ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MayThe2nd (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนรุ่นแก้ไข 48124 ของ 119.76.130.185 (คุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
แทนที่เนื้อหาด้วย "'''ตด'''"
ป้ายระบุ: ถูกแทน ย้อนด้วยมือ ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัดที่ 1:
'''ตด'''
'''[[w:พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร|พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]]''' พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี
{{TOCright}}
==พระบรมราโชวาท==
 
* หนังสือเป็นเสมือนคลังที่รวบรวมเรื่องราว ความรู้ ความคิด วิทยาการ ทุกด้านทุกอย่าง ซึ่งมนุษย์ได้เรียนรู้ ได้คิดอ่าน และเพียรพยายามบันทึกรักษาไว้ ด้วยลายลักษณ์อักษร หนังสือแพร่ไปถึงที่ใด ความรู้ ความคิดก็แพร่เข้าไปถึงที่นั่น หนังสือจึงเป็นสิ่งที่มีค่า และมีประโยชน์อันประมาณมิได้ ในแง่ที่เป็นบ่อเกิดแห่งความรู้มนุษย์
 
=== 1950 ===
 
* เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
*ทุก ๆ ครั้งที่ท่านจะกระทำการใดสิ่งใดลงไปจงคิดแล้วคิดอีก ทบทวนดูทั้งทางได้ทางเสียให้แน่ชัดเสียก่อน “จุฬาลงกรณ์” หาได้เป็นแต่เพียงชื่อของมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้นไม่ ยังเป็นนามของผู้พระราชทานกำเนิดของสถานที่แห่งนี้ด้วยฉะนั้น จึงเป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนไปจากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยนี้
 
=== 1951 ===
 
* ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฏตลอดมาว่าชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกัน บางพรรคบางพวก ถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจู่โจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จงหนัก แล้วถือเอาความสามัคคี ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย จงบำเพ็ญกรณีกิจของตนแต่ละคน ด้วยซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากแค้น เป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้
 
=== 1952 ===
 
* อันสถานการณ์ของโลกทั่วไปและของบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ก็ย่อมเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว ทางที่จะช่วยให้ประเทศเราผ่านพ้นภัยพิบัติ มีความวัฒนาถาวรไปได้ ก็โดยที่เราชาวไทยทุกคนมีน้ำใจรักชาติอย่างแท้จริง ไม่ถือเอาประโยชน์ของตนและพรรคพวกแต่ฝ่ายเดียว มุ่งบำเพ็ญกรณียกิจหน้าที่ด้วยความสุจริต ขยันหมั่นเพียร เพื่อคุณประโยชน์ส่วนร่วมของประเทศชาติ และพร้อมที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม เมื่อเป็นดังนี้แล้ว สามัคคีก็ย่อมจะแผ่ขยายกว้างขวางออกไปในระหว่างพี่น้องชาวไทยด้วยกัน ทำให้กำลังของชาติส่วนต่าง ๆ ประสานกันเป็นบึกแผ่น สิ่งที่เคยยากก็จะกลายเป็นง่าย และสิ่งที่ไม่เคยทำได้ก็กลับจะบรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยอานุภาพแห่งความสามัคคี
 
=== 1953 ===
 
* ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
* ในขวบปีที่ผ่านมา แม้บ้านเมืองของเราต้องประสบภัยทางธรรมชาติบ้างและแวดล้อม ด้วยสถานการณ์อันเคร่งเครียดของโลกทั่วไป แต่ก็นับว่าได้สามารถผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาด้วยดี ทั้งนี้ย่อมเป็นนิมิตหมายว่า เราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคข้างหน้าต่อไปอีก จริงอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะให้ดีขึ้นทันอกทันใจสมดังที่ต้องการทีเดียวนั้น ย่อมไม่ได้ ย่อมต้องการเวลา เปรียบประดุจการเยียวยารักษาไข้ ซึ่งย่อมต้องการเวลาเช่นกัน
 
=== 1954 ===
 
* พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า บุคคลใดประกอบความดี คุณความดีนั้นย่อมต้องสนองตอบ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนแต่ละท่าน ให้พยายามบำเพ็ญความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ แม้บางโอกาสอาจจะต้องเสียสละบ้าง ก็จงมานะอย่าท้อถอย จงสมัครสมานสามัคคีร่วมใจกันให้มั่นคงด้วยดี ทั้งนี้ เพื่อความสุขสวัสดีของท่านและเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย
 
=== 1955 ===
 
* ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม วิชาที่ท่านได้ศึกษามาทุกสาขาล้วนแต่เป็นคุณประโยชน์แก่การกสิกรรม และการเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดังนั้น โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะช่วยกันสร้างชาติบ้านเมืองในด้านนี้จึงมีอยู่มากมาย
* ถ้าหากชาวไทยทั้งหลายต่างได้ประกอบกิจหน้าที่การงานของตนด้วยความสุจริต มีความซื่อตรงต่อหน้าที่ ต่อตนเอง มีศีลธรรมอันดีและความสามัคคีกันแล้ว จักเป็นทางช่วยให้ประเทศชาติได้มีความสงบสุข และสามารถเผชิญเหตุการณ์ฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งอาจมีมาในอนาคตได้ดี ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ถ้าทุกคนต่างยึดมั่นในคุณธรรมที่ว่ามาข้างต้น และต่างบำเพ็ญกรณียกิจหน้าที่การงานของตน โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมแล้ว ประเทศชาติของเราก็จะรุ่งเรืองวัฒนาถาวร
 
=== 1956 ===
 
* จงพยายามนำวิชาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา ไปใช้ให้เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองให้เต็มที่ ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม วิชาที่ท่านได้ศึกษามาทุกสาขา ล้วนเป็นประโยชน์แก่การกสิกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดังนั้นโอกาสที่ท่านทั้งหลายจะช่วยกันทะนุบำรุงบ้านเมืองในด้านนี้จึงมีอยู่มาก
 
=== 1957 ===
 
* การเกษตรมีความสำคัญสำหรับประเทศไทยเพียงไร ย่อมเป็นที่ทราบกันอยู่ดีแล้ว การที่นักศึกษาได้เรียนสำเร็จได้รับปริญญาและอนุปริญญาเป็นจำนวนมากทั้งนี้ย่อมเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าใคร่จะขอเตือนไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า ในการที่จะเอาหลักวิชาที่ได้เล่าเรียนไปใช้เพื่อประกอบกิจการงานต่อไปนั้น ควรจะคำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ของท้องที่ แลถึงผลสะท้อนอันอาจมีขึ้น โดยเฉพาะในประการต่าง ๆ จะได้เป็นหลักประกันว่า กิจการงานที่จะทำขึ้นนั้น ได้พิจารณาศึกษาโดยรอบคอบในทุก ๆ ด้านแล้ว ชอบด้วยหลักปฏิบัติที่เหมาะสมกับสภาพและความต้องการของประเทศเรา
 
=== 1958 ===
 
* ในส่วนนักศึกษาที่ประสบผลสำเร็จนั้น ก็ขอแสดงความยินดีร่วมด้วย โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมืองในด้านกสิกรรม และเกษตรกรรมยังมีอยู่มาก ขอท่านจงใช้วิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาให้เกิดประโยชน์ ทั้งพยายามฝึกฝนตนเองเพื่อได้ความรู้เพิ่มพูนยิ่งขึ้นต่อไป เพราะบรรดาวิทยาการทุกแขนงย่อมวิวัฒนาการต่อไปอยู่เสมอ อันเป็นผลจากการค้นคว้าเพิ่มเติม จงมีความซื่อสัตย์สุจริตขยันหมั่นเพียรในการงาน มั่นอยู่ในศีลธรรมอันดี เพื่อเป็นเกียรติและเป็นศรีแก่ตัวท่านเองและสถานศึกษาแห่งนี้
* ในขวบปีที่ล่วงมา ได้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ อันมีความสำคัญแก่ชาติบ้านเมือง ดังที่ได้ทราบกันอยู่แล้ว นับได้ว่าประชาชาติของเราได้ผ่านหัวเลี้ยวสำคัญชั้นหนึ่งแล้ว ต่อไปนี้ จึงเป็นหน้าที่ของเราทั้งปวง ที่จะต้องช่วยกันประคับประคองให้กิจการงานของชาติบ้านเมืองดำเนินไปด้วยดี เพื่อความเจริญผาสุกของประเทศชาติ ในการนี้ความสามัคคีประนีประนอมซึ่งกันและกันเป็นสิ่งจำเป็นและพึงปรารถนายิ่งนัก
 
=== 1959 ===
 
* อันวิชาความรู้ ที่ท่านทั้งหลายได้ศึกษาจากมหาวิทยาลัยนี้ ทุก ๆ สาขาต่างก็มุ่งจะช่วยฟื้นฟูเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อได้มีอาหาร เครื่องบริโภค อุปโภคเพียงพอภายในประเทศ และเหลือกินเหลือใช้ จำหน่ายเป็นสินค้าออกจากประเทศ เป็นทางส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ถ้าสิ่งที่ผลิตขึ้นมามีคุณภาพดี ก็เป็นประโยชน์มากควรแก่การบริโภคและเป็นที่นิยม หากจำหน่ายเป็นสินค้าก็จะได้ราคาดีขึ้นด้วย
* ภาระในการบริหารนั้นจะประสบผลด้วยดี ย่อมต้องอาศัยความรักชาติ ความซื่อสัตย์สุจริต ความสมัครสมานกลมเกลียวกัน ประกอบกับความร่วมมือของประชาชนพลเมืองทั่วไป
 
=== 1960 ===
 
* ผู้ที่เป็นครูอาจารย์นั้น ใช่ว่าจะมีแต่ความรู้ในทางวิชาการ และในทางการสอนเท่านั้นก็หาไม่ จะต้องรู้จักอบรมเด็กทั้งในด้านศีลธรรมจรรยาและวัฒนธรรม รวมทั้งให้มีความสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ด้วย
*ประเพณีทั้งหลายย่อมมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของแต่ละคน เรามีประเพณีของชาติไทยเป็นสมบัติ เราควรจะยินดีอย่างยิ่งและช่วยกันส่งเสริมรักษาไว้ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
*นิสิตที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งนับวันจะทวีจำนวนมากขึ้น เมื่อออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว ควรจะได้เตรียมตัวให้พร้อมในอันที่จะไปดำเนินงานอาชีพของตนรูปใด เพราะมหาวิทยาลัยก็ได้ประสาทวิชาทุกสาขาให้แล้วประการหนึ่ง เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยเราขึ้นอยู่กับการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
*การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัวช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย
 
=== 1961 ===
 
* การกีฬานั้น นับเป็นอุปกรณ์การศึกษาที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นการกล่อมเกลา ให้เด็กมีจิตใจอดทน กล้าหาญ รู้แพ้ รู้ชนะ
*การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ดีแต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบ ก็เท่ากับเป็นบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมของมนุษย์
*โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และโบราณสถานทั้งหลายเป็นของมีคุณค่า และจำเป็นแก่การศึกษาค้นคว้าในทางประวัติศาสตร์ศิลปะโบราณคดี เป็นการแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทย ที่มีมาแต่อดีต ควรสงวนรักษาไว้ให้คงทนถาวร เป็นสมบัติส่วนรวมของชาติไว้ตลอดกาล
*ประเทศไทย ถ้าประชาชนพลเมือง มีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีระเบียบวินัย ประเทศนั้นก็เจริญและอยู่ในฐานะดี จึงเห็นได้ว่าความสามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างคนในชาติ และความเข้าใจรักษาระเบียบวินัยเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง ที่จะช่วยนำประเทศชาติสู่ความวัฒนาถาวร
*การทำให้บ้านเมืองคงอยู่นี้เป็นงานที่ยากที่ลำบาก เพราะว่าคนที่อยู่ในประเทศย่อมต้องมีการ ขัดแย้งกันบ้าง เหมือนในครอบครัวอยู่ใกล้ชิดกันก็อาจขัดแย้งกันได้ แต่ว่าเมื่ออยู่ในครอบครัว เดียวกันคือประเทศชาติ ก็เป็นครอบครัวใหญ่ ต้องรู้จักอภัยกัน รู้จักปรองดองกันให้ดี
*การเกษตรเป็นหัวใจอันสำคัญในด้านการเศรษฐกิจของประเทศเราเพียงใด ย่อมทราบดีอยู่แล้ว ประชาชนจะอยู่ดีกินดีและมีความก้าวหน้า ก็ต้องอาศัยความรู้และวิชาการอย่างที่ท่านได้เรียนมา
 
=== 1962 ===
 
* เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองมาแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาในด้านการรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่ง ต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่ง ต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีการใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบเป็นประโยค นับเป็นปัญหาสำคัญ ปัญหาที่สาม คือความร่ำรวยของคำในภาษาไทย ซึ่งพวกเราคิดว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้
*ความรู้คือดวงประทีปเปรียบกันได้หลายทาง ดวงประทีปเป็นไฟที่ส่องแสงเพื่อนำทางไป ถ้าใช้ไฟนี้ส่องในทางที่ถูก ก็จะไปถึงจุดหมายปลายทางได้โดยสะดวกเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ระวัง ไฟนั้นอาจเผาผลาญให้บ้านช่องพินาศลงได้ ความรู้เป็นแสงสว่างที่จะนำเราไปสู่ความเจริญ ถ้าไม่ระมัดระวังในการใช้ความรู้ ก็จะเป็นอันตรายเช่นเดียวกัน จะทำลายเผาผลาญบ้านเมืองให้ล่มจมได้
 
* ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
*การส่งเสริมให้เด็กรู้จักประเพณีนิยมของไทยไม่ให้ลืมศิลปะดั้งเดิมของเรานั้นเป็นที่น่าอนุโมทนายิ่งนัก
*บ้านเมืองไทยสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้โดยดี เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี ถ้าตราบใด เรารักษาความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันไว้ได้ เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุข สุดตราบนั้น
*การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญยิ่งของมนุษย์ คนเราเมื่อเกิดมาก็ได้รับการสั่งสอนจากบิดามารดา อันเป็นความรู้เบื้องต้น เมื่อเจริญเติบใหญ่ขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของครูและอาจารย์สั่งสอนให้ได้รับวิชาความรู้สูง และอบรมจิตใจให้พร้อมด้วยคุณธรรม เพื่อจะได้เป็นพลเมืองที่ดีของชาติสืบไป
*สำหรับผู้ได้รับปริญญาบัตรในวันนี้ นับว่าได้ผ่านการศึกษามีความรู้ในด้านการเกษตรมาเป็นอย่างดีแล้ว ขอให้ทุกคนนึกอยู่เสมอว่า กสิกรรมและเกษตรกรรมเป็นเรื่องสำคัญมาก ท่านทั้งหลายจะต้องช่วยกันค้นคว้าหาความรู้และความชำนาญให้กว้างขวางยิ่งขึ้นเสมอ และพยายามส่งเสริมเผยแพร่ความรู้ที่ได้ศึกษามาแก่พี่น้องกสิกรและเกษตรกร ให้ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติอันถูกต้องตามหลักวิชาอีกด้วย จึงจะเกิดประโยชน์แก่สังคมในด้านนี้ และเป็นผลดีแก่ประเทศชาติสืบไป
 
=== 1963 ===
 
* การเกษตรมีความสำคัญแก่ชาติบ้านเมืองเพียงไร เป็นที่ทราบกันอยู่ดีแล้ว การที่รัฐบาลได้เร่งรัด ปรับปรุงงานด้านนี้เป็นลำดับมา ตลอดจนองค์การ มูลนิธิ และเอกชนได้ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกื้อกูลด้วยประการต่าง ๆ นั้น เพื่อจะให้การเกษตรของเรามีความเจริญก้าวหน้าไปโดยรวดเร็ว เป็นข้อที่น่าชื่นชมยิ่งนัก
*งานของชาติที่จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากท่านทั้งหลายยังมีอีกมาก งานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นงานที่ทุก ๆ คน จะต้องมีส่วนช่วยเหลือ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของชาติ เพื่อให้ชาติของเรามีความสงบสุข ขอท่านทั้งหลายจงอย่าได้ประมาท ความพร้อมอยู่เสมอที่จะเผชิญต่อภัยทั้งปวงที่จะมีมาซึ่งอาจน่ากลัวยิ่งกว่าภัยธรรมชาติก็ได้ ขอท่านทั้งหลายจงช่วยกันภัยอันตรายใด ๆ อันจะมีมาในภายหน้า ดังเช่นบรรพบุรุษของเราได้ฟันผ่ามาแล้วในอดีต และรักษาความเป็นไทยของชาติไว้ให้ยืนยง
 
=== 1964 ===
 
* เศรษฐกิจของเราขึ้นอยู่กับการเกษตรมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รายได้ของประเทศที่ได้มาใช้สร้างความเจริญด้านต่าง ๆ เป็นรายได้จากการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจกล่าวได้ว่าความเจริญของประเทศต้องอาศัยความเจริญของการเกษตรเป็นสำคัญ และงานทุก ๆ ฝ่ายจะดำเนินก้าวหน้าไปได้ ก็เพราะการเกษตรของเราเจริญ
* เหตุการณ์ของโลกและภูมิภาคใกล้เคียงกันกับเรา ยังมีสภาพที่น่าวิตกอย่างยิ่งอยู่ การที่ไม่มีอันตรายใด ๆเกิดขึ้นแก่ประเทศไทยทั้ง ๆ ที่มีภัยคุกคามอยู่รอบด้านเช่นนี้ ก็เพราะเรายังสามารถรักษาความเป็นปึกแผ่นและความสงบภายในไว้ได้ ท่านทั้งหลายอย่าได้มีความประมาท ขอให้มีความสามัคคีกลมเกลียวกันทุกฝ่าย มีความหนักแน่นและรอบคอบในการตัดสินเหตุการณ์ต่าง ๆ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของท่าน โดยมุ่งถึงประโยชน์ส่วนร่วมและความเจริญของประเทศชาติด้วยเสมอ และพร้อมที่จะต่อสู่ป้องกันอันตรายทุกอย่าง หากจะมีขึ้นเพื่อรักษาเอกราช อธิปไตย และความเป็นไทยของเราไว้ตลอดกาลนาน
 
=== 1965 ===
 
* ภัยอันใหญ่หลวงอาจมาถึงตัวเราได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ท่านทั้งหลายอย่าได้มีความประมาท ขอให้ท่านต่อต้านการรุกรานนี้ด้วยความร่วมมือกันทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายประชาชน และด้วยความเสียสละ พร้อมทั้งตั้งใจประกอบการงานด้วยความขยันขันแข็ง โดยมุ่งถึงความปลอดภัยและความวัฒนาถาวรของประเทศชาติโดยส่วนร่วมเป็นสำคัญ
 
=== 1966 ===
 
* ชี้ให้เห็นความเป็นหนึ่งอันเดียวกันของชาติไทยเราอย่างแจ่มชัด ความเสียสละช่วยเหลือกันและกันที่ประชาชนทั้งชาติ ได้แสดงให้ปรากฏนั้นเป็นหลักประกันความมั่นคงของบ้านเมืองของเราอย่าแท้จริง
 
=== 1968 ===
 
* ถ้าทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ คือความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ด้วยความสุจริตและด้วยความรู้ความสามารถด้วยจริงใจ ไม่นึกถึงเงินทองหรือนึกถึงผลประโยชน์ใด ๆ ก็เป็นการทำหน้าที่โดยตรงและได้ทำหน้าที่โดยเต็มที่
 
=== 1969 ===
 
* งานด้านการศึกษาเป็นงานสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของชาตินั้น ขึ้นอยู่กับการศึกษาของพลเมืองเป็นข้อใหญ่ ตามข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีแล้ว ระยะนี้บ้านเมืองของเรามีพลเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งมีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้นด้วยว่า พลเมืองของเราบางส่วนเสื่อมทรามลงไปในความประพฤติและจิตใจ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตก ว่า ถ้าหากยังคงเป็นอยู่ต่อไป เราอาจเอาตัวไม่รอด ปรากฏการณ์เช่นนี้ นอกจากเหตุอื่นแล้ว ต้องมีเหตุมาจากการศึกษาด้วยอย่างแน่นอน จึงพูดได้เต็มปากแล้วว่า เราจะต้องจัดงานด้านการศึกษาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
*การที่เราวางโครงการพัฒนาต่าง ๆ ขึ้นและเร่งรีบดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ก็เพื่อปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นทรัพยากรตามธรรมชาติ ให้สามารถอำนวยประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนส่วนรวมให้ได้มากที่สุด แต่การพัฒนาเช่นนี้ นอกจากจะได้รับผลดีตามความประสงค์ อาจกระทบกระเทือนถึงประโยชน์อย่างอื่น ๆ ด้วยก็ได้
 
