝ่ายที่จะเป็นแบบอย่างของการปฏิรูป จึงขอร้องสมาชิกทุกคนว่าเราได้ช่วยกัน สร้างภาพที่ดีให้กับสภา นั่นก็คือการแสดงบทบาทที่ถูกต้องชอบธรรม ในฐานะประธาน และรองประธานนั้น กฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับไว้เลยว่าต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง กฎหมายเขียนไว้เท่านั้นแต่ว่าขอยืนยันกับท่านทั้งหลายว่านอกจากเป็นกลางแล้ว โดยที่บทบาทของประธาน และรองประธานนั้น มีงานด้านอื่นอยู่ด้วยที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ๆ ก็ขอยืนยันกับท่านว่าเราจะปฏิบัติหน้าที่ไม่เพียงความเป็นกลาง แต่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ในทุกด้าน อันนี้คือสิ่งที่ขอ ประกาศให้เพื่อน ๆ สมาชิกทุกคนได้มีความมั่นใจ เช่นเดียวกันในฐานะของประธานสภานั้น รัฐธรรมนูญบังคับว่าต้องควบคุมการประชุมสภาให้เป็นไปตามข้อบังคับ อันนี้เป็นบทบัญญัติ ที่เขียนเอาไว้โดยชัดเจน เพราะฉะนั้นก็ต้องขอร้องว่าพวกเราขอให้ยึดข้อบังคับในการประชุม สภานี้เป็นสภาที่ไว้สำหรับการอภิปรายการพูด ผมตระหนักดีว่าสภาคือที่พูด ผมจะ เปิดโอกาสให้พวกเราได้มีโอกาสพูด เพื่อนำปัญหาประชาชน ปัญหาความทุกข์ยาก ความเดือดร้อน และอื่น ๆ ของพี่น้องประชาชนมาสู่สภา เพื่อส่งต่อไปยังผู้รับผิดชอบ ฝ่ายบริหาร และเป็นโอกาสเดียวที่ฝ่ายบริหารก็ใช้ธรรมเนียมนี้ส่งต่อผลงานและสิ่งที่ได้ปฏิบัติ ไปสู่สมาชิก เพื่อไปสู่ประชาชนต่อไป เราจึงเป็นเหมือนหนึ่งคนกลางที่รับทั้ง ๒ ด้าน เพราะฉะนั้นการปฏิบัติหน้าที่ของเพื่อนสมาชิกคือการอภิปรายนั้น ผมจะให้โอกาสเต็มที่ ตามข้อบังคับ ขอเพียงให้เรายึดการอภิปรายนั้นตามข้อบังคับ คือท่านไปอ่านข้อบังคับ แล้วเราจะเห็นว่าการอภิปรายของสมาชิก ผมเข้าใจว่าข้อบังคับ ข้อ ๓๗ จะกำหนดไว้ชัดเจน และจะทำให้ประสิทธิภาพการประชุมนั้นเป็นไปโดยราบรื่น และสมาชิกได้แสดงความเห็น โดยทั่วถึง อันนี้คือสิ่งที่อยากจะขอเรียนพวกเราทุกคน ขอพวกเราได้มั่นใจว่าเราได้พูด เพราะฉะนั้นขออย่าแย่งกันพูด ถ้าประธานไม่ชี้อย่าเพิ่งพูดนะครับ แล้วเมื่อประธานอนุญาต ให้พูดแล้วค่อยพูด เพื่อว่าเราจะไม่ถูกตำหนิจากคนทั่วไปที่เห็นข่าวการถ่ายทอดการประชุม ว่าสภาแย่งกัน ชิงกัน หรือทะเลาะกัน อันเป็นภาพที่ไม่เป็นบวกกับฝ่ายนิติบัญญัติเลย อันนี้คือสิ่งที่อยากจะทำความเข้าใจกับเพื่อน ๆ ทุกคนในที่นี้ว่าเราคือตัวแทน ๕๐๐ คนของเรา ถ้าคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำให้ภาพเป็นลบ ก็ลบหมดทั้ง ๕๐๐ คนครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วงสมัยที่เราทั้ง ๕๐๐ คน ได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ แทนพี่น้องประชาชนของเรา อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากถือโอกาสเรียน แล้วผมขออนุญาตว่า พวกเราคงจำได้ว่าเมื่อวันที่ ๒๔ ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระบรมราโชวาทเปิดสภาในวันนั้น ผมขอให้พวกเราได้ไปอ่านพระบรมราโชวาทอีกครั้งหนึ่งเพราะว่าจะเป็นแนวทางที่พวกเรายึดเป็นแนวปฏิบัติ ตอนหนึ่งที่ผมอยากให้พวกเราจำไว้ ก็คือขอให้สมาชิกแห่งสภาพึงนึกถึงความสำคัญและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างจริงจัง เพราะการกระทำทุกอย่างของแต่ละท่านจะมีผลโดยตรงถึงความมั่นคง ของประเทศ และความสุขทุกข์ของประชาชน จึงจำเป็นที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันปฏิบัติ ภารกิจทั้งปวงโดยเต็มสติปัญญาความสามารถด้วยความสุจริตและด้วยความคิดพิจารณา อันสุขุมรอบคอบ หนักแน่น ด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง เที่ยงตรงตามหลักนิติธรรมและคุณธรรม ให้งานของชาติดำเนินก้าวหน้าไปโดยไม่ติดขัด และบังเกิดประโยชน์อันพึงประสงค์ สมบูรณ์ บริบูรณ์ อันนี้คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนอาจจะนำพระบรมราโชวาทนี้ติดไว้กับตัว เพื่อว่า จะเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะร่วมมือกันปฏิบัติให้เป็นไปตามพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่าน อันนี้ก็ถือโอกาสเรียนพวกเราทั้งหลายด้วยความเคารพ อันนี้คือสิ่งที่ผมขออนุญาตขอบคุณ และขอเรียนข้อสังเกตบางประการ<ref name=":0">[https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/more_meeting_ss.php?filename=The_House_of_Representatives&meet_type=3 รายงานการประชุม ครั้งที่ ๓ วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๘ - ๐๙.๕๗ น.]</ref>
* สำหรับเรื่องเสนอใหม่นอกจากที่เรียนแล้ว ขอเรียนเรื่องหนึ่งนะครับ คือเรื่อง สิทธิประโยชน์ของท่านสมาชิกซึ่งเริ่มมีสิทธิในการเดินทางและอื่น ๆ เนื่องจากเมื่อวานนี้ ผมได้รับเรื่องจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับผู้ที่เป็นหนี้ค่าโดยสารเครื่องบิน รถไฟ รถโดยสารประจำทางเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นจึงถือโอกาสนี้เรียนพวกเรา ไม่ใช่เป็นชุดนี้ เป็นชุดก่อน ๆ ก่อน ๆ ก็มีหลายชุด ซึ่งหลายท่านก็เข้ามาในชุดนี้ด้วย ก็เรียนพวกเราว่า เมื่อจะเดินทาง สภาให้ความสะดวกในการจัดที่จองการเดินทาง แต่ว่าถ้าท่านไม่เดินทาง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งยกเลิก เพื่อเขาสามารถนำที่นั่งที่เราจองนั้นไปขายต่อได้ หรือเราจะ ไม่ต้องถูกคิดค่าโดยสาร เพราะมิฉะนั้นสภาจะต้องจ่าย แล้วสภาไม่จ่ายเขาก็ตามทวงหนี้พวกเรา ก็เลยถือโอกาสเรียนว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่ผ่านมาแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็น บทเรียนที่เราจะต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก อีกเรื่องหนึ่งก็คือการใช้สิทธิให้คนอื่นไปใช้ สิทธิในการโดยสารเครื่องบิน อาจจะยากหน่อยครับ แต่รถไฟและรถโดยสารประจำทางนั้นมีการให้คนอื่นไปใช้สิทธิ อันนี้เสียหายมาก แล้วก็ทำให้เกิดความเสียหาย แล้วก็เป็นการสมคบกันหลายฝ่าย ก็เสียชื่อเสียงมาถึงพวกเราทุกคน ถ้าสมมุติเกิดขึ้น อันนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่ว่า นำประสบการณ์ที่ผ่านมาเล่าให้พวกเราฟัง อันนี้ก็เป็นเรื่องที่อยากเรียนพวกเรา อีกเรื่องหนึ่งก็ถือโอกาสเรียนว่า เนื่องจากว่าเมื่อวานนี้มีญัตติของพรรค อนาคตใหม่ เพื่อให้พวกเราและพรรคอนาคตใหม่ได้รับทราบว่าญัตติของท่านนั้นได้รับ เมื่อตอนสาย และเราทั้งสาม คือท่านประธานกับรองประธาน ก็ได้ร่วมกันหารือว่า จะพิจารณาญัตติ คือเป็นญัตติที่เสนอขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยญัตติดังกล่าว มีผู้รับรองถูกต้องตามข้อบังคับ แต่ว่าเมื่อตอนเย็นหลังจากเลิกงานแล้วแต่เราก็อยู่เพื่อหารือ เรื่องนี้ เราคิดว่าจะต้องวางมาตรฐานเพื่อเราปฏิบัติต่อไป เจ้าหน้าที่สภาก็ได้เสนอขึ้นมาว่า ญัตติดังกล่าวนี้ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราทั้ง ๓ คนก็ร่วมปรึกษา หารือกันนะครับ แล้วผมก็ให้ความเห็นไป เห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอมา ก็เรียนที่ประชุมได้รับทราบ<ref name=":0" />
*สำหรับเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว แต่ว่าเรื่องอนาคตยังไม่เกิดขึ้นก็ได้พูดเรื่องนี้มาพอสมควร ผมคิดว่าตัวอย่างที่ยกมาตอนต้น ไปยกตัวอย่างอดีตนั้นก็ไม่ได้ห้ามเพราะว่าเป็นเรื่องอดีต แต่ว่าเรื่องอนาคตคาดว่าอย่างนั้น อย่างนี้ก็อาจจะไกลไป<ref>ครั้งที่ ๑ วันพุธที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๑.๐๘-๒๓.๕๒ น.</ref>
 
==อ้างอิง==