=== 1970 ===
 
* ถ้าประชาชนไม่มีที่พึ่ง ไม่มีผู้ใดเอาใจใส่ พอ พึ่งทางราชการ ไม่ได้ ก็ต้องหันไปพึ่งผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพลจึงเป็นหน้าที่ของทาง ราชการที่จะปฏิบัติงาน เพื่อให้การบริการของ ราชการได้เข้าถึงประชาชน โดยทั่วถึงและทำด้วยความสุจริต
*งานด้านการศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมนั้น คืองานสร้างสรรค์ความเจริญทางปัญญาและทางจิตใจ ซึ่งเป็นทั้งต้นเหตุทั้งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของความเจริญด้านอื่น ๆ ทั้งหมด และเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เรารักษาและดำรงความเป็นไทยไว้ได้สืบไป
*ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคน ทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง
*งานพัฒนาบ้านเมืองนั้น ต้องอาศัยบุคคลสองประเภทคือ นักวิชาการกับผู้ปฏิบัติ นักวิชาการเป็นผู้วางโครงการ เป็นผู้นำ เป็นผู้ชื้ทาง เป็นที่ปรึกษาของผู้ปฏิบัติ ส่วนผู้ปฏิบัตินั้นเป็นผู้ลงมือลงแรงกระทำงาน งานจะได้ผลหรือไม่เพียงไร ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองฝ่ายนี้ ถ้ามีความเข้าใจและร่วมงานกัน ก็ไม่มีอุปสรรค ได้ผลงานเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้าหากไม่เข้าใจกันก็เกิดอุปสรรคล่าช้า ซึ่งมักปรากฏอยู่เสมอ และจำเป็นจะต้องแก้ไข ท่านทั้งหลายซึ่งสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาแล้วนี้ เป็นผู้มีความรู้และความคิดอ่านอันกว้างขวาง อยู่ในฐานะที่จะเป็นทั้งนักวิชาการและผู้ปฏิบัติ ควรเป็นผู้สามารถสร้างความเข้าใจตามหลักวิชาและหลักปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
 
=== 1971 ===
 
* ทุกวันนี้คนทั่วไปนิยมยินดีอย่างมาก ในความคิดและการกระทำโดยอิสระเสรี เด็กก็ได้รับการส่งเสริม และสั่งสอนให้ทำให้คิดอย่างอิสระ การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจำใช้จำเป็นจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขาก็มีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะนั้นจะทำให้มีความยุ่งยาก จะทำให้สังคม และชาติประเทศต้องแตกสลายโดยสิ้นเชิง
* ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็น ว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย
*ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใด โดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุก ๆ ฝ่ายทุก ๆ คน ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน
*การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุข ของส่วนร่วมด้วย
*การทำงานใหญ่ ๆ ทุกอย่าง ต้องการเวลามาก กว่าจะทำสำเร็จ ผู้ที่เริ่มโครงการอาจไม่ทันทำให้สำเร็จโดยตลอดด้วยตนเองก็ได้ ต้องมีผู้อื่นรับทำต่อไป ดังนั้น ไม่ควรยกเอาเรื่องใครเป็นผู้เริ่มงาน ใครเป็นผู้รับช่วงงาน ขึ้นเป็นข้อสำคัญนัก จะต้องถือผลสำเร็จที่จะเกิดจากงาน เป็นใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งอื่น
*การให้การศึกษาอีกขั้นหนึ่ง คือ การสอนและการฝึกฝนให้เรียนรู้วิทยาการที่ก้าวหน้าขึ้นไป พร้อมทั้งการฝึกฝนให้รู้จักใช้เหตุผล สติปัญญา และหาหลักการชีวิต เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ความเจริญงอกงาม ทั้งทางกายและทางความคิด ผู้ทำงานด้านการศึกษาจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ และได้รับความยกย่องเป็นอย่างสูงตลอดมา ในฐานะที่เป็นผู้ให้ชีวิตจิตใจตลอดจนความเจริญทุกอย่างแก่อนุชน
*ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง
*การจรรโลงประเทศเป็นหน้าที่ของคนทุกคน แต่ผู้มีการศึกษาสูงมีความรู้สูง ย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบเป็นพิเศษ ท่านทั้งหลายจะต้องใช้วิชาความรู้ให้เกิดประโยชน์เพื่อสร้างสังคม ซึ่งเป็นที่พึ่งที่อาศัยของทุกคน ให้เป็นสังคมที่มีความเจริญมั่นคง และก้าวหน้า ในการนี้ แต่ละคนจะต้องตั้งความปรารถนาอันสูงไว้ จะต้องเข้มแข็ง อดทน ไม่ย่อท้อ และไม่คลายจากความเพียร ที่สำคัญยิ่งจะต้องคิดหาวิธีการที่จะรวมบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนี้ทุกคน พร้อมทั้งบรรดาผู้มีความรู้ความสามารถและสติปัญญาอื่น ๆ ให้เข้ามาร่วมมือร่วมแรงกันโดยพรักพร้อม ผนึกกำลังเข้าด้วยกันให้เกิดเป็นพลังอันแข็งแกร่งมั่นคง เมื่อพลังนั้นเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับแผ้วถางอุปสรรคและปัญหายุ่งยากทั้งปวง เพื่อเปิดทางให้แต่ละคนได้ใช้ความรู้ความสามารถ ปฏิบัติงานทุก ๆ อย่างอย่างเต็มภาคภูมิและดำเนินถึงจุดมุ่งหมาย คือความสุขความเจริญของชาติ ได้ดังประสงค์
*เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแก่บ้านเมืองเป็นลำดับมา ทำให้ทราบได้แน่ชัดว่า เราจำเป็นจะต้องทำงานช่วยตัวเองให้หนักแน่นยิ่งขึ้น เพื่อรักษาตัวให้อยู่รอดตลอดไปโดยอิสระและเสรี คนไทยเรานั้น แท้จริงมีนิสัยจิตใจดี เป็นนักสู้ เป็นคนซื่อตรง ขยันขันแข็งและอดทน เป็นคนรักเผ่าพันธุ์พวกพ้องและบ้านเกิดเมืองนอน แต่ละคนจะต้องหยิบยกเอาคุณสมบัติเหล่านี้ที่มีอยู่ภายในตัวขึ้นมาปฏิบัติให้ได้ผล โดยถือว่าทุกคนล้วนมีความสำคัญต่อประเทศชาติอยู่ด้วยกันทั้งนั้น จะต้องทำหน้าที่ของตน ๆ ให้พร้อมเพรียงกัน เพื่อประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของส่วนรวม หากทำได้เช่นนี้ ก็จะสามารถแก้ไขความบกพร่องต่าง ๆ ที่มีอยู่ และจะสามารถร่วมแรงกันสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคง พร้อมทั้งความเจริญรุดหน้าให้แก่บ้านเมืองของเราได้อย่างแน่นอน
 
=== 1972 ===
 
* ใการสร้างงานศิลปะทุกอย่างทุกประเภท นอกจากจะต้องใช้ความฝึกหัดชัดเจนในทางปฏิบัติ ประกอบกับวิธีการที่ดีอย่างเหมาะสมแล้ว ศิลปินจำต้องมีความจริงใจและความบริสุทธิ์ใจในงานที่ทำด้วย จึงจะได้ผลงานที่มีค่าควรแก่การยอมรับนับถือ
*การให้การศึกษานั้น กล่าวโดยจุดประสงค์ที่แท้จริง คือการสร้างสรรค์ความรู้ ความคิด พร้อมทั้งคุณสมบัติและจิตใจที่สมบูรณ์ให้เกิดขึ้นในตัวบุคคล เพื่อช่วยให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและราบรื่น ทั้งสามารถบำเพ็ญประโยชน์สุขเพื่อตน เพื่อส่วนรวมได้ตามควรแก่อัตภาพ ผู้ทำหน้าที่ด้านการศึกษาทุกฝ่ายทุกระดับ ควรจะได้มุ่งทำงานเพื่อวัตถุประสงค์นี้ยิ่งกว่าสิ่งใด
*การให้การศึกษาที่ดีนั้น เป็นงานที่ละเอียดลึกซึ้งมาก จำเป็นต้องใช้ความรอบรู้อันกว้างขวาง ใช้ความสุขุมรอบคอบ ประกอบด้วยความตั้งใจและความเพียรพยายามอย่างแรงกล้า จึงจะทำได้สำเร็จ
*ความจริงใจต่อผู้อื่นเป็นคุณธรรมสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะช่วยให้สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจและเอารัดเอาเปรียบกัน นอกจากนั้น ยังทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ และความร่วมมือสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย ที่ถือมั่นในเหตุผลและความดี ผู้มีความจริงใจจะทำการสิ่งใดก็มักสำเร็จได้โดยราบรื่น
*การพัฒนาประเทศ เพื่อให้เกิดความเจริญความมั่นคงแก่คนส่วนรวมทั้งชาติได้แท้จริงนั้น จะต้องอาศัยหลักวิชาอันถูกต้อง และต้องกระทำพร้อมกันไปทุก ๆ ด้านด้วย เพราะความเป็นไปทุกอย่างในบ้านเมือง มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงถึงกันหมด เพียงแต่จะทำงานด้านการเกษตร ซึ่งโดยหลักใหญ่ได้แก่การกสิกรรมและสัตวบาล อย่างน้อยที่สุดก็ยังต้องอาศัยวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์สหกรณ์เข้าช่วยด้วย ทุกคนซึ่งเป็นผู้ที่จะใช้วิชาการในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป ควรทราบให้ถ่องแท้ว่าในการนั้นจำเป็นที่สุดที่จะต้องใช้วิชาการ ทำงานร่วมมือกันให้ประสานสอดคล้องทุกฝ่าย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สอนวิชาการมากมายหลายสาขา สำหรับให้นำมาใช้ประกอบกันในงานของชาติ นิสิตนักศึกษาทุกคณะควรจะได้รู้จักรวมกันและร่วมงานกัน ตั้งแต่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะแบ่งแยกกัน ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น และเมื่อสำเร็จจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว ก็ต้องร่วมมือร่วมงานกัน ทั้งต้องประสานงานกับผู้อื่นให้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อไป งานทุกด้านจึงจะดำเนินลุล่วงไปได้โดยราบรื่น ทุกคนจึงจะมีความมั่นคง มีความผาสุกได้
 
=== 1973 ===
 
* ไม่มีใครอยากเป็นแพทย์ทหาร ก็มีความจำเป็นที่จะมีแพทย์ทหารทางราชการทหาร ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในด้านวิชานี้ ซึ่งก็มีเหตุผลอยู่เมื่อมีการแสดงความไม่พอใจ หรือไม่เห็นด้วยในการนี้ก็ทำตาม คือระงับการเรียนในมหาวิทยาลัย ก็เป็นอันว่าการวุ่นวายก็ได้ผลดีคือ ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งจุดประสงค์อันนี้ก็ไม่ต้องขอบอกว่า ไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง คิดเอาเอง ครั้นมาถึงเวลาที่บอกว่าไม่มาฝากแล้ว ทางราชการทหารจะตั้งโรงเรียนแพทย์เอง คือ โรงเรียน สำหรับแพทย์ทหาร ก็เกิดโวยวายขึ้นมาใหม่โวยวายว่า ทำไมทหารต้องมีแพทย์ทหาร มีโรงเรียนแพทย์ทหาร ตั้งขึ้นมาใหม่ ก็ในการที่ทหารมาฝากเรียนก็มากินที่คนอื่น เมื่อกินที่คนอื่นเขาก็ต้องทำที่ที่อื่น ไม่มาเบียดเบียน ทำไมเมื่อเขาตั้งโรงเรียนแพทย์ทหารขึ้นมาจะต้องโวยวาย อันนี้ก็ต้องมีเหตุผลในสมอง ไม่ขอผ่าสมองดู ว่าคิดถูกหรือไม่ถูก หรืออาจเป็นคนละคนก็ได้ หรืออาจไม่ได้ทันคิดว่าคำพูดสองอย่างนี้มันขัดกัน
* การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
*การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยวิธีการใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป
 
* วันนี้เป็นวันมหาวิปโยคที่น่าเศร้าสลดอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลา 6 - 7 วันที่ผ่านมา ได้มีการเรียกร้องและการเจรจากัน จนกระทั่งนักศึกษาและรัฐบาลทำข้อตกลงกันได้ แต่แล้วการขว้างระเบิดขวด และยิงแก๊สน้ำตาทำให้เกิดการปะทะกัน และมีคนได้รับบาดเจ็บหลายคน ความรุนแรงได้ทวีขึ้นทั่วพระนครถึงขั้นจลาจล และยังไม่สิ้นสุด มีคนไทยด้วยกันเสียชีวิตนับร้อย ขอให้ทุกฝ่ายทุกคนจงระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้งเพื่อให้ชาติบ้านเมืองคืนอยู่ในสภาพปกติ อนึ่ง เพื่อขจัดเหตุร้ายนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อค่ำวันนี้ ข้าพเจ้าจึงแต่งตั้งให้นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
*การศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นการศึกษาที่สำคัญ และควรจะดำเนินควบคู่กันไปกับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เพราะความเจริญของบุคคล ตลอดจนถึงความเจริญของประเทศและของโลกโดยส่วนรวมด้วยนั้นมีทั้งทางวัตถุและจิตใจ ความเจริญทั้งสองทางนี้ จะต้องมีประกอบกัน เกื้อกูลและส่งเสริมกันพร้อมมูล จึงจะเกิดความเจริญที่แท้จริงได้ ประเทศทั้งหลายจึงต่างพยายามส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมนี้พร้อมกันไปกับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
*การทำงานอย่างให้มีคุณภาพ ให้ได้ผลบริบูรณ์นั้น จะทำอย่างไร เบื้องต้น ต้องทำความเห็นให้ถูกต้องในงานที่จะทำเสียก่อน โดยใช้ปัญญาไตร่ตรองให้เห็นเหตุที่แท้ผลที่แท้ ที่ถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่พึงมุ่งหวัง แล้ววางแผนการอันแน่นอนที่จะดำเนินการต่อไป ด้วยหลักวิชา ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน และสำคัญที่สุด ต้องมีความพากเพียรไม่ย่อหย่อน ในอันที่จะกระทำต่อตามไปจนกว่าจะเป็นผลสำเร็จ
 
=== 1974 ===
 
* เด็กควรขวนขวายหาวิชา พร้อมทั้งฝึกความเป็นระเบียบรู้เหตุผลให้แก่ตัว เพราะวิชาและความเป็นระเบียบนั้นจะช่วยให้คิดถูก ทำถูก พูดถูก จะทำให้เป็นคนมีอิสรภาพแท้อย่างเต็มเปี่ยม ในวันข้างหน้า
*การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นอันพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด
*ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชาและความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่าง ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ ถ้ามีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความสุขมีความเป็นปึกแผ่น
*ถ้าท่านทั้งหลายช่วยกันคิด ช่วยกันทำ – แม้จะมีการเถียงกันบ้างก็เถียงกัน แต่เถียงด้วยรากฐานของเหตุผล และเมตตาซึ่งกันและกัน – และสิ่งที่สูงสุดก็คือประโยชน์ร่วมกัน คือความพอมีพอกิน พออยู่ ปลอดภัยของประเทศชาติ ทั้งนี้ถ้าทำไปตามที่ว่านี้ก็เป็นของขวัญวันเกิด ที่ล้ำค่า
*การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด ดังเห็นได้ที่อารยประเทศหลายประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงอยู่ในเวลานี้ บัณฑิตทั้งปวงจึงควรจะได้คิดพิจารณาอย่างละเอียดถ่องแท้และหนักแน่นให้เห็นถึงหลักการและวิธีการอันถูกอันควรที่จะปฏิบัติงานของตน ในเบื้องหน้าเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของชาติและการครองชีพของประชาชนดำเนินไปด้วยดี
*การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนในการประกอบอาชีพและตั้งตัว ให้มีความพอกินพอใช้ก่อนอื่นเป็นพื้นฐานนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะผู้ที่มีอาชีพและฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงขึ้นต่อไปได้โดยแน่นอน ส่วนการถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลว และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์ เพราะหากไม่กระทำด้วยความระมัดระวัง ย่อมจะหวังผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้โดยยาก ยกตัวอย่างเช่นการปราบศัตรูพืชถ้าทุ่มเททำไปโดยไม่มีจังหวะที่ถูกต้อง และโดยมิได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้กระจ่างชัดอย่างทั่วถึงก็อาจสิ้นเปลืองแรงงาน ทุนทรัพย์ วัสดุอุปกรณ์ ที่ล้วนมีราคาไปโดยได้รับผลไม่คุ้มค่า ยิ่งกว่านั้นการทำลายศัตรูพืช ยังอาจทำลายศัตรูของพืชที่มีอยู่บ้างแล้วตามธรรมชาติ และทำอันตรายแก่ชีวิตคนชีวิตสัตว์เลี้ยงอีกด้วย การพัฒนาอย่างถูกต้อง ซึ่งหวังผลอันยั่งยืนไพศาล จึงต้องวางแผนงานเป็นลำดับขั้นอย่างถี่ถ้วนทั่วถึง ให้องค์ประกอบของแผนงานทุกส่วนสัมพันธ์และสมดุลกันโดยสอดคล้อง
*กิจเฉพาะหน้าของเราทั้งหลายทุกคนที่จะต้องทำ ก็คือ ต้องรับสถานการณ์อันวิกฤตนี้ด้วยใจอันมั่นคง ไม่หวั่นไหวและด้วยความรู้เท่าถึงการณ์ พร้อมกับร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติแก้ไขผ่อนหนักให้เป็นเบา ด้วยความสงบและพร้อมเพรียง ไม่ก่อความวุ่นวายให้สถานการณ์ยิ่งร้ายลงไปอีก ทุกฝ่ายจำเป็นต้องเข้าใจในกันและกัน เห็นใจกัน เสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ร่วมกันอุ้มชูกันไว้ เหมือนดังที่ได้เคยอุ้มชูกันมาแต่กาลก่อน เมื่อรวมกันดังนี้ ก็จะเกิดพลังยิ่งใหญ่ ที่จะสามารถขจัดอุปสรรคขัดข้องทั้งปวงให้หมดสิ้นไปได้ในที่สุด
 
=== 1975 ===
 
* ข้าพเจ้าจึงใคร่ให้ทุกฝ่ายยืนหยัดขึ้นต้านท้านวิกฤตการณ์ทั้งนั้น โดยพร้อมกายพร้อมใจกันเร่งรัดปฏิบัติสรรพกิจการงานโดยขะมักเขม้น ให้ประสานสอดคล้องและเกื้อกูลกัน
*บัณฑิตผู้มีความรู้ เป็นส่วนหนึ่งของกำลังของชาติ จึงน่าจะถือตนว่ามีหน้าที่อันสำคัญยิ่งที่จะต้องปฏิบัติการร่วมกับกำลังส่วนอื่น ๆ โดยประสานสอดคล้อง ทั้งส่งเสริมกันและกันอย่างเหมาะสม พร้อมเพรียง และเข้มแข็ง เพื่อให้กำลังปฏิบัติการส่วนรวมทั้งประเทศมีประสิทธิภาพบริบูรณ์เต็มเปี่ยม
*ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็กเพราะว่าต่อไป ถ้ามีชีวิตที่ลำบาก ไปประสบอุปสรรคใด ๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็ง ในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ นั้นได้
*ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้องทุนแต่ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลงๆจนหมด
*การเรียนรู้วิทยาการขั้นสูงต่าง ๆ เป็นประโยชน์เชิดชูตัว และช่วยตัวได้กว้างไกลมาก ในการที่จะดำเนินงานดำเนินชีวิตให้เจริญก้าวหน้า แต่ทั้งนี้บุคคลจะต้องพยายามควบคุมตัว มิให้ติดอยู่ในตำราหรือทฤษฎีมากจนเกินไป เพราะมิฉะนั้นเมื่อไปพบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงาน ซึ่งไม่ตรงหรือไม่สอดคล้องกับตำราเข้า อาจก่อให้เกิดความสนเท่ห์ลังเลใจ ทำให้ทำงานไม่ได้ ต้องหยุดชะงัก ก็เสียงาน หรืออาจทำให้เกิดอคติ เกิดความคิดที่ไม่ใช่ทฤษฎีทั้งไม่ใช่วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องขึ้น มากดดันชักนำให้ทำการไปอย่างผิด ๆ ทั้งสองอย่างเป็นโทษเสียหายแก่งานแก่ตน แก่ส่วนรวมอย่างใหญ่หลวง
*ใครก็ตามเมื่อได้ลงมือทำงาน ก็ย่อมจะต้องประสบปัญหาการปฏิบัติงาน ที่นำเอาทฤษฎีมาใช้ตรง ๆ ไม่ได้อยู่เสมอ ทำให้เกิดความลังเลสงสัยไม่มั่นใจขึ้น และต้องหยุดชะงัก ซึ่งเป็นผลเสีย คือเสียเวลา เสียการเสียงาน และเสียประโยชน์ที่พึงจะได้ไปมาก และโดยที่งานต้องดำเนินต่อไปโดยไม่ขาดสาย ก็เกิดความจำเป็นที่จะต้องหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว ความต้องการให้งานเสร็จ ๆ ไปนั้น จะชวนให้มักง่าย หันไปหยิบไปฉวยเอาวิธีปฏิบัติและทฤษฎีของคนอื่นมาใช้ โดยที่เขามีสำเร็จรูปอยู่แล้ว และเขาหยิบยื่นมาให้ ถ้าทำเช่นนั้น ทฤษฎีที่รับของเขามาใช้ทั้งดุ้น มีหวังไม่เหมาะไม่ตรงกับงานกับปัญหา และกับสภาพการณ์แวดล้อมต่าง ๆ ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ก็มีหวังเสียหายใหญ่ วิธีที่ถูกที่เราจะต้องทำ คือดำเนินงานส่วนที่ทำได้ต่อไป แล้วรีบขบคิดปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาศัยทฤษฎีของเราที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก โดยคิดว่าทฤษฎีทั้งหลายวางไว้เป็นหลักใหญ่สำหรับงานโดยส่วนรวม เมื่อเรามาปฏิบัติงานที่เฉพาะลงไป เราจำเป็นต้องใช้ความสามารถของตน นำเอาทฤษฎีนั้น ๆ มาปรุงกับวิทยาการ แล้วปรับให้เข้ากับสภาพการณ์ที่เผชิญอยู่ด้วยตนเอง ให้ปัญหาคลี่คลายลุล่วงไปโดยเร็ว การแก้ปัญหาเพื่อกำจัดปลดเปลื้องความสงสัยลังเลนี้ จำเป็นที่จะต้องฝึกหัดกระทำได้โดยฉับไว ชัดเจน เพราะในชีวิตเรานั้น เราจะต้องประสบปัญหาขัดข้องอยู่ตลอดเวลา และถ้าสร้างความพร้อมและความมั่นใจดังนี้ได้ เราก็จะสามารถดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายและเกิดประโยชน์แก่งานแก่ตัวเองได้อย่างแน่นอน
 
=== 1976 ===
 
* สามัคคี คือการเป็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิธีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแย่งตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมนั้นคือความมั่นคงของบ้านเมือง
* ประเทศชาติจะอยู่ได้ก็ด้วยความสามัคคี เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่ปัดขาปัดแข้งกัน หรือ อิจฉาริษยากัน ทำเช่นนั้นก็จะทำให้เมืองไทยอยู่ต่อไปได้อย่างที่เคยอยู่มาเป็นหลายศตวรรษมาแล้ว ไม่มีใครที่จะมาล้มเราได้ ถ้าเราไม่ล้มตนเอง
* คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญ ความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ
*ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เกิดที่เป็นอยู่แก่เราในวันนี้ ย่อมมีต้นเรื่องมาก่อน ต้นเรื่องนั้นคือ เหตุ สิ่งที่ได้รับคือ ผล และผลที่ท่านมีความรู้อยู่ขณะนี้ จะเป็นเหตุให้เกิดผลอย่างอื่นต่อไปอีก คือ ทำให้สามารถใช้ความรู้ที่มีอยู่ทำงานที่ต้องการได้ แล้วการทำงานของท่าน ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลอื่น ๆ ต่อเนื่องกันไปอีก ไม่หยุดยั้ง
*ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบ เป็นหลักสำคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบและหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสำหรับใช้กระทำการทำงาน สิ่งหลังเป็นปัจจัยสำหรับส่งเสริมความประพฤติ และการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม
*วิชาการต่าง ๆ ที่จัดสอนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น กล่าวโดยเบ็ดเสร็จก็คือ วิชาการสำหรับใช้ในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดังนั้น เมื่อมามอบปริญญาบัตรที่นี่จึงรู้สึกปีติยินดีว่าบ้านเมืองของเราจะได้กำลังของผู้มีความรู้และมีความกระตือรือร้น มาช่วยงานของชาติเพิ่มขึ้น
*การจะทำงานให้มีประสิทธิผลและให้ดำเนินไปได้โดยราบรื่นนั้น จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องทำด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนจุดประสงค์ที่แท้จริงของงาน สำคัญที่สุด ต้องเข้าใจความหมายของคำว่า "ความรับผิดชอบ" ให้ถูกต้อง ขอให้เข้าใจว่า "รับผิด" ไม่ใช่การรับโทษ หรือถูกลงโทษ "รับชอบ" ไม่ใช่รับรางวัล หรือรับคำชมเชย การรู้จักรับผิด หรือยอมรับรู้ว่าอะไรผิดพลาดเสียหาย และเสียหายเพราะอะไร เพียงใดนั้น มีประโยชน์ทำให้บุคคลรู้จักพิจารณาตนเอง ยอมรับความผิดของตนเองโดยใจจริง เป็นทางที่จะช่วยให้แก้ไขความผิดได้ และให้รู้ว่าจะต้องปฏิบัติแก้ไขใหม่ ส่วนการรู้จักรับชอบ หรือรู้ว่าอะไรถูก อันได้แก่ถูกตามความมุ่งหมาย ถูกตามหลักวิชา ถูกตามวิธีการนั้น มีประโยชน์ทำให้ทราบแจ้งว่า จะทำให้งานสำเร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร จักได้ถือปฏิบัติต่อไป นอกจากนั้น เมื่อเข้าใจความหมายของคำว่า "รับผิดชอบ" ตามนัยดังกล่าวแล้ว ผู้ที่เข้าใจซึ้งในความรับผิดชอบ จะสำนึกตระหนักได้ทันทีว่า ความรับผิดชอบคือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ จะหลีกเลี่ยงละเลยไม่ได้
*อันแผ่นดินไทยของเรานี้ ถึงจะเป็นที่เกิดที่อาศัยของคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา แต่เราก็อยู่ร่วมกันโดยปรกติราบรื่นมาได้เป็นเวลาช้านาน เพราะเราต่างสมัครสามนกันอุตสาห์ช่วยกันสร้างบ้านสร้างเมือง สร้างความเจริญ สร้างจิตใจ สร้างแบบแผนที่ดีขึ้น เป็นของเราเอง ซึ่งแม้นานาประเทศก็น่าจะนำไปเป็นแบบฉบับได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราทั้งหลายมีสามัคคี มีเหตุผลอันหนักแน่น และมีความรู้ความเข้าใจอันถูกต้องชัดเจนในสถานการณ์ที่เป็นจริง ต่างคนต่างร่วมมือร่วมความคิดกันในอันที่จะช่วยกันผ่อนคลายปัญหาและสถานการณ์ที่หนักให้เป็นเบา ไม่นำเอาประโยชน์ส่วนน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้เสียหายถึงประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติบ้านเมือง เชื่อว่าเราจะสามารถรักษาชาติประเทศและความผาสุกสงบที่เราได้สร้างสมและรักษาสืบต่อกันมาช้านานนั้น ไว้ได้
 
=== 1977 ===
 
* การที่จะทำงานให้สัมฤทธิ์ผลที่พึงปรารถนาคือ ที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรมด้วยนั้น จะอาศัยความรู้แต่เพียงอย่างเดียวมิได้ จำเป็นต้องอาศัยความสุจริต ความบริสุทธิ์ใจและความถูกต้องเป็นธรรมประกอบด้วย เพราะเหตุว่าความรู้นั้นเป็นเหมือนเครื่องยนต์ที่ทำให้ยวดยานเคลื่อนไปได้ประการเดียว ส่วนคุณธรรมดังกล่าวแล้วเป็นเหมือนหนึ่งพวงมาลัยหรือหางเสือ ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำพาให้ยวดยานดำเนินไปถูกทาง ด้วยความสวัสดีคือปลอดภัยจนบรรลุถึงจุดหมายที่พึงประสงค์
*การที่แต่ละคนมีอิสระมากในการเล่าเรียนนั้น ทำให้พลาดพลั้งเสียผลในการศึกษาและอื่น ๆ ได้ง่ายที่สุด ยิ่งมีอิสระมากขึ้น เท่าใดก็ต้องมีการข่มใจ บังคับใจมากขึ้นเท่านั้น หาไม่แล้วจะมาเป็นบัณฑิตอย่างนี้ไม่ได้ การข่มใจบังคับตนเอง ให้ขะมักเขม้นเรียนอยู่ด้วยความหมั่นขยันนั้น ที่จริงก็คือการตั้งระเบียบข้อบังคับ หรือการกำหนดวินัยที่ดีให้แก่ตนนั้นเอง จึงเห็นได้ว่ามีอิสรภาพกับวินัย ซึ่งดูเผิน ๆ เหมือนกับเป็นสิ่งตรงข้ามกันนั้น แท้จริงเป็นของคู่กัน ทั้งจำเป็นจะต้องให้ควบคู่กันเพื่อให้ควบคุมกันอยู่เสมอ มิฉะนั้น จะหวังผลที่ดีอันพึงประสงค์ไม่ได้ เช่น ทุกคนซึ่งมีความรู้ ความคิด สติปัญญา สามารถที่จะสร้างประโยชน์ต่าง ๆ ได้พร้อมมูลอยู่นี้ ถ้าขาดวินัย ก็อาจปล่อยตัว ปล่อยใจให้เป็นไปตามความสะดวกสบาย ทำให้สูญเสียประโยชน์ที่พึงจะได้ไปเปล่า ๆ เท่ากับได้เบียดเบียนทำลายตนเองและทำลายผู้อื่นให้เสียหายด้วยอย่างน่าตำหนิที่สุด เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่ทุกคนจะต้องใช้วินัยบังคับ คือบังคับให้ทำความดีความเจริญให้แก่ตน และเผื่อแผ่ความดีความเจริญนั้นแก่ผู้อื่นพร้อมกันไปด้วย ยิ่งฉลาดสามารถเพียงใด ก็ต้องปฏิบัติให้เคร่งครัดยิ่งขึ้นเพียงนั้น
*เด็ก ๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้ เป็นคนมีระเบียบ และคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถ เล่าเรียน และทำการงานต่าง ๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่สร้างความสำเร็จและความเจริญให้แก่ ตนเองแก่ส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
*เด็ก มีสมองแจ่มใส เชื่อและจำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งมี ความอยากรู้อยากเห็นมากด้วย เพราะฉะนั้น จึงควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องได้รับการศึกษาฝึกฝนที่ดีแต่เยาว์วัย เพื่อ ให้มีความรู้ความสามารถและคุณธรรมที่จะสร้างสรรค์ความเจริญ ก้าวหน้า และความวัฒนาผาสุกให้แก่ตนเองและส่วนรวมในกาลข้างหน้า
*การให้การศึกษาถือว่าเป็นการให้สิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นการหล่อหลอมวางรูปแบบให้แก่อนุชน ทั้งทางความรู้ความสามารถ ทั้งทางจิตวิญญาณ ผู้มีหน้าที่ให้การศึกษาทุกตำแหน่งหน้าที่ จึงมีความรับผิดชอบอย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมือง ในการสร้างพลเมืองที่ดี
*คำว่าเกษตรศาสตร์ อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนี้นั้น ฟังดูมีความหมายจำกัดอยู่เพียงการทำนา แต่ความจริง เกษตรศาสตร์ ตามความหมายในปัจจุบัน กินความกว้างขวางมาก คือรวมเอาวิชาหรือศาสตร์ทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจิตใจของมนุษย์เข้าไว้เกือบทั้งหมด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงสอนวิชาการสาขาต่าง ๆ มากมายหลายสาขา ทั้งฝ่ายวิทยาศาสตร์ ทั้งฝ่ายศิลปศาสตร์ เรียกได้ว่าครบถ้วนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยในความหมายสากลอย่างสมบูรณ์ ยิ่งกว่านั้น วิชาที่จัดสอน รวมทั้งความรู้ความสามารถของผู้สำเร็จการศึกษาออกมา ก็มีมาตรฐานสูง เป็นที่รับรองยกย่องทั่วไปแม้ในนานาประเทศ บัณฑิตของมหาวิทยาลัยนี้ก็ออกไปปฏิบัติการในวงงานต่าง ๆ ได้มากหลาย ไม่เฉพาะแต่งานด้านเกษตร ดังปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจอยู่ในบัดนี้ ผู้สำเร็จการศึกษาจากที่นี่ควรจะภูมิใจและมั่นใจในตัวเองได้เต็มที่ ว่าจะไม่มีปัญหาขัดข้องในการเริ่มชีวิตการงานของตน นอกจากสิ่งสำคัญอีกประการเดียว คือผู้เป็นบัณฑิตแต่ละคนจะต้องตั้งความคิด พร้อมทั้งความมุ่งปรารถนาอันแน่วแน่ที่จะทำงานของตน ต่อไป ให้ดีให้เข้มแข็งจริง ๆ จึงจะมีโอกาสได้ใช้วิชาความรู้และฝีมือสร้างสรรค์ประโยชน์กับทั้งความเจริญก้าวหน้าในการพัฒนาสถานภาพของสังคมและของชาติบ้านเมืองให้รุ่งเรืองถาวรยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้
*ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไป โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความเมตตา ด้วยความปรองดองกันและด้วยความปรารถนาดีต่อกัน ที่สุด ผลงานของทุกคนนั้นจะประมวลดันเข้าเป็นความสำเร็จและความวัฒนาถาวรของประเทศชาติได้ ไม่นานเกินคอย
 
=== 1978 ===
* ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญเราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้สิ้นเปลืองไปโดยไร้ประโยชน์ หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่ระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถือประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
*คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
*ความซื่อสัตย์สุจริตนี้ คือไม่โกง คือไม่คอรัปชั่น คือไม่ขโมย ไม่ทุจริต นี่ก็พูดได้ง่าย ๆ แต่ ปฏิบัติได้หรือเปล่า เพราะบางอย่างมันไม่ใช่ขโมย บางอย่างไม่ใช่คอรัปชั่น บางอย่างไม่ใช่ ทุจริต แต่ว่าเป็นการทำให้คนอื่นเขาทุจริตได้
*คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป
*ชาตินั้นเปรียบได้กับชีวิตคน. กล่าวตามหลักความจริง คนเราประกอบด้วยร่างกายส่วนหนึ่ง จิตใจส่วนหนึ่ง. ทั้งสองส่วนคุมกันอยู่บริบูรณ์ชีวิตก็คงอยู่. ส่วนใดส่วนหนึ่งทำลายไป ชีวิตก็แตกดับ เพราะอีกส่วนหนึ่งจะต้องแตกทำลายไปด้วย. ชาติของเรานั้นมีผืนแผ่นดินและประชากรอันรวมกันอยู่เป็นส่วนร่างกาย มีศิลปวิทยา มีธรรมเนียมประเพณี มีความเชื่อถือและความคิดจิตใจที่จะสามัคคีกันอยู่เป็นปึกแผ่น ซึ่งรวมเรียกว่า “ความเป็นไทย” เป็นส่วนจิตใจ. ชาติไทยเราดำรงมั่นคงอยู่ก็เพราะยังมีทั้งบ้านเมืองและความเป็นไทยพร้อม บริบูรณ์. แต่ถ้าความเป็นไทยของเรามีอันเป็นต้องเสื่อมสลายไปด้วยประการใดแล้ว ชาติก็ต้องสิ้นสูญ เพราะถึงหากบ้านเมืองและผู้คนจะยังอยู่ ก็ไม่มีสิ่งใดประสานยึดเหนี่ยวให้รวมกันอยู่ได้ จะต้องแตกแยกจากกันไปในที่สุด เหมือนส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ต้องแตกจากกันเมื่อสิ้นชีวิต
*มหาวิทยาลัยมีหน้าที่สำคัญประการแรก ที่จะส่งเสริมกิจการด้านวิชาการให้เจริญก้าวหน้าและกว้างขวางลึกซึ้ง แล้วจัดการให้นักศึกษาได้เล่าเรียนอย่างดี ให้แต่ละคนได้รับวิชาความรู้ตามที่ตั้งใจจะเรียนอย่างเต็มที่ โดยถือหลักว่าการเรียนจากครูบาอาจารย์และตำรับนั้นเป็นทางลัด ทำให้เรียนรู้ได้รวดเร็วกว่าการค้นคว้าด้วยตนเอง หากจะให้ค้นคว้าก็ต้องสอนวิธีให้ ไม่ใช่ปล่อยให้ค้นกันตามยถากรรมแบบงมเข็มในมหาสมุทร ซึ่งออกจะน่าเบื่อหน่ายและสิ้นเปลืองอย่างยิ่งไปทุกสิ่งทุกอย่าง อีกประการหนึ่ง สิ่งทั้งหลายอันเกี่ยวกับการแสดงผลการเรียน เช่น ระบบคะแนน เกียรตินิยม รางวัลการศึกษา ล้วนมีความสำคัญ มีอุปการะส่งเสริมการศึกษาทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านั้น นอกจากจะช่วยให้เกิดความหวังและกำลังใจให้ขะมักเขม้นในการเล่าเรียนแล้ว ยังเป็นเหมือนเข็มทิศหรือมาตร ที่นักศึกษาจะใช้วัดความรู้ ความสามารถ และความถนัดของตัวให้ทราบได้เป็นอย่างดี ว่าตนเองมีภูมิปัญญาและความสามารถเพียงไหน ควรที่จะศึกษาต่อไปในแนวทางใด ขั้นใด มหาวิทยาลัยจึงไม่ควรมองข้ามสิ่งดังกล่าว ไม่ว่าด้วยเหตุใด หากแต่ควรจัดทำให้เป็นปัจจัยวัดผลที่เป็นมาตรฐานเชื่อถือได้
*ชาตินั้นเปรียบได้กับชีวิตคน กล่าวตามหลักความจริง คนเราประกอบด้วยร่างกายส่วนหนึ่ง จิตใจส่วนหนึ่ง ทั้งสองส่วนคุมกันอยู่บริบูรณ์ชีวิตก็คงอยู่ ส่วนใดส่วนหนึ่งทำลายไป ชีวิตก็แตกดับ เพราะอีกส่วนหนึ่งจะต้องแตกทำลายไปด้วย ชาติของเรานั้นมีผืนแผ่นดินและประชากรอันรวมกันอยู่เป็นส่วนร่างกาย มีศิลปวิทยา มีธรรมเนียมประเพณี มีความเชื่อถือและความคิดจิตใจที่จะสามัคคีกันอยู่เป็นปึกแผ่น ซึ่งรวมเรียกว่า “ความเป็นไทย” เป็นส่วนจิตใจ ชาติไทยเราดำรงมั่นคงอยู่ก็เพราะยังมีทั้งบ้านเมืองและความเป็นไทยพร้อม บริบูรณ์ แต่ถ้าความเป็นไทยของเรามีอันเป็นต้องเสื่อมสลายไปด้วยประการใดแล้ว ชาติก็ต้องสิ้นสูญ เพราะถึงหากบ้านเมืองและผู้คนจะยังอยู่ ก็ไม่มีสิ่งใดประสานยึดเหนี่ยวให้รวมกันอยู่ได้ จะต้องแตกแยกจากกันไปในที่สุด เหมือนส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ต้องแตกจากกันเมื่อสิ้นชีวิต
*อันการทำนุบ้านเมืองนั้น เมื่อเป็นการกระทำของคนทั้งชาติ ก็ย่อมจะมีความขัดแย้งอันเกิดจากความคิดความเห็นที่ไม่ตรงกันเกิดขึ้นได้ จะให้สอดคล้องต้องกันตอลดทุกเรื่อง ย่อมเป็นการผิดวิสัย เพราะฉะนั้นแต่ละฝ่ายแต่ละคน จึงควรจะคำนึงถึงจุดประสงค์สำคัญ คือความเจริญไพบูลย์ของชาติเป็นใหญ่ ส่วนความคิดเห็นในวิธีการและข้อปฏิบัติ ซึ่งอาจมีแตกต่างกันได้นั้น ควรจะต้องถือเป็นเรื่องปลีกย่อย ที่มีความสำคัญรองลงมา ทุกฝ่ายควรจะทำให้ยุติธรรมเที่ยงตรง นำความคิดของตนมาเทียบเคียงกับของผู้อื่นโดยปราศจากอคติต่าง ๆ ได้นำความคิดความเห็นมาเทียบเคียงกันโดยไม่มีอคติ ตามหลักของเหตุผลแล้วก็เชื่อแน่ว่าจะปรับปรุงให้เข้ากันได้
 
=== 1979 ===
 
* ผู้ที่จะสามารถทำงานให้ชาตินั้น จำเป็นจะต้องมีใจตั้งมั่นในงาน มีความอดทนเสียสละ ซื่อสัตย์สุจริต และสำคัญกว่าอย่างอื่นจะต้องมีความคิดความเข้าใจที่กระจ่าง แน่นอน และเที่ยงตรง ตามเหตุผลความเป็นจริง
*การที่จะให้งานประสานกัน เพื่อช่วยให้งานของทุกฝ่าย ดำเนินก้าวหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วนั้น ทุกฝ่ายจะต้องไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ ไม่แย่งความชอบกัน แต่ละฝ่ายแต่ละคนต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งหวังผลสำเร็จในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งอื่น
*กฎหมายมิใช่ตัวความยุติธรรม หากเป็นแต่เพียงบทบัญญัติหรือปัจจัยที่ตราไว้เพื่อรักษาความยุติธรรม ผู้ใดก็ตามแม้ไม่รู้กฎหมายแต่ถ้าประพฤติปฏิบัติด้วยความสุจริตแล้วควรจะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายอย่างเต็มที่ ตรงกันข้ามคนที่รู้กฎหมายแต่ใช้กฎหมายไปในทางทุจริตควรต้องถือว่าทุจริต
*ไม่มีใครต้องการให้เกิดภัยธรรมชาตินั้น เราต้องใช้ภัยธรรมชาตินั้นเป็นครูที่จะสอนเรา
*คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ
*เด็ก เป็นผู้ที่จะได้รับช่วงทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากผู้ใหญ่ ดังนั้น เด็กทุกคนจึงสมควรและจำเป็น ที่จะต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเหมาะสม ให้มีศรัทธามั่นคงในคุณความดี มีความประพฤติเรียบร้อย สุจริต และมีปัญญาฉลาดแจ่มใสในเหตุผล
*บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้
*ความซื่อสัตย์สุจริตนั้น ขอวิเคราะห์ศัพท์ว่าความตรงไปตรงมาต่อสิ่ง ทั้งหลายน้อยใหญ่ ส่วนงานของราชการ ส่วนงานของตัวเองเป็นส่วนตัว ทั้งหมดคือความ ซื่อสัตย์สุจริต และคำว่าสุจริตนี้ก็มาจากคำว่าการท่องเที่ยวของจิตในทางที่ดี หรือคิดให้ดี คิดให้สุจริต ทั้งฉลาดด้วย ทั้งไม่เบียดเบียนผู้อื่นหรือการงานของตัว ทั้งไม่เบียดเบียนส่วนรวม ด้วย จึงจะเป็นผู้สุจริต
*การศึกษานอกระบบภายหลังที่สำเร็จการศึกษา หรือการศึกษาในมหาวิทยาลัยชีวิตจึงมีความสำคัญมาก ในการที่จะสร้างเสริมให้ผู้ผ่านการศึกษาในระบบมาแล้ว เกิดความรู้ ความเฉลียวฉลาด สามารถปรับตนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและสามารถดำรงตนให้อยู่ในสังคมอย่างมั่นคงเป็นสุข บัณฑิตทุกคน ซึ่งมีส่วนในการสร้างประสบการณ์ในชีวิตร่วมกันต่อไป จงได้ทราบตระหนักแล้วจงตั้งใจพยายามใช้สติปัญญาความสามารถที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ ควบคู่กับความรู้ความสามารถทางวิชาการที่มีอยู่ ประคับประคองรักษาสิ่งดีสิ่งเจริญและสถานภาพของบ้านเมืองไว้ พร้อมกับปรับปรุงแก้ไขให้วิวัฒนาไปตามลำดับขั้นด้วยความมั่นคง ชาติของเราก็จะอยู่รอดและดำเนินก้าวหน้าไปในโลกได้ด้วยความปลอดภัยเป็นอิสระ
*วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและประชาชนโดยทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่ โดยประหยัดเพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวต่อไปได้โดยสวัสดี
 
=== 1980 ===
 
* การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ ๆ
*เด็กมีโอกาสดีเพราะอยู่ในวัยที่มีผู้คอยโอบอุ้ม ช่วยเหลือ จึงต้องรีบเร่งขวนขวายเล่าเรียนความรู้ อบรม ความดี ฝึกหัดการทำการงาน ไว้ให้คล่องแคล่ว ขยันและอดทน เติบโตขึ้นจักได้เป็นที่พึ่ง ของตนเองและของคนอื่นได้ไม่เดือดร้อน
*เด็กต้องเรียนความรู้ อบรมความดี ฝึกหัดวินัยให้มีพร้อมแต่เยาว์วัย จึงจะมีความสุขความเจริญได้ ทั้งในวันนี้และวันหน้า
*ผู้ที่มีความสุจริตและบริสุทธิ์ใจ แม้จะมีความรู้น้อยก็ย่อมทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมได้มากกว่า ผู้มีความรู้มาก แต่ไม่มีความสุจริต ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ
*การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ
*ครูที่แท้จริงนั้นต้องเป็นผู้ทำแต่ความดี คือต้องหมั่นขยันและ อุตสาหะพากเพียร ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ต้องหนักแน่นอดทน และอดกลั้น สำรวมระวังความประพฤติปฏิบัติของตน ให้อยู่ในระเบียบ แบบแผนที่ดีงาม รวมทั้งต้องซื่อสัตย์ รักษาความจริงใจวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคติ
*รัฐบาล เป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติงานสำคัญ สำหรับความอยู่เย็นเป็นสุขของชาติบ้านเมือง จึงต้องบริหารให้ดีให้สอดคล้องกัน ถ้าผู้ที่บริหารประเทศปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ด้วยความอดทน ก็นำส่วนรวม ไปสู่ทางที่ดีได้
*การศึกษาหาความรู้จึงสำคัญตรงที่ว่า ต้องศึกษาเพื่อให้เกิด “ความฉลาดรู้” คือ รู้แล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ โดยไม่เป็นพิษเป็นโทษ การศึกษาเพื่อความฉลาดรู้มีข้อปฏิบัติที่น่าจะยึดเป็นหลักอย่างน้อยสองประการ ประการแรกเมื่อจะศึกษาสิ่งใดเรื่องใดให้รู้จริง ควรจะศึกษาให้ตลอด ครบถ้วนทุกแง่มุม ไม่ใช่เรียนรู้แต่เพียงบางส่วนบางตอน หรือเพ่งเล็งเฉพาะแต่เพียงบางแง่บางมุม อีกประการหนึ่งซึ่งจะต้องปฏิบัติประกอบพร้อมกันไปด้วยเสมอ คือต้องพิจารณาศึกษาเรื่องนั้น ๆ ด้วยความคิดจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปกติ และเที่ยงตรงเป็นกลาง
*การศึกษานั้น ไม่ว่าจะศึกษาเพื่อตนหรือจะให้แก่ผู้อื่น สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้ตรงตามวัตถุประสงค์ จึงจะได้ผลเป็นคุณเป็นประโยชน์ มิฉะนั้นจะต้องมีการผิดพลาดเสียหายเกิดขึ้น ทำให้เสียเวลาและเสียประโยชน์ไปเปล่า ๆ วัตถุประสงค์ของการศึกษานั้นคืออย่างไร กล่าวโดยความคิดรวบยอด ก็คือการทำให้บุคคลมีปัจจัยหรือมีอุปกรณ์สำหรับชีวิตอย่างครบถ้วนเพียงพอทั้งในส่วนวิชาความรู้ ส่วนความคิดวินิจฉัย ส่วนจิตใจและคุณธรรมความประพฤติ ส่วนความขยันอดทน และความสามารถในอันที่จะนำความรู้ความคิดไปใช้ปฏิบัติงานของตนเองให้ได้จริง ๆ เพื่อสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยความสุขความเจริญมั่นคง และสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคมและบ้านเมืองได้ตามควรแก่ฐานะด้วย
*คำว่า เกษตร ตามศัพท์หมายถึง นา เกษตรศาสตร์ จึงควรจะหมายถึงวิชาทำนา แต่เมื่อนำมาใช้เป็นชื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้น ความหมายกว้างออกไปมาก คือ หมายถึงวิชาทำไร่ ทำนา เพาะปลูก ป่าไม้ สัตวบาล ประมง และอื่น ๆ เช่น การสหกรณ์เป็นต้นด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มอาหารและเพิ่มผลผลิตของวัตถุดิบที่มาจากการเพาะปลูกเป็นสำคัญ ยิ่งในบัดนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดสอนวิชาการด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีก เช่น วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์และศิลปศาสตร์ อีกอย่างละหลายสาขา ความหมายของคำเกษตรศาสตร์จึงยิ่งขยายกว้างขวางไปหลายส่วนจนอาจทำให้บัณฑิต และนักศึกษาเข้าใจไปว่า วัตถุประสงค์หรือจุดหมายของมหาวิทยาลัยนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แท้ที่จริงแล้ว ควรจะเข้าใจว่า เจตนาหรือหลักการของมหาวิทยาลัยนั้น อยู่ที่การเพิ่มผลผลิตทางอาหารและวัตถุดิบทางการเกษตรเพื่ออุ้มชูส่งเสริมประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรให้มีอยู่ มีกิน มีฐานะมั่นคงขึ้น เพื่อให้ประเทศชาติโดยส่วนรวม มีความผาสุก มั่นคง เป็นอิสระอยู่ได้ตลอดไปนั่นเอง มิได้แปลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้น ถึงหากบัณฑิตจะเรียนวิชาสาขาต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกสักเท่าไร ขอให้เข้าใจว่าความมุ่งหมายเดิมยังคงอยู่ วิชาการต่าง ๆ สาขานั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงกัน อย่างแนบแน่น และต่างสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างทั่วถึง แต่ละคนจะทำการงานด้านใด จะใช้วิชาการใดก็ตาม จึงสมควรและจำเป็นที่จะต้องตั้งใจและพยายามใช้วิชาการให้เป็นประโยชน์อุดหนุนประคับประคองกันและกัน เพื่อให้สำเร็จผลเลิศและบังเกิดประโยชน์อันสมบูรณ์ที่จะช่วยให้บรรลุจุดหมายตามที่มุ่งปรารถนา
 
=== 1981 ===
 
* สังคมและบ้านเมืองใด ให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกันทุก ๆ ด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้น ก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาทุก ๆ คนจึงต้องถือว่า ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ในอันที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้
*การที่ตั้งมหาวิทยาลัยสุโขทัยนี้ ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยสมัยใหม่ ที่จะให้ผู้ที่ความสามารถ และมีความปรารถนาที่จะเรียน ศึกษาวิทยาการ วิชาการ ก้าวหน้ากว้างขวางได้เพราะว่าได้ชื่อว่าคนไทยก็มีความเฉลียวฉลาด ขาดแต่โอกาสที่จะได้ขยายความรู้ขยายความสามารถของตน คนฉลาดที่ได้แสดงแล้วว่าเมื่อมีโอกาสก็ไปเรียนในขั้นสูง จะเรียกได้ว่าทัดเทียมอารยประเทศไม่แพ้คนอื่น อาจจะดีกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ฉะนั้น ก็สมควรที่จะบริการให้แก่ประชาชนคนไทยได้มีโอกาสที่จะเล่าเรียน
*การศึกษาวิทยาการทุกอย่าง ยิ่งศึกษาค้นคว้ามากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งจำเป็นต้องกระทำให้ละเอียดเฉพาะลงไปเท่านั้น และผู้ที่ได้ผ่านการศึกษาระดับนี้มาแล้ว ย่อมจะถือตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะวิชา จะไม่ก้าวก่ายกับวิชาที่มิได้อยู่ในขอบข่ายของตน แต่ในการใช้วิชาการปฏิบัติงานนั้น แม้เพียงงานเล็กน้อยอย่างหนึ่งอย่างใดแต่เพียงอย่างเดียว ก็จำเป็นต้องอาศัยหลักวิชาหลาย ๆ สาขา นำมาเป็นเครื่องช่วยปฏิบัติ จึงจะสำเร็จผลที่ดีได้ ผู้ทรงคุณวุฒิหรือนักวิชาการทุกคนจึงไม่ควรจะลืมว่า วิชาการทั้งปวงนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงกัน และต่างส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่ จะต้องนำมาใช้ประสมประสานกันให้ถูกต้องพอเหมาะพอดีอยู่เสมอ เพราะอาจพูดได้ว่าวิทยาการใด ๆ ก็ตาม จะใช้ให้เป็นประโยชน์แต่ลำพังอย่างเดียวมิได้ เป็นหน้าที่ของนักวิชาการที่จะต้องทำความเข้าใจให้ชัดแจ้งแน่นอนว่า นอกจากแต่ละคนจะต้องเชี่ยวชาญในวิชาเฉพาะของตนแล้ว ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดตาเปิดใจให้กว้างขวางสว่างไสว เพื่อเรียนรู้ให้ทั่วถึง และเพื่อประสานกับนักวิชาการอื่น ๆ และคนอื่นๆ ให้ได้โดยสอดคล้องด้วย ประการสำคัญที่สุด ในเมื่อปฏิบัติงานอันใดกับผู้ใดแล้ว จะต้องพยายามร่วมกันพิจารณาปรึกษาทำความเข้าใจกันให้ได้ พร้อมกับระมัดระวังปฏิบัติการให้เกื้อกูลส่งเสริมกันโดยตลอด งานที่ทำจึงจะบรรลุผลเลิศและเกิดประโยชน์ที่สมบูรณ์ตามความมุ่งประสงค์ได้
*ข้าราชการทุกฝ่ายมีหน้าที่เหมือนกัน ที่จะต้องตั้งใจขวนขวายปฏิบัติงานด้วยความฉลาดรอบคอบ ให้สำเร็จลุล่วงตรงตามเป้าหมายโดยไม่ชักช้า และที่จะต้องร่วมกับชาวไทยทุกคนในอันที่จะอุ้มชูรักษาความดีในชาติให้ยืนยงมั่นคงอยู่คู่กับผืนแผ่นดินไทย ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มีตำแหน่งสำคัญ ยิ่งจะต้องปฏิบัติให้ดี ให้หนักแน่น ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลสูงขึ้น ผลงานที่สำเร็จขึ้นจากความร่วมมือและจากความบริสุทธิ์ใจ จักได้แผ่ไพศาลไปตลอดทั่วทุกหนแห่ง ยังความสุขความเจริญที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นได้ตามที่ปรารภปรารถนา
*ทางปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับทุกคนในขณะนี้ นอกจากจะต้องตั้งใจพยายามทำตัวงานให้มีระเบียบโดยเต็มความสามารถ และเป็นอยู่โดยประหยัดแล้ว ยังจะต้องพยายามตั้งจิตตั้งใจไว้ให้ถูกด้วย การตั้งใจให้ถูกนั้น คือทำจิตใจให้สงบหนักแน่น ไม่วู่วาม ไม่ปล่อยให้อคติต่าง ๆ เข้าครอบงำได้โดยง่าย ฝึกหัดคิดพิจารณาเรื่องราวและปัญหาทั้งปวงด้วยความละเอียดรอบครอบและด้วยใจบริสุทธิ์เป็นกลางเสมอทุกครั้งให้เป็นนิสัย อันเป็นวิธีที่จะช่วยให้เกิดปัญญา สามารถคิดวินิจฉัยได้โดยกระจ่างแจ่มแจ้ง และปฏิบัติแก้ไขได้ถูกต้องเที่ยงตรง การมีความคิดจิตใจอันกระจ่างแจ่มแจ้งและหนักแน่นอยู่เสมอดังกล่าว จัดเป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่งของแต่ละบุคคล เป็นเครื่องนำพาบุคคลไปให้ประสบความเจริญสวัสดี และคุณธรรมของแต่ละคนนี้ เมื่อรวมกันเข้า ย่อมจะเกิดเป็นคุณธรรมของชาติ และย่อมจะนำพาชาติให้บรรลุถึงความเจริญสวัสดีได้ดุจเดียวกัน
 
=== 1982 ===
 
* ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาทุก ๆ คนจึงต้องถือว่า ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ ในอันที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้ เพราะถ้าปฏิบัติให้ผิดพลาดบกพร่องไปด้วยประการใด ๆ ผลร้ายอาจเกิดขึ้นแก่ส่วนรวมและประเทศชาติได้มากมาย
*สัจจวาจา นั้นเป็นรากฐานของการทำงาน หรือการดำรงชีวิตที่ดีที่งามที่มีความก้าวหน้า มีความสำเร็จ “สัจ” เป็นการตั้งใจ ตั้งจิตใจ “วาจา” เป็นคำพูดออกมา แสดงถึงคำพูดนั้นต้องออกมาจากใจ คือเป็นการตั้งใจที่จะทำอะไรเพื่อความสำเร็จในงานนั้น
*การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ซโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี
*การปฏิบัติราชการในปัจจุบันนี้มุ่งหมายเอาประสิทธิภาพ ปริมาณงานและความรวดเร็วเป็นสำคัญ ผู้ปฏิบัติราชการจึงพากันเอาวิทยาการก้าวหน้าพร้อมทั้งเครื่องกลที่ทรงประสิทธิภาพสูงต่าง ๆ มาใช้กันอย่างกว้างขวาง วิทยาการเครื่องกลเหล่านี้ เมื่อนำมาปฏิบัติการแล้ว จะต้องได้ผลอย่างสูงทุกครั้งไป คือถ้าใช้ถูก ก็ทำให้ได้ประโยชน์มาก ถ้าใช้ไม่ถูกก็ทำให้เสียหายได้มากเท่า ๆ กัน การจะนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาใช้งาน จึงต้องระมัดระวังศึกษาให้ทราบแน่แท้โดยตลอดก่อนทั้งโครงงานที่จะทำ ทั้งเครื่องปฏิบัติงานที่จะใช้ มิฉะนั้นจะเกิดความสิ้นเปลืองและสูญเปล่าได้ง่ายดายที่สุด
*ถ้าพวกเราทุกวันนี้ปรารถนาจะธำรงรักษาชาติประเทศและความเจริญมั่นคงนี้ให้ยั่งยืนต่อไป ก็จะต้องทำจิตทำใจให้ได้อย่างบรรพบุรุษ คือรู้สำนึกตระหนักในชาติ ในเผ่าพันธุ์ไทย แล้วตั้งความคิดความเห็นของตน ๆ ให้ถูกต้อง และหนักแน่นแน่วแน่ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นเป้าหมายประสงค์ เลิกคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว เฉพาะพวกพ้องเป็นที่ตั้ง ไม่ขัดแย้งแข่งขันกัน ให้เสียประโยชน์ของแผ่นดิน ผู้ใดภาระหน้าที่อันใดอยู่ก็ต้องเร่งกระทำให้จริง ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ มีความอุตสาหะขวนขวายโดยบริสุทธิ์ใจที่จะรักษาความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของคนไทยไว้ ด้วยความเมตตาปรองดองดั่งญาติดั่งมิตรผู้มีความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
 
=== 1983 ===
 
* กิจการลูกเสือนี้มีประโยชน์อย่างมาก ในการสร้างวินัย สามัคคี และการรู้จักหน้าที่ ให้แก่เยาวชน การมีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่นี้ สำคัญมาก เพราะเยาวชนที่ได้รับการปลูกฝังให้ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติทั้งสามประการนี้ เมื่อเติบโตขึ้นย่อมเป็นบุคคลผู้สามารถสร้างสรรค์ความสาเร็จ ความเจริญก้าวหน้า และความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ให้แก่ตนเอง แก่ส่วนรวม ตลอดถึงประเทศชาติได้อย่างสมบูรณ์ ท่านทั้งหลายย่อมจะทราบถึงประโยชน์และคุณค่าของกิจการนี้โดยตระหนัก จึงได้เต็มใจเสียสละร่วมกันปฏิบัติบริหารและส่งเสริมกิจการลูกเสือให้ดำเนินมาด้วยดี จนปรากฏผลอันน่าชื่นชมเป็นที่ประจักษ์เด่นชัด การได้รับเกียรติและการยกย่องในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านจะภูมิใจได้เต็มที่ ทั้งควรถือเป็นเครื่องส่งเสริมกำลังใจ ในอันที่จะร่วมกันดำเนินกิจการอันทรงคุณค่านี้ต่อไป ให้ยิ่งมั่นคงและมีประสิทธิภาพเพิ่มพูนขึ้น เพื่อประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของเยาวชนและประเทศชาติของเรา
*เด็กๆ ต้องฝึกหัดอบรมทั้งกายทั้งใจให้เข้มแข็งเป็นระเบียบ และสุจริตเพื่อประโยชน์ของตนในภายหน้า เพราะคนที่ไม่ เข้มแข็งไม่สามารถควบคุมกายใจให้อยู่ระเบียบและความดี ยากนัก ที่จะได้ประสบความสำเร็จและความเจริญอย่างแท้จริงในชีวิต
*วัยเด็กเป็นวัยเริ่มต้น เป็นวัยเตรียมตัวเพื่อสร้างความเจริญ มั่นคงในชีวิตเด็กๆ จึงควรรีบขวนขวายศึกษา จักได้ มีความฉลาดรอบรู้ ว่าอะไรคือความดี และอะไรคือ ความเสื่อมเสีย เพื่อนำทางชีวิตของตนไปสู่ความสุข ความเจริญได้โดยถูกต้องและสมบูรณ์
*ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้ ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทยและความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
*การทำงานสร้างเกียรติยศขื่อเสียงและความเจริญก้าวหน้า นอกจากจะต้องใช้วิชาความรู้ที่ดีแล้ว แต่ละคนยังต้องมีจิตใจที่มั่นคงในความสุจริตและมุ่งมั่นต่อความสำเร็จเป็นรากฐานรองรับ กับต้องอาศัยกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการประพฤติปฏิบัติเข้าประกอบอีกหลายประการ ประการแรก ได้แก่การสร้างศรัทธาความเชื่อถือในงานที่กระทำ ซึ่งเป็นพละกำลังส่งเสริมให้เกิดความพอใจและความเพียรพยายามอย่างสำคัญ ในอันที่จะทำการงานให้บรรลุผลเลิศ ประการที่สอง ได้แก่การไม่ประมาทปัญญาความรู้ ความฉลาดสามารถทั้งของตนเองทั้งของผู้อื่น ซึ่งเป็นเครื่องช่วยทำงานได้ก้าวหน้า กว้างไกล ประการที่สาม ได้แก่ การตามรักษาความจริงใจ ทั้งต่อตัวเอง ซึ่งเป็นเครื่องทำให้ไว้วางใจร่วมมือกัน และทำให้งานสำเร็จได้โดยราบรื่น ประการที่สี่ ได้แก่การกำจัดจิตใจที่ต่ำทราม รวมทั้งสร้างเสริมความคิดจิตใจที่สะอาดเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ฝักใฝ่แต่ในการที่จะปฏิบัติดี ให้เกิดความก้าวหน้า ประการที่ห้า ได้แก่การรู้จักสงบใจ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยให้ยั้งคิดได้ในเมื่อมีเหตุทำให้เกิดความหวั่นไหวฟุ้งซ่าน และสามารถพิจารณาแก้ไขปัญหาได้โดยถูกต้อง คุณสมบัติหรือคุณธรรมที่กล่าวแล้ว ทั้งที่เป็นส่วนรากฐาน ทั้งที่เป็นส่วนวิธีการ ต่างเป็นเหตุเป็นผลอาศัยกัน และเกื้อกูลส่งเสริมกันอยู่ทั้งหมด จะอาศัยเพียงข้อหนึ่งข้อใด หรือเพียงบางส่วนบางข้อมิได้ เพราะจะไม่ช่วยให้เกิดผลหรือได้ผลน้อย
 
=== 1984 ===
 
* เกียรติและศักดิ์ศรีที่แท้จริงนั้น ย่อมจะเกิดจากผลการปฏิบัติตัวและปฏิบัติงานของตนเอง คือปฏิบัติกิจการงานที่รับผิดชอบอยู่ สำเร็จสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ และปฏิบัติตัวดีเที่ยงตรง สมควรแก่ตำแหน่ง แก่หน้าที่
*นัยในการปฏิบัติงานสามข้อ. ข้อแรก ให้ตั้งใจทำงานให้จริง ให้สำเร็จด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งถึงผลอันเป็นประโยชน์แท้จริงของงานเป็นสำคัญ. ข้อสอง ให้ศึกษาขอบเขตความมุ่งหมายของงาน ตลอดถึงความ เกี่ยวเนื่องถึงถึงสิ่งอื่น ๆ ให้แจ่มแจ้งทั่วถึง เพื่อสามารถวางรูปงาน วางขั้นตอนการปฏิบัติงาน และนำวิชาการ ไปใช้ได้โดยถูกต้อง. ข้อสาม ให้ทำความคิดเห็นให้กระจ่าง ว่างานของแต่ละคนที่ทำนั้นเป็นเพียงงานหนึ่งที่ อยู่ในส่วนรวม และงานทุกสิ่งทุกสาขาย่อมเกี่ยวเนื่องเป็นปัจจัยเกื้้อกูลกันและกันอยู่
*มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราชมีจุดประสงค์สำคัญอย่างหนึ่งว่าจะส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงโดยยึดหลักการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาคุณภาพของบุคคลให้แต่ละบุคคลสามารถสร้างความเจริญมั่นคงแก่ตนเอง  สังคม  และ  บ้านเมือง ให้ยิ่งขึ้นดังนี้บัณฑิตของสถาบันนี้ย่อมจะต้องเข้าใจแน่ตระหนักถึงคุณค่าของวิชาความรู้  หรือ  ศิลปวิทยาการทั้งปวงว่าคือปัจจัยสำคัญที่สุด ในการสร้างความเจริญ แต่นอกจากวิชาความรู้แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งทุกคนจำเป็นต้องมี คือ   วินัย เพราะวินัยนั้นเป็นพื้นฐานรองรับวิชาความรู้ ช่วยให้บุคคลทรงคุณความรู้อยู่ได้ และส่งเสริมให้สามารถนำความรู้มาปฏิบัติการให้เกิดประโยชน์ได้
*วิทยาการทุกสาขาทุกระดับมีความสำคัญมากสำหรับนำไปใช้ปฏิบัติงาน โบราณท่านเปรียบกับอาวุธอันคมกล้า ซึ่งมีคุณอนันต์ แต่ก็อาจมีโทษมหันต์ถ้านำไปใช้ไม่ถูกทาง บัณฑิตเป็นผู้ที่จะต้องใช้วิชาการปฏิบัติงานในระดับสำคัญต่อไป ควรจะได้ศึกษาเรื่องการใช้วิทยาการให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งและแน่ชัด ว่าจะใช้วิทยาการให้เป็นคุณอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร คนที่จะใช้วิชาได้ดีนั้น ประการแรก จะต้องรู้วิชาเป็นอย่างดี คือรู้อย่างแจ่มแจ้ง ชำนิชำนาญ และทั่วถึงตลอดหมด ทั้งในหลักใหญ่ ทั้งในรายละเอียดรวมทั้งในส่วนที่จะต้องประสานกับวิชาอื่น ๆ เพื่อให้เกื้อกูลส่งเสริมกันและกันด้วย ประการที่สอง จะต้องรู้จักพิจารณาเลือกทำงานที่เป็นงานสร้างสรรค์ มิใช่งานมีผลข้างลบ หรือที่ปราศจากคุณค่า ปราศจากประโยชน์อันพึงประสงค์ ประการที่สาม ไม่ว่าจะทำงานฝ่ายใดสาขาใด จะต้องเรียนรู้ลักษณะงานให้ทราบอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะในจุดประสงค์ ขอบเขต และแนวทางที่จะปฏิบัติ ประการที่สี่ จะต้องมีความตั้งใจที่แน่วแน่ และมีความอุตสาหะ พรักพร้อมอยู่เสมอ ที่จะปฏิบัติงานนั้นให้จนสำเร็จประโยชน์ตามที่มุ่งหมาย เมื่อบุคคลมีหลักการประกอบพร้อมกันครบทั้ง 4 ประการดังนี้แล้ว จึงจะแน่ใจได้ว่าจะสามารถใช้วิทยาการได้อย่างถูกต้อง พอเหมาะพอดีกับเป้าหมายที่ต้องการ และจะสามารถทำให้งานที่ปฏิบัติบรรลุผลสมบูรณ์บริบูรณ์พร้อมทุกส่วนได้
*งานทั้งหลายที่ท่านจะออกไปปฏิบัตินั้น ไม่มีงานใดที่จะสำเร็จสมบูรณ์ได้ในตัวเอง หากแต่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงถึงงานอื่น ๆ และมีประโยชน์ประสานสอดคล้องกับงานอื่น ๆ อีกหลาย ๆ อย่าง ทั้งนี้เพราะงานทั้งปวงนั้นย่อมประกอบกันเป็นงานส่วนรวมของบ้านเมือง ซึ่งต้องเจริญพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ให้ทัดเทียมกัน ถ้างานส่วนหนึ่งส่วนใดหยุดชะงัก ก็จะพาให้รวนเรล่าช้าไปทั้งกระบวน ดังนี้เมื่อท่านจะออกไปปฏิบัติงาน ควรจะได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ในอันที่จะทำงานของตนให้ประสานกับงานอื่น และประสานกับฝ่ายอื่นบุคคลอื่น จะปฏิบัติตัวปฏิบัติงานอย่างคับแคบมิได้เป็นอันขาด ท่านจะต้องทำตัวทำใจให้กว้างขวาง หนักแน่น และเที่ยงตรง ยึดถือเหตุผลความถูกต้อง ความพอเหมาะพอควร และประโยชน์ส่วนรวมร่วมกันเป็นเป้าหมาย ต้องพยายามขจัดความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนน้อยให้ได้ อย่าปล่อยให้เข้ามาครอบงำความคิดจิตใจของตนเป็นอันขาด แล้วท่านจะสามารถปฏิบัติการงานทุกอย่างได้ด้วยความสะดวกสบาย และประสบความสำเร็จตามที่ปรารภปรารถนาได้ไม่ยากนัก
*คนทำงานดีคือคนมีระเบียบ ได้แก่ระเบียบในการคิดและในการทำ ผู้ไม่ฝึกระเบียบไว้ ถึงจะมีวิชา มีเรี่ยวแรงมีความกระตือรือร้นอยู่เพียงไร ก็มักทำงานให้สำเร็จดีไม่ได้ เพราะความคิดอ่านสับสนว้าวุ่น ทำอะไรก็ไม่ถูกลำดับขั้นตอน มีแต่ความลังเลและขัดแย้งทั้งในความคิด ทั้งในการปฏิบัติงาน ข้าราชการจึงจำเป็นต้องฝึกระเบียบในตนเองขึ้น ระเบียบนั้นจักได้ช่วยประคับประคองส่งเสริมให้ทำตนทำงานได้ดีขึ้น และประสบความเจริญมั่นคงในราชการ
 
=== 1985 ===
 
* เด็ก ต้องทำตัวให้สุภาพอ่อนโยน หมั่นขยันเอา การเอางานเอื้อเฟื้อช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความเต็มใจอยู่เสมอ ให้ติดเป็นนิสัย จักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมี ประโยชน์และมีความเจริญมั่นคงในชีวิต
*บัดนี้ท่านทั้งหลายต่างก็ศึกษาสำเร็จ มีความรู้ในวิทยาการระดับสูงหลายสาขาวิชาการทั้งปวงนั้นประกอบด้วยหลักความจริง ถือได้ว่าเป็นของดีในตัวเอง แต่เมื่อนำมาใช้อาจให้ผลในทางสร้างสรรค์ก็ได้ หรือให้ผลในทางเสื่อมก็ได้ นำนองเดียวกับยารักษาโรคโดยมาก ซึ่งถ้าใช้ถูก ก็รักษาโรคหาย ถ้าใช้ผิดก็เป็นอันตรายได้ต่าง ๆ จึงต้องเรียกว่ายาอันตราย เพื่อเตือนผู้ใช้ให้ใช้อย่างระมัดระวัง การใช้วิชาการก็เช่นกันจักต้องศึกษาถึงผลที่จะเกิดตามมาอย่างละเอียดรอบคอบและทั่วถึง ว่าจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลงานที่ทำอย่างไรเพียงใด หรือเป็นโทษบั่นทอนในส่วนใดแง่ใดบ้าง แล้วจึงพิจารณาหยิบยกส่วนที่อำนวยผลดีมาใช้ให้สอดคล้องพอเหมาะพอดีแก่งาน และข้อนี้คงถือได้ว่าเป็นความสามารถในการใช้วิชาการ ยังมีปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่งที่จำเป็นต้องอาศัยเป็นหลัก ได้แก่เจตนาที่ดี ที่บริสุทธิ์ คือผู้ใช้วิชาจะต้องตั้งใจปรารถนาใช้วิชาให้เกิดประโยชน์สร้างสรรค์อย่างจริงใจ ทั้งมีคุณความดีเป็นพื้นฐานแห่งการกระทำความประพฤติทุก ๆ อย่าง เนื่องจากได้ฝึกอบรมความคิดจิตใจของตนมาเป็นอย่างดี ให้หนักแน่นมั่นคงในความดี ให้มีความเที่ยงตรงเป็นกลางห่างจากอคติ ให้รู้จักคิดพิจารณาด้วยเหตุผลและความถูกต้องเป็นธรรม จนมีปัญญาสามารถรับรู้เรื่องราวและปัญหาต่าง ๆ ได้โดยกระจ่างแจ่มชัด และสามารถที่จะนำวิชาการมาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ให้สำเร็จประโยชน์อันพึงประสงค์ได้ ในโอกาสสำคัญที่จะออกไปเริ่มต้นงานนี้ จึงใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายจดจำนำคำที่กล่าว ไปศึกษาพิจารณาเป็นแนวทางใช้วิทยาการของท่านต่อไป
*การทำงานให้สำเร็จผลแน่นอนและสมบูรณ์ตามเป้าหมายนั้น จะต้องใช้ความรู้ความสามารถพร้อมทั้งคุณสมบัติที่สำคัญ ๆ ในตัวบุคคลหลายประการ เช่น ความตั้งใจที่มั่นคง ความคิดสร้างสรรค์ ความอุตสาหะพยายาม ความรับผิดชอบ ความรอบคอบ ระมัดระวัง ตลอดจนความสุจริตเป็นธรรม นำมาปฏิบัติงานโดยพร้อมสรรพและโดยเต็มกำลัง อย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติดังนี้ย่อมจะรู้สึกว่ายาก ว่าหนัก แต่ก็จะเป็นไปเพียงในระยะต้น ๆ เมื่อได้พยายามปฏิบัติให้เคยชินจนเป็นปรกติแล้ว ก็จะเกิดความคล่องแคล่วชำนาญ ทำงานได้สะดวกคล่องตัวไม่รู้สึกว่าเป็นภาระหนักกายหนักใจประการใด งานที่เคยเห็นว่ายากหรือมากมาย ก็จะปฏิบัติได้โดยง่ายและรวดเร็วทุกอย่าง ทั้งได้รับผลสมบูรณ์ที่พึงประสงค์ด้วย แต่โดยทางตรงข้าม ถ้าปฏิบัติงานอย่างหย่อนยานตามสบาย ผลร้ายจะเกิดตามมา เพราะการประพฤติดังนั้นจะบั่นทอนความรู้ความสามารถทุกอย่างให้ลดถอยลงเป็นลำดับ รวมทั้งความคิดอ่านก็จะสั้นเสื่อมทรามลงด้วย งานที่ง่ายก็จะกลายเป็นยาก และที่ยากหน่อยก็จะทำไม่ไหว ลงท้ายจะทำไม่สำเร็จ ต้องเสียงานและเสียคนไปในที่สุด
*การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ คือสามารถในการใช้วิชาความรู้อย่างหนึ่ง สามารถในการประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกอย่างหนึ่ง ทั้งสองประการนี้ ต้องดำเนินคู่กันไป และจำเป็นต้องกระทำด้วยความสุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดความเห็นที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลด้วย จึงจะช่วยให้งานบรรลุจุดหมายและประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วยแท้จริง
*วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัยมีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญอยู่ที่ ทุก ๆ คนจะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อน (ทั้ง) นั้นด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบาและกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้
 
=== 1986 ===
 
* การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
* บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้
*ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษา ประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
*บัณฑิตทั้งหลายย่อมมีความหวังตั้งใจ ที่จะได้ออกไปทำการงานให้ประสบความสำเร็จ มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต มีข้อแนะนำบางประการที่ใคร่เสนอให้นำไปใช้ปฏิบัติเพื่อความสำเร็จของท่านดังนี้ประการแรก ต้องถือว่างานที่ทำทุกอย่างมีความสำคัญ และจำเป็นต้องกระทำให้เสร็จสมบูรณ์อย่างดีที่สุด ฉะนั้น แต่ละคนจึงต้องตั้งใจทำงานให้จริง ไม่จับจด ต้องมีความรับผิดชอบสูง ต้องมีความเข้มแข็งและความพากเพียรอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในการปฏิบัติงานและติดตามประเมินผลงาน ประการที่สอง ต้องรู้จักปรับความรู้และหลักทฤษฎีให้เข้ากับงานที่ทำ เข้ากับสถานการณ์ และเข้ากับสภาวะที่เกี่ยวข้องแวดล้อม อย่างพอเหมาะพอดี
*ผู้เป็นข้าราชการพึงสำเหนียกตระหนักเป็นนิตย์ถึงความรับผิดชอบ ที่จะต้องปฏิบัติงานของตัวร่วมกับงานของผู้อื่น และประสานประโยชน์กับทุกฝ่ายให้ได้ผลสมบูรณ์ทุกส่วน เพื่อนำพาประเทศชาติให้ก้าวไปถึงความเจริญมั่นคง ซึ่งเป็นจุดประสงค์แท้จริง
*แต่ละคนนั้นเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง ๆ ที่จะรวมกันขึ้นเป็นชาติบ้านเมือง ทุกคนต้องรักษาสุขภาพพลานามัยให้ดี และทำงานให้ดี ชาติบ้านเมืองจึงจะแข็งแรงและเจริญมั่นคงสมดุลทุกส่วน ถ้าบุคคลทำตัวให้บกพร่องอ่อนแอ บ้านเมืองก็จะมีจุดบกพร่องและอ่อนแอไปด้วย ทุกคนจึงต้องบำรุงรักษาบ้านเมืองให้เหมือนบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจตนเอง และผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ต้องขวนขวายปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วงไปโดยพลัน ด้วยความรู้และความสามารถ ด้วยความสะอาดกายสะอาดใจ ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ และด้วยความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ผลการปฏิบัติตนปฏิบัติงานของแต่ละคนแต่ละฝ่าย จักได้ประกอบส่งเสริมให้ประเทศชาติความสมบูรณ์มั่นคงขึ้นตามที่มุ่งหมาย
 
=== 1987 ===
 
* เด็กๆ นอกจากจะต้องเรียนความรู้แล้ว ยังต้องหัดทำ การงานและทำความดีด้วย เพราะการทำงานจะช่วยให้ มีความสามารถมีความขยันอดทนพึ่งตนเองได้และ การทำดีนั้นจะช่วยให้มีความสุขความเจริญทั้งป้องกันตนไว้ไม่ให้ ตกต่ำ
* ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง  เด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง  เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
*เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น
*เป็นไปได้ยากยิ่ง ที่ทุกคนจะมีโอกาสได้ทำงานตรงกับวิชาที่เรียนมา หรือพอดีกับคุณวุฒิที่มีอยู่. บางคนอาจต้องทำงานต่ำกว่าระดับวิทยฐานะ บางคนอาจต้องทำงานคนละแนวทางกับที่ศึกษา. จะเป็นอย่างใดก็ตาม ก็ควรยินดีและเต็มใจทำ เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานการศึกษาเพียงพออยู่แล้ว ที่จะคิดหาแนวปฏิบัติงานทั้งนั้นให้ดีได้. ข้อสำคัญจึงอยู่ที่ว่า จะต้องตั้งใจทำงานให้จริง ด้วยความคิด ด้วยความพยายาม ด้วยความพอเหมาะพอดี และด้วยความรู้จักสังเกตศึกษา เพื่อให้สามารถทำงานได้เสร็จสมบูรณ์ทุกสิ่ง พร้อมทั้งได้รับความรู้และประสบการณ์เพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับด้วย
*บัณฑิตทั้งหลายสำเร็จการศึกษา ได้รับปริญญาเครื่องแสดงวิทยฐานะความสามารถแล้ว กำลังก้าวออกไปสู่ชีวิตการงาน อยากจะให้คิดเห็นและเข้าใจกันให้ชัดว่าเมื่อกำลังเรียนอยู่นั้น ทุกคนมีวิชาการเป็นที่หมาย แต่ต่อไปนี้ จะมีงานกับผลสำเร็จของงานเป็นจุดประสงค์ ส่วนวิชาการทั้งหลายถือว่าเป็นปัจจัยหรืออุปกรณ์ที่สร้างสมไว้สำหรับใช้ปฏิบัติงาน จึงใคร่ขอให้แต่ละคนตั้งใจลงที่สถานะปัจจุบันของตน ที่จะต้องพยายามนำเอาวิชาการพร้อมทั้งความสามารถที่มีอยู่ ขึ้นมาใช้ปฏิบัติงานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเรื่องนี้มีข้อปฏิบัติที่ควรพิจารณาอยู่สามข้อ ข้อแรก เมื่อจะใช้วิชาการจำเป็นต้องเลือกสรรเฉพาะแต่ส่วนที่ถูกต้องตรงกับงานที่ทำ มิใช่นำมาใช้พร้อมกันทั้งหมด หรือนำมาใช้ด้วยอาการที่เรียกว่าเถรตรง เพราะการทำงาน
*ข้าราชการที่สามารถต้องมีความรู้ครบสามส่วน คือ ความรู้วิชาการ ความรู้ปฏิบัติการ และความรู้คิดอ่านตามเหตุผลตามความเป็นจริง ต้องมีความจริงใจ และความบริสุทธิ์ใจในงาน ในผู้ร่วมงาน ในการรักษาระเบียบแบบแผน ความดีงาม ความถูกต้องทุกอย่างในแผ่นดิน ต้องมีความสงบและหนักแน่นทั้งในกาย ในใจ ในคำพูด ต้องสำรวจดูความบกพร่องของตนเองอยู่สมำเสมอ และปฏิบัติแก้ไขเสียโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เจริญงอกงาม ทำความเสียหายให้แก่การกระทำ ความคิดและการงาน
*ความสงบภายในหรือจิตใจที่ปลอดโปร่งจากสิ่งรบกวนนี้สำคัญมาก ควรจะทำให้มีขึ้น เพราะผู้ที่มีจิตใจสงบ จะใช้ความคิดพิจารณาของตนได้อย่างกว้างขวางและถูกต้องดีขึ้น ความคิดที่ประกอบด้วยความสงบ มีศักยภาพสูง อาจนำไปใช้คิดอ่านสร้างสรรค์สิ่งที่จะอำนวยความสุข ความเจริญก้าวหน้า ตอลดจนชื่อเสียงเกียรติคุณ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนปรารถนา ให้สัมฤทธิ์ผลได้
 
=== 1988 ===
 
* บัณฑิตผู้ได้ผ่านการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ย่อมมุ่งหวังจะใช้วิชาความรู้ของตนประกอบการงานสร้างความเจริญและความสำเร็จในชีวิต การจะสร้างความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใดนั้น เห็นว่าน่าจะขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ และคุณสมบัติอื่น ๆ อีกหลายอย่างในแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ ผู้ที่จะสร้างความสำเร็จในการงานและชีวิตได้แน่นอนนั้น ควรมีคุณสมบัติประกอบพร้อมกันอย่างน้อย ๕ ประการ ประการแรก ควรจะต้องมีความสุจริต ความมีใจจริง ความตั้งใจจริง ความอุตสาหะอดทน และความเมตตาเสียสละเป็นพื้นฐานด้านจิตใจ ประการที่สอง ควรจะต้องมีวิชาความรู้ที่ถูกต้อง แม่นยำ ชำนาญพร้อมทั้งมีฝีมือหรือความสามารถในเชิงปฏิบัติเป็นเครื่องมือสำหรับประกอบการ ประการที่สาม ควรจะต้องมีสติ ความยั้งคิด และวิจารณญาณอันถี่ถ้วนรอบคอบ เป็นเครื่องควบคุมกำกับให้ดำเนินงานไปได้โดยถูกต้องเที่ยงตรงตามทิศทาง ประการที่สี่ จะต้องมีความรอบรู้มีความสามารถประสานงานและประสานประโยชน์กับผู้อื่นอย่างกว้างขวาง เป็นเครื่องส่งเสริมให้ทำงานได้คล่องตัว และก้าวหน้า และประการที่ห้า ซึ่งสำคัญที่สุด จะต้องมีความฉลาดรู้ในเหตุในผล ในความผิดถูกชั่วดี ในความพอเหมาะพอสม เป็นเครื่องตัดสินและสั่งการปฏิบัติงานทั้งมวลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
*เกียรติและความสำเร็จเกิดจากผลการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตัวของแต่ละคน ที่สามารถปฏิบัติงานในความ รับผิดชอบให้ได้ผลสมบูรณ์ตรงตามวัตถุประสงค์และปฏิบัติตัวให้สุจริต เที่ยงตรง พอควรพอดีแก่ตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่
*ความเมตตาปรองดองและความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันนั้นยังมีอยู่ในจิตใจคนไทย ถ้าเราทั้งหลายพยายามนึกถึงประโยชน์และความสุขความเจริญของส่วนรวมให้มาก พยายามหันหน้าเข้าหากันและมองกันในทางดีอยู่เสมอก็จะเข้าใจกัน และร่วมมือร่วมงานกันได้เป็นอันดี
 
=== 1989 ===
 
* ความรู้ประโยชน์แท้จริงของสิ่งทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้อง ปลูกฝังให้หยั่งลึกในตัวเด็ก เด็กจักได้เติบโตเป็นคน ฉลาดเที่ยงตรงและสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ที่พึงประสงค์ ให้แก่ตนแก่ส่วนรวมได้แน่นอนมีประสิทธิภาพ
*การที่จะให้งานประสานกัน เพื่อช่วยให้งานของทุกฝ่าย ดำเนินก้าวหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วนั้น ทุกฝ่ายจะต้องไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ ไม่แย่งความชอบกัน แต่ละฝ่ายแต่ละคนต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมุ่งหวังผลสำเร็จในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งอื่น
*ควรศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง เรื่องการลดการสูญเสียความชื้นจากพื้นป่าต้นน้ำลำธารที่มีเป้าหมายจะฟื้นฟูสภาพ ซึ่งจำเป็นจะต้องศึกษาหลาย ๆ ด้านควบคู่กันไป กล่าวคือ ทดลองว่าต้นไม้โตเร็วชนิดใดบ้างที่สามารถใช้ปลูกแซมในป่าเป้าหมายเพื่อดีงความชื้นจากอากาศแล้วสามารถกันความชื้นนั้นให้ระเหยกลับคืนไปในอากาศในอัตราต่ำสุด ทั้งนี้รวมทั้งไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มสูง สำหรับสกัดความชื้นที่ระเหยขึ้นจากพื้นล่างไว้ให้มากที่สุดกับพืชคลุมดินชนิดต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่กันความชื้นไม่ให้ระเหยขึ้นสู่เบื้องสูง ประการสำคัญต้องพิจารณาปลูกพันธุ์ไม้ป่าท้องถิ่นเช่น ไม้เนื้อแข็งเสริมเพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมดั้งเดิมของป่าแถบนี้ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องวิจัยชนิดของดินชนิดต่าง ๆ ในบริเวณศูนย์การศึกษาพัฒนาฯ เกี่ยวกับทฤษฎีการชะลอการระเหยของน้ำจากผิวดินไม่ให้สูญเสียไปในอัตราสูง โดยไร้ประโยชน์สำหรับแหล่งน้ำชลประทานก็ต้องทดสอบการควบคุมความชื้นของพื้นที่และการเพิ่มพูนความชื้นโดยแบ่งเป็นสองบริเวณคือ บริเวณอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ฝายทดน้ำและฝายเก็บกักน้ำต้นน้ำลำธารให้รับน้ำธรรมชาติคือน้ำฝนกับน้ำค้าง โดยไม่เสริมน้ำชลประทานให้ ส่วนเขตรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยฮ่องไคร้จึงจะเสริมปริมาณน้ำไปเติมใส่อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก เพื่อสามารถกระจายความชุ่มชื้น อย่างกว้างขวางและทั่วถึง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ โดยใช้น้ำธรรมชาติกับการเร่งรัดด้วยการเสริมน้ำจากโครงการชลประทาน
*ประโยชน์ คือความเจริญมั่นคงของส่วนรวมนั้นต้องอสศัยความเจริญมั่นคงของบุคคลแต่ละคนประกอบกันขึ้นเป็นสำคัญ ดังนั้น ถ้าบุคคล อันเป็นองค์ประกอบของส่วนรวม ไม่มีความเจริญและมั่นคงแล้ว ส่วนรวมคงจะเจริญและมั่นคงได้ยาก. ทุกคนควรจะมุ่งสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ฐานะหน้าที่ของตัวเป็นข้อแรก แต่ทั้งนี้ จะต้องถือปฏิบัติตามหลักการสองข้อต่อไปนี้ ข้อแรก ต้องมุ่งหมายกระทำเฉพาะแต่กิจการงานที่สุจริตที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม ไม่ประพฤติปฏิบัติการใด ๆ ที่ดำเนินทวนกระแสความถูกต้อง และบ่อนทำลายผู้อื่น. ข้อต่อไป  เมื่อทำดีแล้วมีผลแล้วต้องพยายามสานประโยชน์ คือความเจริญก้าวหน้าของแต่ละคนเข้าด้วยกัน ด้วยความเมตตามุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน โดยไม่เพ่งเล็งประโยชน์เฉพาะตัวจนเกินการ จนปิดบังมิให้ความสำคัญของบุคคลอื่น
*วิชาการต่าง ๆ ที่ท่านทั้งหลายได้ศึกษาสำเร็จมา เป็นสิ่งที่มีคุณค่า สามารถนำไปใช้ปฏิบัติงานสร้างสรรค์ความเจริญทั้งปวงได้เป็นอย่างดี ในการสร้างสรรค์ความเจริญนั้น นอกจากจะต้องอาศัยวิทยาการที่ดีแล้ว บุคคลยังจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ เกื้อหนุนด้วยอีกหลายอย่าง อย่างหนึ่งจะต้องอาศัยความเป็นคนดี คือ ความเป็นคนที่สะอาดสุจริตในการกระทำและความคิด ทั้งมีปัญญา ความฉลาดรู้ ในเหตุในผลในความเจริญความเสื่อม อีกอย่างหนึ่ง จะต้องอาศัยความขยันหมั่นปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่ ความเพ่งพินิจ และความละเอียดรอบคอบ ไม่ประกอบกิจการงานโดยประมาทหละหลวม ประการสำคัญจะต้องอาศัยการปฏิบัติที่ถูกต้องและพอเหมาะพอดีในงานทั้งปวง เพราะงานทุกอย่างย่อมมีแนวทาง ขั้นตอน และกระบวนการที่แน่นอนสำหรับปฏิบัติอยู่ ผู้ปฏิบัติจำเป็นจะต้องเพ่งพิจารณาให้เห็นและปฏิบัติให้ถูกให้ตรง ให้พอเหมาะ จึงจะทำให้งานสำเร็จผลสมบูรณ์ได้ ถ้าปฏิบัติไม่ตรงไม่พอเหมาะก็ยากที่งานจะบรรลุถึงเป้าหมาย ซ้ำร้ายอาจก่อให้เกิดผลเสียหายได้ เช่น ถ้าทำเรื่องธรรมดาให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องยากเกินกว่าเหตุ ก็จะเกิดความสลับซับซ้อน และปัญหาเป็นเหตุให้งานที่ทำยืดเยื้อ ล่าช้า และเสียผล เปลืองแรง เปลืองเวลา เปลืองงบประมาณไป ไม่คุ้มค่า ปัจจัยเกื้อกูลความเจริญก้าวหน้าที่กล่าวแล้วนี้ จะเกิดขึ้นในตัวบัณฑิตได้ทางเดียว โดยการศึกษาปฏิบัติและฝึกหัดอบรมตนเองด้วยตนเอง จึงขอฝากให้แต่ละคน และทุกคนตั้งใจพยายามทำตัว ทำงาน และใช้วิชาความรู้อย่างฉลาดมีหลักเกณฑ์ อย่าปล่อยตัวปล่อยใจให้ประมาทบกพร่อง ความเจริญวัฒนาที่ต่างคนปรารภปรารถนาก็จะบังเกิดขึ้น ให้ได้ชื่นชมสมประสงค์
*เมื่อทำงาน ต้องมุ่งถึงจุดหมายที่แท้ของงาน งานจึงจะสำเร็จได้รับประโยชน์ครบถ้วน ทั้งประโยชน์ของงานและประโยชน์ของผู้ทำ ถ้าทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายอื่น ๆ เช่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แม้จะได้ผลมากมายเพียงใด งานก็ไม่สำเร็จ แต่ทำให้เสียทั้งงานเสียทั้งคน
*ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
 
=== 1990 ===
 
* การศึกษาค้นคว้าที่สำคัญและจำเป็นอย่างแรก คือ การศึกษาทางแนวลึก อันได้แก่ การฝึกฝนค้นคว้าวิชาเฉพาะของแต่ละคนให้เชี่ยวชาญแตกฉานลึกซึ้ง และพัฒนาก้าวหน้า พร้อมกันนั้น ในฐานะนักปฏิบัติ ซึ่งจะต้องทำงานและแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกับผู้อื่นฝ่ายอื่นอยู่เป็นปกติ ทุกคนจำเป็นต้องศึกษาทางแนวกว้างควบคู่กันไปด้วย การศึกษาตามแนวกว้างนี้ หมายถึง การศึกษาให้รู้ให้ทราบถึงวิทยาการสาขาอื่น ๆ ตลอดจนความรู้รอบตัวเกี่ยวกับสภาวะและวิวัฒนาการของบ้านเมืองและสังคมในทุกแง่มุม เพื่อช่วยให้มองเห็น ให้เข้าใจปัญหาต่าง ๆ อย่างชัดเจนถูกถ้วน และสามารถนำวิชาการด้านของตน ประสานเข้ากับวิชาการด้านอื่น ๆได้โดยสอดคล้องถูกต้อง และเหมาะสม
* มหาวิทยาลัย มุ่งจะสอนนักศึกษาให้เป็นคนเก่งซึ่งเป็นการดีแต่นอกจากจะสอนให้เก่งแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะอบรมให้ดีพร้อมกันไปด้วยประเทศเราจึงจะคนที่มีคุณภาพพร้อม คือ ทั้งเก่งและทั้งดีมาเป็นกำลังของบ้านเมือง
*เด็กไทยต้องฝึกอบรมธรรมจริยาให้สมบูรณ์พร้อมในตนเอง  จักได้เป็นคนดีมีคุณ  มีประโยชน์   และสามารถรักษาตัว  รักษาชาติบ้านเมือง  ให้ดำรงคงอยู่ด้วยความเจริญมั่นคงต่อไปได้
*ถ้าคิดอยู่คนเดียวมีข้อเสียหลายอย่าง ข้อเสียที่มากที่สุดก็คือคนคิดคนเดียว ไม่สามารถที่จะคิดทำงานใหญ่ เช่น การบริหารประเทศ ทำแต่ผู้เดียวมิได้
*ในการปฏิบัติงานนั้น ย่อมมีปัญหาต่าง ๆเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้ไข อย่าทิ้งไว้พอกพูนลุกลามจนแก้ยาก ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลาย ๆ คนหลาย ๆ ทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน
*ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลาย ๆ คน หลาย ๆ ทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน
*บัณฑิตส่วนใหญ่คงจะได้ทำงานที่ต้องใช้วิชาการเป็นหลักตลอดไป ตัวท่านกับวิชาการจึงแยกจากกันไม่ได้ หมายความว่าแต่ละคนจะต้องติดตามศึกษาวิทยาการที่พัฒนาก้าวหน้าอยู่เสมออย่างใกล้ชิด ทางที่ดีที่สุด ในการศึกษาเพิ่มเติม ก็คือตั้งกฏหรือวินัยให้แก่ตนเอง ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นกิจวัตรจนเคยชินเป็นนิสัย เพื่อให้รู้สึกว่าการศึกษานั้นมิได้เป็นภาระ หากแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ กระทำได้สะดวกสบาย ด้วยความสนุกเพลิดเพลินและพึงพอใจ การศึกษาที่ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วน จะส่งเสริมให้ภูมิรู้และความสามารถสูงขึ้น ให้ความคิดอ่านกว้างขวาง ลึกซึ้ง ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องตัดสินแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ ไม่จนปัญญา ทั้งสามารถเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่นได้ชัดเจน ทำให้ร่วมงานประสานประโยชน์กับทุกคนทุกฝ่ายได้อย่างราบรื่น อีกประการหนึ่งในการปฏิบัติงานนั้นมีสิ่งสำคัญที่จะต้องกระทำอย่างสม่ำเสมออยู่อย่างหนึ่ง คือการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องราว ปัญหา ตลอดจนบุคคลต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย การพิจารณาจำเป็นต้องกระทำอย่างละเอียดรอบคอบทุกแง่มุม ด้วยหลักวิชาและความรอบรู้ที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลที่ครบถ้วนและหนักแน่น และสำคัญที่สุดด้วยความคิดจิตใจที่สุจริตตั้งมั่น เป็นกลาง ไม่ถูกอคติเหนี่ยวนำ จึงจะช่วยให้เข้าใจปัญหาทุกด้าน และบุคคลทุกคนได้กระจ่างแจ่มแจ้งทั้งในแง่ดีแง่เสีย และสามารถนำข้อมูลตามที่เป็นจริงมาเทียบเคียงและวินิจฉัยการปฏิบัติทุกสิ่งได้โดยไม่ผิดพลาด บัณฑิตผู้ปรารถนาความเจริญมั่นคงในชีวิต และการงานจึงควรจักได้พยายามศึกษาเพิ่มพูนความรู้ และฝึกอบรมความคิดพิจารณาให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ตามที่กล่าวแล้วทั้งสองประการ
*ในการปฏิบัติราชการนั้น ขอให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อย่านึกถึงบำเหน็จรางวัลหรือผลประโยชน์ให้มาก ขอให้ถือว่าการทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ เป็นทั้งรางวัลและประโยชน์อย่างประเสริฐ จะทำให้บ้านเมืองไทยของเราอยู่เย็นเป็นสุขและมั่นคง
*การแก้ปัญหานั้น ถ้าไม่ทำให้ถูกเหตุถูกทาง ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง มักจะกลายเป็นการเพิ่มปัญหาให้มากและยุ่งยากขึ้น แต่ละฝ่ายจึงควรจะตั้งใจพยายามทำความคิดความเห็นให้กระจ่างและเที่ยงตรง เพื่อจักได้สามารถเข้าใจปัญหาและเข้าใจกันและกันอย่างถูกต้องความเข้าใจที่ถูกต้องแน่ชัดนี้ จะช่วยให้เล็งเห็นแนวทางปฏิบัติแก้ไขอันเหมาะสม ซึ่งจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกประการหนึ่งอันเป็นข้อสำคัญ ทุกฝ่ายจะต้องตระหนักในใจเสมอ ว่าประโยชน์ส่วนรวมนั้นเป็นประโยชน์ที่แต่ละคนพึงยึดถือเป็นเป้าหมายหลัก ในการปฏิบัติตนและปฏิบัติงาน เพราะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนแท้จริงซึ่งทุกคนมีส่วนได้รับทั่วถึงกัน
 
=== 1991 ===
 
* คนทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ แม้เป็นเด็กก็มีหน้าที่อย่างเด็ก คือ ศึกษาเล่าเรียน หมายความว่าจะต้องเรียนให้รู้วิชา ฝึกหัดทำการงานต่าง ๆ ให้เป็น อบรมขัดเกลาความประพฤติและความคิดจิตใจให้ประณีต ให้สุจริต แจ่มใส และเฉลียวฉลาดมีเหตุผลเพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
*บัณฑิตทั้งหลายได้ฟังรายงานกิจการของมหาวิทยาลัยแล้ว คงจะทราบชัดว่า มหาวิทยาลัยนั้นมีภาระอันสำคัญอยู่ ที่จะต้องทบทวนวิเคราะห์นโยบายและวิธีการดำเนินงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถแก้ไขปรับปรุงให้พัฒนาก้าวหน้า และอำนวยประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยเอง แก่นิสิตนักศึกษา แก่ท้องถิ่น ตลอดจนประเทศชาติโดยส่วนรวม ได้ยิ่ง ๆ ขึ้น บัณฑิตแต่ละคนก็เช่นกัน ชอบที่จะถือเป็นวินัยและหน้าที่สำคัญประจำตัวที่จะต้องเอาใจใส่สำรวจและปรับปรุงตนเองอยู่เป็นนิตย์ เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ และความคิดอ่านที่สมบูรณ์ ทันการณ์ทันสมัย ทั้งต้องระมัดระวังตั้งใจที่จะใช้วิชาและความคิดนั้นอย่างรอบคอบ ทางที่ดี ไม่ว่าบัณฑิตจะประกอบกิจการงานสิ่งใดอยู่ ณ ที่ใด อันดับแรกควรตั้งเจตนาของตนไว้ให้มั่นคง ที่จะอบรมบำรุงกำลังกายกำลังใจให้เข้มแข็ง ไว้เป็นพลังและพื้นฐานอันหนักแน่นสำหรับการปฏิบัติบริหารงาน อันดับต่อไป ควรพยายามใช้หลักวิชา ความสุจริต และความฉลาดรอบคอบ เป็นเครื่องพิจารณาวินิจฉัยปัญหาและกรณีต่าง ๆ เพื่อให้งานทุกสิ่ง ทุกส่วนสำเร็จลุล่วงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ข้อสำคัญ เมื่อทำงานร่วมกัน ควรพยายามนำความรู้ความคิดของแต่ละคนที่มีอยู่มาเชื่อมโยงประสานกันให้สอดคล้องและพร้อมเพรียง แล้วนำออกปฏิบัติด้วยเหตุผลและวิจารณญาณ ให้บรรลุผลที่สมบูรณ์แท้จริง ทั้งในการแก้ไขจุดบกพร่อง และการส่งเสริมจุดเด่นให้ยิ่งดีเด่นขึ้น ถ้าผู้ที่มีความรู้ดีมีความสามารถสูง คิดเห็นและปฏิบัติได้ดังที่กล่าวนี้กันทั่วหน้า เชื่อว่าปัญหาและความขัดข้องต่าง ๆ ในบ้านเมืองจะค่อยคลี่คลายไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ ประเทศชาติก็จะเจริญมั่นคงต่อไปได้โดยสวัสดี
*การปฏิบัติราชการให้ดีนั้น กล่าวอย่างสั้น ง่ายและตรงที่สุด คือทำให้สำเร็จทันการ และให้ได้ผลเป็นประโยชน์แต่ทางเดียว ซึ่งจะทำได้เมื่อบุคคลมีวิชาความสามารถ และมีปัญญาความรู้คิดพิจารณา เห็นสิ่งที่เป็นคุณเป็นโทษ เป็นประโยชน์ มิใช่ประโยชน์อย่างชัดเจน ถูก ตรง
*ทุกคนย่อมปรารถนาให้บ้านเมืองเป็นปรกติมั่นคงและประชาราษฎรส่วนใหญ่มีฐานะความเป็นอยู่ดีสมอัตภาพ ความปรารถนานี้มิใช่จะเกิดมีขึ้นได้เอง แต่หากทุกคนทุกฝ่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติบริหารงานแผ่นดิน จะต้องช่วยกันสร้างเสริมขึ้น ด้วยการเร่งรัดปฏิบัติหน้าที่ของตน ๆ ให้สนับสนุนส่งเสริมกันโดยพร้อมเพรียง ให้สัมฤทธิ์ผลที่จริงตรงตามเป้าหมาย และเมื่อเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน ก็ควรจะร่วมกันคิดอ่านแก้ไขให้คลี่คลายไปโดยไม่ชักช้า ด้วยความรู้สามารถ ความรับผิดชอบ และความสามัคคีปรองดอง
 
=== 1992 ===
 
* ขอให้โดยเฉพาะสองท่าน คือ พลเอกสุจินดา และพลตรีจำลองช่วยกันคิด คือ หันหน้าเข้าหากัน, ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน เพราะว่าเป็นประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากันไม่เผชิญหน้ากันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหามีอยู่ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่าบ้าเลือด, เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร, แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชน เฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง ฉะนั้นจึงขอให้ทั้งสองท่านเข้ามา คือไม่เผชิญหน้ากัน แต่หันเข้าหากัน, และสองท่าน เท่ากับเป็นผู้แทนฝ่ายต่าง ๆ คือไม่ใช่สองฝ่าย ฝ่ายต่าง ๆ ที่เผชิญหน้ากัน ให้ช่วยกันแก้ปัญหาปัจจุบันนี้ คือความรุนแรงที่เกิดขึ้น แล้วก็เมื่อเยียวยาปัญหานี้ได้แล้ว จะมาพูดกัน ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไร? สำหรับให้ประเทศไทย ได้มีการสร้างพัฒนาขึ้นมาได้ กลับคืนมาได้ด้วยดี อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่เรียกท่านทั้งสองมา และก็เชื่อว่าทั้งสองท่าน ก็เข้าใจว่าจะเป็นผู้ที่ได้สร้างประเทศจากซากปรักหักพัง แล้วก็จะได้ผลในส่วนตัวมากว่าได้ทำดี แก้ไขอย่างไรก็แล้วแต่ที่จะปรึกษากัน
*ความสงบหนักแน่นเป็นเครื่องผ่อนปรนระงับความรุนแรง ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในกันและกันได้ทุกกรณี โดยเฉพาะความสงบหนักแน่นในจิตใจนั้น ทำให้เกิดความยั้งคิดพิจารณาตามเหตุตามผล จึงช่วยให้สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวปัญหาและกระทำได้ถูกต้องพอเหมาะพอดี มีประสิทธิผล
*ความจริงใจต่อผู้อื่นเป็นคุณธรรมสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะช่วยให้สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจและเอารัดเอาเปรียบกัน นอกจากนั้น ยังทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ และความร่วมมือสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย
*คุณธรรมของคน ประการแรก คือ ความซื่อสัตย์ ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจฝึกใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัตย์ความดีนั้น ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุจริต ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม คุณธรรมสี่ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงาม จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น และมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไป
*ก่อนจะพูดจะทำสิ่งไร จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่น และให้จิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดจนคุ้นเคยชำนาญแล้ว จะกระทำได้คล่องแคล่ว ช่วยให้สามารถแสดงความรู้ ความคิด ในเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้ฟังเข้าใจ ได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิดทั้งหลักวิชาทั้งหลักคุณธรรม
*วิชาการต่างสาขาที่บัณฑิตศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นี้ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำคัญมาก ด้วยจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับนำไปใช้ปฏิบัติงานต่าง ๆ ซึ่งจะเกื้อกูลให้บ้านเมืองเจริญวัฒนายิ่งขึ้นไป แต่ความเจริญนั้นที่จะเกิดขึ้นได้ จำต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกันอีกหลายอย่าง นอกจากวิทยาการที่ดีแล้ว อย่างหนึ่งจะต้องอาศัยความถูกต้องเที่ยงตรงและความสะอาดสุจริต ซึ่งต้องเป็นไปพร้อม ทั้งในความคิดและการกระทำ อย่างหนึ่ง จะต้องอาศัยความมีปัญญา คือความฉลาดรู้ทั่ว รู้จริงในเหตุในผลและในความเจริญความเสื่อม อีกอย่างหนึ่ง จะต้องอาศัยความขยันหมั่นปฏิบัติด้วยความเอาใจใส่และความเพ่งพินิจ ไม่ประกอบกิจการงานด้วยความประมาทหละหลวม และโดยประการสำคัญ จะต้องอาศัยความเสร็จสมบูรณ์ ความพอเหมาะพอดีในการปฏิบัติงานทั้งปวงด้วย เช่น เมื่อทำงานใหญ่ ๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนย่อยหลาย ๆ ส่วน หรือมีขั้นตอนปฏิบัติหลายขั้นตอน จะต้องถือว่างานทุกขั้นทุกส่วนมีความสำคัญ และต้องพยายามกระทำงานแต่ละส่วนแต่ละขั้นตอนนั้นให้เสร็จสมบูรณ์ พอเหมาะพอดีเสมอกัน ไม่ละเว้นหรือไม่เน้นหนักในส่วนหนึ่งส่วนใดให้เกินพอดีไป งานที่ทำจึงจะสำเร็จผลสมบูรณ์แท้จริงโดยไม่มีจุดบกพร่อง
*ความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ ทั้งทางลึกและกว้างประการหนึ่ง ความคิดเห็นที่เป็นสัมมาทิฐิ ถูกต้องด้วยเหตุผลหลักวิชาและความชอบธรรม ประการหนึ่งความสามารถในการปฏิบัติกิจการงานให้สำเร็จผลตรงตามจุดมุ่งหมาย อีกประการหนึ่ง เป็นปัจจัยสำคัญของการทำงาน ผู้ปฏิบัติราชการโดยอาศัยปัจจัยสามส่วนนี้โดยครบถ้วนสม่ำเสมอ จะประสบความสำเร็จและความเจริญรุ่งโรจน์ ทั้งจะทำให้ราชการและชาติบ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าไปได้ด้วยความมั่นคงสวัสดี
*บ้านเมืองไทยของเราดำรงมั่นคงมาช้านาน เพราะคนไทยมีความพร้อมเพรียงกันเข็มแข็ง ถึงจะมีความเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นบ้างตามกาลตามสมัย ก็เป็นไปตามความปารถนาของพวกเราเอง ที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า การทำนุบำรุงบ้านเมืองนั้น เป็นงานส่วนรวมของคนทั้งชาติ จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่จะต้องมีความขัดแย้งเกิดขึ้นบ้าง จะให้ทุกคนทุกฝ่ายมีความคิดเห็นสอดคล้องต้องกันตลอดทุก ๆ เรื่องไป ย่อมเป็นการผิดวิสัย เพราะฉะนั้น แต่ละฝ่ายแต่ละคนจึงควรจะคำนึงถึงจุดประสงค์ร่วมกัน คือความเจริญไพบูลย์ของชาติเป็นข้อใหญ่ ทุกฝ่ายชอบที่จะทำใจให้เที่ยงตรงเป็นกลาง ทำความคิดเห็นให้กระจ่างแจ่มใส ทำความเข้าใจอันดีในกันและกันให้เกิดขึ้น แล้วนำความคิดเห็นของกันและกันนั้น มาพิจารณาเทียบเคียงกัน โดยหลักวิชาเหตุผล ความชอบธรรม และความเมตตาสามัคคีให้เห็นแจ้งจริง ทุกฝ่ายจะสามารถปรับเปลี่ยนความคิดและวิธีปฏิบัติ ให้สอดคล้องเข้ารูปเข้ารอยกันได้ทุกเรื่อง
 
=== 1993 ===
 
* ทำงานมาเป็นเวลากว่า 47 ปี เป็นผลให้ประเทศชาติมีความเจริญ ข้อนี้ก็เป็นการยกย่องและเป็นการให้กำลังใจ แต่กลับทำให้เกิดความหนักใจอยู่เหมือนกัน ว่าทำงานมาเป็นเวลาถึง 47 ปีกว่าแล้วสภาพหรือสถานการณ์ของประเทศก็ยังมีความยุ่งยากมิใช่น้อยในทุกด้าน ในด้านการทำมาหากินก็ตาม ในด้านความเป็นอยู่ก็ตาม หรือในด้านระเบียบในการปกครองหรือในการอาชีพ แม้สถานะทางความมั่นคงก็ยังไม่ดีตามที่ควรจะเป็น ข้อนี้ก็เป็นความหนักใจ เพราะหมายความว่า งานที่ทำมานั้น แม้มีผลก็ตาม แต่ยังไม่พอ จะต้องให้มีผลดียิ่งขึ้นเพื่อที่จะให้ประเทศมีความมั่นคง มีความผาสุก ราบรื่นอย่างเต็มที่ แต่ถ้าดูอีกทางหนึ่ง ชีวิตของคนเราก็ตาม ชีวิตของหมู่คณะ หรือประเทศชาติก็ตาม ก็ย่อมต้องประสบความเจริญ และความเสื่อมสลับกันไปเป็นธรรมดา ทุกคนก็ทราบดีว่าในชีวิตของแต่ละคน ก็ผ่านเวลาที่เป็นสุขและบางทีก็มีความทุกข์ อันนี้ประเทศชาติก็เป็นเช่นเดียวกัน ก็มีความสุขบ้าง มีความทุกข์บ้าง แต่ก็ขออย่าให้มากเกินไป เพราะว่าถ้ามากเกินไป แม้สุขมากเกินไป ก็ทำให้คนเราไม่สบายได้เหมือนกัน แต่ว่าถ้าทุกข์มาก ความเป็นอยู่ของคนเรา อยู่ไม่ได้ มันตรอมใจ ไม่มีกำลังใจ ลงท้ายก็ล่มจม
*ตามรายงานของนายกสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีหลักสูตรและโครงการวิจัยในภาควิชาต่าง ๆ เป็นอันมาก แสดงว่าผู้ที่สำเร็จหลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัยโดยสมบูรณ์ จะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถดีพอ ทั้งทางด้านวิชาการและทางด้านการปฏิบัติ พร้อมและเหมาะที่จะออกไปปฏิบัติงานในแนวทางของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม บัณฑิตทั้งหลายก็ไม่ควรจะลืมว่า การออกไปทำงานในหน่วยงานต่าง ๆ นั้น ต่างกับการศึกษาในมหาวิทยาลัย ประการสำคัญก็คือแต่ละคนจะต้องลงมือทำงานเอง ด้วยความรู้ความสามารถของตน โดยไม่มีครูบาอาจารย์คอยติดตามไปเป็นที่ปรึกษาช่วยเหลือ นอกจากนั้นยังจะต้องสัมพันธ์ร่วมมือกับผู้อื่นฝ่ายอื่นให้ประสานสอดคล้องกันด้วย จึงเกิดความจำเป็นอย่างยิ่งขึ้น ที่จะต้องศึกษาค้นคว้าหาความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติมให้แก่ตน ด้วยความกระตือรือร้นขวนขวายอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งต้องรู้จักสมาคมผูกมิตรกับผู้ร่วมงาน ตลอดถึงบุคคลทั่วไปอย่างกว้างขวาง จึงจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกราบรื่นและสามารถนำเอาวิชารความรู้ออกใช้ปฏิบัติงานได้เต็มที่ ให้สำเร็จผลดีตามที่มุ่งประสงค์ ขอให้แต่ละคนตั้งใจพยายามค้นคว้าศึกษาและฝึกฝนปฏิบัติตน ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มพูนยิ่ง ๆ ขึ้น ทั้งทางลึก คือทางด้านวิชาการ และทางกว้าง คือ ทางด้านประสบการณ์ และมนุษยสัมพันธ์ เพื่อจักได้บรรลุถึงความสำเร็จในการทำงาน ตลอดจนการสร้างชื่อเสียงเกียรติคุณและความเจริญมั่นคงถ้วนทุกสิ่งตามความมุ่งหมาย
*บัดนี้ ท่านทั้งหลายได้รับความสำเร็จอย่างสำคัญในชีวิตมาขั้นหนึ่งแล้ว ย่อมมุ่งหมายความสำเร็จที่สูงขึ้นต่อไป คือความเจริญมั่นคงและความรุ่งเรืองก้าวหน้าในฐานะและหน้าที่การงาน ความสำเร็จดังนี้ย่อมเป็นที่พึ่งปรารภปรารถนาอย่างยิ่งของคนทุกคน แต่ก็มิใช่สิ่งที่ทุกคน แม้เป็นผู้มีความรู้สูง จะได้มาโดยง่าย ทั้งนี้เพราะในการสร้างอนาคตที่มั่นคงรุ่งโรจน์นั้น นอกจากวิชาความรู้ที่เจนจัดแล้ว บุคคลยังจำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติและความสามารถพิเศษอีกหลายด้าน เป็นเครื่องอุดหนุนและส่งเสริมความรู้ของตนด้วย ข้อแรก จะต้องเป็นคนที่ทำตัวทำงานอย่างมีหลักการ มีระเบียบ มีเหตุผลที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ เป็นธรรม ข้อสอง ต้องมีความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในการทำงานและการทำความดี แม้จะมีความเหนื่อยยากหรือมีอุปสรรคขัดขวางมากมายเพียงใด ก็ไม่ย่อท้อถอยหลัง ข้อสาม ต้องเอาใจใส่ศึกษาค้นคว้าหาวิชาและความรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ ให้ลึกซึ้งและกว้างขวางรอบด้านไว้สำหรับใช้เทียบเคียง ประกอบการพิจารณาตัดสินปัญหาต่าง ๆ ในการงาน ข้อสี่ ซึ่งสำคัญที่สุด ต้องสามารถควบคุมกายใจ คือการกระทำความคิดของตน ให้สงบหนักแน่น แน่วแน่ในความเป็นกลางอยู่เสมอ แม้ในเวลามีเหตุชวนให้วุ่นวายสับสน ความสามารถทำกายทำใจให้สงบ หนักแน่น เป็นกลางห่างจากอคตินี้ จะช่วยให้เกิดสติระลึกรู้ถึงเหตุถึงผล ถึงข้อเท็จจริง และความถูกผิดของเรื่องทั้งปวง จึงเป็นอุปการะสำคัญของการคิดพิจารณาปัญหาต่าง ๆ เพราะช่วยให้มองเห็นปัญหาได้กระจ่างแจ่มชัด สามารถตัดสินชี้ขาดได้โดยถูกต้องเที่ยงตรง เป็นธรรม เป็นประโยชน์เสมอ ไม่มีอับจน ข้อที่พูดนี้แท้จริงเป็นทฤษฎีสำหรับปฏิบัติ ซึ่งถ้าได้ริเริ่มนำไปปฏิบัติในการงานส่วนหนึ่งส่วนใดแล้ว ก็จะได้เห็นผลในงานส่วนนั้นทันที เมื่อเห็นผลดีนั้นแล้ว ย่อมจะเกิดกำลังใจและมีความมั่นใจที่จะยึดถือปฏิบัติให้กว้างขวางออกไปในกรณียกิจของตน ตลอดทุกส่วน แต่ละคนก็จะได้รับผลสำเร็จ คืออนาคตอันแจ่มใสทั้งของตนเองและของชาติบ้านเมืองตามที่มุ่งประสงค์
*ข้าราชการที่มีหน้าที่สำคัญส่วนหนึ่ง ที่จะต้องประพฤติปฏิบัติต่อบุคคลทั้งปวงด้วยความสุจริตจริงใจ วางตัวให้พอเหมาะพอสมกับฐานะตำแหน่ง พร้อมกับรักษาความสุภาพอ่อนโยนไว้ให้เหนียวแน่นสม่ำเสมอ นอกจากนั้น ยังจะต้องมีความเสียสละ อดทน รู้จักเกรงใจ ให้อภัย ทั้งโอนอ่อนผ่อนตามกันและกันด้วยเหตุผล และสำคัญที่สุด จะต้องหัดทำใจให้กว้างขวางหนักแน่น รู้จักรับฟังความคิดความเห็นแม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่นอย่างฉลาด เพราะการรู้จักรับฟังอย่างฉลาดนั้นแท้จริงคือ การระดมสติปัญญาและประสบการณ์อันหลายหลาก มาอำนวยประโยชน์ในการปฏิบัติบริหารงานให้ประสบความสำเร็จที่สมบูรณ์นั่นเอง
*จิตใจที่สะอาดปลอดโปร่งจากสิ่งรบกวนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นจิตใจสงบ และเยือกเย็น ทำให้บุคคลมีสติรู้ตัว มีความคิดเที่ยงตรงเป็นกลาง มีวิจารณญาณละเอียดกว้างขวาง และถูกต้องตรงจุด ความคิดวิจารญาณที่เกิดจากจิตใจที่สงบนี้มีศักยภาพสูง อาจนำไปใช้คิดอ่านสร้างสรรค์สิ่งที่จะอำนวยประโยชน์สุขความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติคุณอันเป็นสิ่งปรารภปรารถนาของแต่ละคนให้สัมฤทธิ์ผลได้
 
=== 1994 ===
 
* การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกัน โดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์ ทุกคนต้องการความสุขหากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยยุติธรรม
*เมืองไทยยังไม่ฆ่ากันอย่างนั้น คือยังไม่ฆ่ากันเป็นกิจการ เป็นล่ำเป็นสัน อย่างที่เขาทำกันทั่วโลก แต่เราอยู่ในยุคโลกานุวัตร คือจะต้องทำตามที่เขาทำกันในโลก เราจะต้องฆ่ากันไหม เห็นว่าไม่ถูก ไอ้คำว่าโลกานุวัตรนี่ ต้องพูด ถ้าไม่พูด ไม่ทันสมัย ที่จริงก็ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรแน่ แต่ก็ต้องพูด รู้สึกมันเก๋ดี แล้วเขาก็ยังใช้อีกคำหนึ่งคือโลกาภิวัตน์ ซึ่งความหมายของโลกาภิวัตน์ยิ่งหนักเข้าไปอีก อย่างไรก็ตามขออย่าให้เป็นโลกานุวัตร เราอย่าตามเขาในการฆ่ากันเป็นกิจกรรม ฉะนั้นก็คิดดูว่าการฆ่ากันอย่างนี้ การทะเลาะกันอย่างขนานหนัก มันไม่ดีแน่ (โลกานุวัตร - โลก + อนุ - ตาม + วัตร - ข้อปฏิบัติ = ปฏิบัติตามโลก หรือ โลกานุวัตน์ - โลก + อนุ - ตาม + วัตน์ - ความเป็นอยู่ ความเป็นไป = เป็นอยู่ตามโลก โลกาภิวัฒน์ - โลก + อภิ - ยิ่ง + วัฒน์ - เจริญ = โลกเจริญยิ่ง หรือ โลกาภิวัตน์ -โลก + อภิ - ยิ่ง + วัตน์ - ความเป็นอยู่ ความเป็นไป = ความเป็นอยู่ ความเป็นไปยิ่งกว่าโลก ความจริงดูเหมือนจะหมายความว่า โลกแคบลง เหตุการณ์ใดในส่วนใดของโลก จะแพร่ไปทั่วโลกเกือบทันที และกลายเป็นธรรมดา) ยิ่งที่อดีตยูโกสลาเวียฆ่ากันนั้นเป็นขนานหนักจริง ๆ ใช้เครื่องบินสมัยใหม่ทิ้งระเบิด ใช้ปืนใหญ่ ฆ่ากันอย่างเป็นกิจการทุกวัน ๆ เห็นได้ว่า มีความแตกต่างในความคิด ในความเป็นอยู่ เขาก็ฆ่ากัน แต่ในยูโกสลาเวียนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการฆ่ากัน มีการรบกันเป็นกิจวัตรมาเป็นเวลานาน เป็นศตวรรษ ไม่ใช่ของใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ที่ศึกษาดูก็ทำได้ที่จะให้เมืองเจริญ ที่ทำให้เมืองเป็นปึกแผ่นได้ แม้จะเป็นประเทศยูโกสลาเวีย
*การสร้างความเจริญมั่นคงให้กับตนเอง แก่ส่วนรวม หรือแก่ชาติบ้านเมืองก็ตาม ที่จริงเป็นสิ่งเดียวกัน ที่เรียกว่าการพัฒนาหรือการปฏิบัติปรับปรุงให้ดีขึ้น ให้เจริญขึ้นด้วยเหตุนี้ การพัฒนาประเทศจึงมีโครงการต่าง ๆ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวอยู่มากมายหลายประเภท เพื่อปฏิบัติแก้ไขปัญหาในทุก ๆ ส่วนของบ้านเมือง ยกตัวอย่างเช่น นักเรียนในชนบทห่างไกลขาดแคลนอาหารที่จะบริโภค จึงได้มีโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันสำหรับเด็กยากจนในโรงเรียนในท้องถิ่นทุรกันดารขึ้น โครงการนี้ มิใช่เป็นเพียงการนำอาหารไปป้อนให้เด็กเฉพาะครั้งเฉพาะคราวเท่านั้น แต่จะสนับสนุนนักเรียนเหล่านั้นให้สามารถทำการเกษตรอย่างได้ผล เพื่อที่จะได้มีอาหารมาบริโภคอย่างยั่งยืน ในการปลูกพืชผักสวนครัว จะต้องจัดหาพันธุ์พืชและปรับปรุงดินให้เหมาะสมแก่การเพาะปลูก รวมทั้งจัดหาแหล่งน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งการนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย นักเรียนเองก็จะต้องมีส่วนร่วมในโครงการ ทั้งในการเพาะปลูก การบำรุงรักษา และการนำผลผลิตการมาประกอบอาหารที่มีคุณค่าเหมาะสมตามหลักโภชนาการ การปฏิบัติการเกษตรตามโครงการนี้ แม้เพียงการปลูกพืชผักสวนครัวอย่างเดียวจะต้องอาศัยปัจจัยมากมายหลายอย่าง จึงจะสำเร็จผลที่ดีได้ บัณฑิตผู้จะได้ออกไปปฏิบัติงานพัฒนาบ้านเมืองต่อไป จึงควรพิจารณาให้เห็นถ่องแท้ ว่าการปฏิบัติงานใด ๆ ก็ตาม จะต้องหวังผลสำเร็จที่เป็นประโยชน์อันยั่งยืน และงานทุกอย่างที่ทำ มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับวิชาการด้านอื่นๆ บุคคลอื่น ๆ ซึ่งต่างส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่อย่างแนบแน่น เมื่อปฏิบัติงานอันใดกับผู้ใด จะต้องพยายามร่วมกันคิดพิจารณาและปรึกษาให้เข้าใจกัน พร้อมกับระมัดระวังปฏิบัติการให้ส่งเสริมเกื้อกูลกันให้ตลอด งานที่ทำจึงจะบรรลุผลเลิศและเกิดประโยชน์ตามมุ่งหมาย
*การปฏิบัติงานพัฒนา หรือ การกระทำทุกสิ่งอัน ย่อมจะมีผลต่อเนื่องออกไปอีกหลายอย่างได้ เช่น การที่นักเรียนปฏิบัติตามโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน นอกจากจะได้ผลโดยตรง คือ ให้อิ่มท้องก็จะทำให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและสติปัญญา สามารถศึกษาเล่าเรียนและสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงให้แก่ตนเองและประเทศชาติต่อไปได้ ผลดีอีกประการหนึ่งของโครงการนี้ ที่หลายคนอาจมองไม่เห็น ก็คือเป็นการฝึกฝนให้เด็กนักเรียนได้ปฏิบัติและเรียนรู้วิชาการต่าง ๆ อย่างกว้างขวางทั้งด้านการเกษตร การชลประทาน และโภชนาการ รวมทั้งให้รู้จักพึ่งตนเองรู้จักทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างใหญ่ยิ่งในภายภาคหน้า นอกจากนี้ ครูและผู้ปกครองก็จะเกิดความรู้ ความคิด ที่จะนำไปปรับใช้ให้บังเกิดผลดีแก่การประกอบอาชีพของตนและเมื่อผู้อื่นได้เห็นก็จะนำไปปฏิบัติตาม ผลการปฏิบัติตามตัวอย่างก็จะยิ่งก่อเกื้อประโยชน์ขยายออกไปทั่วทั่งชุมชน นักวิชาการผู้ปฏิบัติงานพัฒนาตามโครงการต่าง ๆ ไม่ควรจะละเลยมองข้ามความสำคัญของกิจกรรม แม้เล็กน้อยหากจำเป็นจะต้องพิจารณาให้ลึกซึ้ง รอบคอบ และละเอียดถี่ถ้วน ให้ทราบว่า ผลที่เกิดขึ้นจากโครงการนั้น จะมีขอบเขตต่อเนื่องกว้างไกลเพียงใด จักได้สามารถวางแผนงานให้สอดคล้องตรงกันทุกส่วนทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชนส่วนรวมให้ได้มากที่สุด
*ข้าราชการเป็นผู้มีหน้าที่การงานกว้างขวางต้องเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก และการเกี่ยวข้องประสานประโยชน์กันนั้นต้องอาศัยมิตรจิตและความเข้าใจอันดีต่อกันเป็นพื้นฐาน ผู้ฉลาดจึงควรปรับปรุงการกระทำความคิดของตัวให้สุจริตผ่องใส พยายามสร้างเสริมความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีต่อผู้อื่นให้สมบูรณ์ ทั้งพึงระลึกอยู่เสมอด้วยว่า ผู้อื่นเขาก็มีความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ความดีความเจริญเช่นเดี่ยวกันกับเรา ถ้าหากทุกฝ่ายทุกคนมีความเข้าใจดีต่อกัน การร่วมมือประสานงานย่อมจะเป็นไปได้โดยสะดวก และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การแก้ปัญหาของบ้านเมือง
*ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดความเห็นให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลงให้ได้ ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไปโดยเต็มกำลังความรู้ ความคิด และความสามารถ ด้วยความจริงใจ ด้วยความเมตตาปรองดอง และความมุ่งดีปรารถนาดีต่อกัน ผลงานของทุกคนจักได้ประมวลกันขึ้นเป็นประโยชน์สุข ความมั่นคง และความวัฒนาถาวรของประเทศชาติ ซึ่งเป็นจุดหมายอันสูงสุดของเรา
 
=== 1995 ===
 
* การปฏิบัติราชการให้สำเร็จผลที่พึงประสงค์นั้น นอกจากจะอาศัยความรู้ความสามารถในทางวิชาการแล้วแต่ละบุคคลยังจะต้องมีรากฐานทางจิตใจที่ดี คือความหนักแน่นมั่นคงในสุจริตธรรม และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้จนเสร็จ ทั้งต้องมีกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการปฏิบัติงานประกอบกันพร้อมด้วย จึงจะสัมฤทธิ์ผลที่แน่นอนและบังเกิดประโยชน์อันยั่งยืนทั้งแก่ตนเองและแผ่นดิน
* ทุกอย่างเป็นธรรมดา ที่มีทั้งคุณและโทษ ถ้าเราใช้ดี ๆ ก็เป็นคุณ ถ้าเราใช้ไม่ดีก็เป็นโทษ
*สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่
*เมื่อน้ำท่วมอยู่ จวนจะแห้งแล้ว ทางกรมอุตุนิยมฯ โดย นายสมิทธ ธรรมสโรช 13  ได้ส่งพยากรณ์อากาศมาให้ และเขียนไว้เป็นโน้ต บอกว่า “กรมอุตุนิยมฯ ถวายเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ และเกี่ยวกับการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ” เปิดดู เขาบอกว่า “ถวายต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา”  หมายความว่า กรมอุตุนิยมฯ มาใช้เราเป็นผู้พยากรณ์  ก็เป็นเกียรติ  เขาเขียนว่า “เพื่อทรงพิจารณา”  ดูแล้วก็หนักใจอยู่ เพราะว่าดูในแผนที่อากาศ พายุแอนเจลล่า อ้วนจ้ำม่ำ อ้วนเหมือน แอนเจลล่า ในการ์ตูน  ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลาย เคยเห็นหรือเปล่า แอนเจลล่าที่เป็นอริกับ ป๊อบอาย  คือในการ์ตูน ป๊อบอาย มี แอนเจลล่า ตัวอ้วนเบ้อเร่อ เป็นอริของป๊อบอาย  นี่ละกำลังมาเป็นอริกับเรา
*ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสำคัญประเทศหนึ่งในการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร ทั้งนี้เพราะพลเมืองส่วนใหญ่ของเราเป็นชาวนา ผู้อุสาหะปลูกข้าวเลี้ยงเรามาเป็นเวลาหลายร้อยปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสอยู่เสมอว่า ชาวนาเป็นผู้มีบุญคุณต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง เพราะชาวนาทำให้ไทยเป็นประเทศที่สามารถผลิตอาหารเลี้ยงตนเอง เราจึงเป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรี และมีรากฐานอันสำคัญที่จะก้าวไปสู่ความเจริญยิ่งขึ้น และมีชาวต่างประเทศกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าประเทศไทยนี้โชคดีที่ชาวนายังรักการทำนา ไม่ทิ้งนาไปหางานอื่นทำกันหมด
*การสร้างความสำเร็จในกิจการงานทุกอย่างทุกระดับ รวมทั้งความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคน จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบพร้อมกัน และมีวิธีปฏิบัติที่ดีด้วยจึงจะสัมฤทธิ์ผลได้ตามที่มุ่งประสงค์ ข้าพเจ้าจึงใคร่จะแนะนำแนวทางปฏิบัติงาน ปฏิบัติตนให้บัณฑิตทั้งหลายได้พิจารณาดังนี้ ข้อแรก ให้ระลึกถึงเกียรติภูมิของบัณฑิตไว้เสมอ เพื่อป้องกันมิให้ประพฤติผิด หรือประพฤติทวนหลักวิชา หลักการ เหตุผล และความถูกต้องชอบธรรม ข้อสอง ให้ตั้งเป้าหมายในการงานและในชีวิตไว้ในทางที่สุจริตและดีงาม แล้วมุ่งดำเนินไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างเที่ยงตรง ข้อสาม ต้องมีความพากเพียรพยายามไม่ขาดสาย ทั้งในการสร้างสรรค์งาน และการปฏิบัติปรับปรุงตนเองให้มีความรอบรู้และประสบการณ์ที่จัดเจนชำนาญ เพื่อให้เกิดวิวัฒนาการก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น ข้อสี่ต้องมีใจที่หนักแน่นกว้างขวาง ประกอบด้วยเมตตาและไมตรี เพื่อความสามารถผูกสัมพันธ์และร่วมงานร่วมคิดอ่านกับผู้อื่นได้อย่างสอดคล้องคล่องตัว บัณฑิตจะได้นำข้อที่กล่าวนี้ไปพิจารณาปฏิบัติให้ครบถ้วนและพอเหมาะพอดี เชื่อว่าจะช่วยให้แต่ละคนประสบความสำเร็จอันน่าพอใจในการทำงาน ทั้งจะเกื้อกูลให้มีความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกราบรื่นในชีวิต พร้อมสมบูรณ์ในวันข้างหน้า
 
=== 1996 ===
 
* การยึดมั่นในผลประโยชน์ของแผ่นดิน และความถูกต้องเป็นธรรม เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการเพราะการยึดมั่นดังกล่าว จะทำให้มีจิตใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวในอันที่จะพากเพียรปฏิบัติหน้าที่ให้จนบรรลุผลสำเร็จ และสามารถป้องกันความผิดพลาดเสียหายอันจะเกิดแก่ตนแก่งานได้อย่างแท้จริง
*ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้ ถ้ารู้จักคิดให้ดี ปฏิบัติให้ถูก การคิดได้ดีนั้น มิใช่การคิดได้ด้วยลูกคิด หรือด้วยสมองกล เพราะโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังไมมีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ การขบคิดวินิจฉัยปัญหา จึงต้องใช้สติปัญญา คือคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพื่อหยุดยั้งและป้องกันความประมาทผิดพลาด และอคติต่าง ๆ มิให้เกิดขึ้น ช่วยให้การใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ทำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกัน เป็นกระบวนการได้กระจ่างชัด ทุกขั้นตอน
*ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกประเทศ ในโลกจึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อม ให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมี ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อนมนุษย์
*นิสัยใจคอของคน เป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน แต่ละคนจะต้องปราบตัวเองโดยขัดเกลาให้ลุล่วงไปได้
*การพัฒนานั้น ได้เป็นภารกิจและนโยบายสำคัญของการปกครองบริหารประเทศของเรามานานพอสมควรแล้ว แต่กระนั้นก็เป็นที่ทราบกันว่า เรายังจะต้องพัฒนาต่อไปอีกมาก ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าจึงใคร่จะปรารภกับทุกท่านว่า การพัฒนาประเทศจะบรรลุผลตามเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยประกอบการหลายอย่าง อย่างแรก ต้องมีคนดี คือมีปัญญา มีความรับผิดชอบ มีความวิริยะอุตสาหะ เป็นผู้ปฏิบัติ อย่างที่สอง ต้องมีวิทยากรที่ดี เป็นเครื่องใช้ประกอบการ อย่างที่สาม ต้องมีการวางแผนที่ดี ให้พอเหมาะพอควรกับฐานะ เศรษฐกิจ และทรัพยากรที่มีอยู่ โดยคำนึงถึงประโยชน์อันพึงประสงค์ของประเทศและประชาชน เป็นหลักปฏิบัติ บัณฑิตเป็นผู้มีปัญญาความสามารถสูง เพราะได้รับการศึกษาอบรมมามาก ย่อมเป็นที่หวังของคนทั่วไปว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติบริหารงานของชาติ ให้วิวัฒนาไปด้วยดีในทุก ๆ ด้าน
*ประโยชน์อันพึงประสงค์ของการพัฒนานั้น ก็คือ ความผาสุกสงบ ความเจริญมั่นคง ของประเทศชาติและประชาชน แต่การที่จะพัฒนาให้บรรลุผลเป็นประโยชน์ดังกล่าวได้ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนให้อยู่ดีกินดี เป็นเบื้องต้นก่อน เพราะฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนนั้น คือรากฐานอย่างสำคัญของความสงบและความเจริญมั่นคง ถ้าประชาชนทุกคนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว ความสงบ และความเจริญ ย่อมจะเป็นผลก่อเกิดต่อตามมาอย่างแน่นอน จึงอาจพูดได้ว่า การพัฒนาก็คือการทำสงครามกับความยากจน เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนโดยตรง เมื่อใดก็ตาม ที่ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี และประเทศชาติมีความสงบ มีความเจริญ เมื่อนั้นการพัฒนาจึงจะถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นชัยชนะของการพัฒนาอย่างแท้จริง
*ความสามัคคีปรองดองและความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันนั้น ยังมีบริบูรณ์อยู่ในจิตใจของคนไทย ถ้ามีเหตุการณ์อยู่ในจิตใจของคนไทย ถ้าเหตุการณ์หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น และมีผลกระทบถึงส่วนรวมแล้วเราจะเข้าใจกัน และร่วมมือกันได้แน่นแฟ้นเสมอ
 
=== 1997 ===
 
* การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่ข้าราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทุกๆ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เพื่อผลการปฏิบัติราชการทุกอย่างจักได้บรรลุความสำเร็จอย่างสูงและบังเกิดประโยชน์อย่างดีที่สุดแก่ตน แก่หน้าที่ และแก่แผ่นดิน
*ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
*การจะเป็นเสือนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง
*ความคิดนั้นสำคัญมาก ถือได้ว่าเป็นแม่บทใหญ่ของคำพูดและการกระทำทั้งปวง กล่าวคือ ถ้าคนเราคิดดี คิดถูกต้อง ทั้งตามหลักวิชาและคุณธรรม คำพูดและการกระทำก็เป็นไปในทางที่ดีที่เจริญ แต่ถ้าคิดไม่ดีไม่ถูกต้องคำพูดและการกระทำก็อาจก่อความเสียหาย ทั้งแก่ตัวเองและส่วนรวมได้ ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่บุคคลจะพูดจะทำสิ่งใด จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนว่า กิจที่จะทำ คำที่จะพูด ผิดหรือถูก เป็นคุณประโยชน์หรือเป็นโทษเสียหาย เป็นสิ่งที่ควรพูด ควรกระทำ หรือควรงดเว้น เมื่อคิดพิจารณาได้ดังนี้ ก็จะสามารถยับยั้งคำพูดที่สมควรหยุดยั้งการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พูดและทำแต่สิ่งที่จะสัมฤทธิ์ผลเป็นคุณ เป็นประโยชน์ และเป็นความเจริญ
*หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้นจึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
*ปัญญา แปลว่าความรู้ทั่ว มีอยู่ ๒ ลักษณะ ด้วยกัน คือปัญญาที่เกิดจากการเล่าเรียนจดจำมาอย่างหนึ่ง กับปัญญาที่เกิดจากการศึกษาสังเกตและนำมาขบคิดพิจารณาจนรู้ชัดอย่างหนึ่ง บัณฑิตแต่ละคนในที่นี้ เชื่อว่าต่างได้รับการศึกษาอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี แต่ในด้านการศึกษาสังเกตนั้นอาจยังย่อหย่อนอยู่บ้าง เพราะมีประสบการณ์ในชีวิตไม่มากนัก ทุกคนจึงควรจะได้สนใจสังเกตศึกษาเรื่องราว บุคคล และสิ่งต่าง ๆ ที่แวดล้อมและเกี่ยวข้องกับตัวเองให้มาก อย่าละเลยหรือมองข้ามแม้สิ่งเล็กน้อย เช่น ต้นหญ้า ซึ่งถ้าศึกษาพิจารณาให้ดีก็จะก่อให้เกิดปัญญาได้ หญ้านั้นมีทั้งหญ้าที่เป็นวัชพืชซึ่งเป็นโทษ และหญ้าที่มีคุณอย่างหญ้าแฝก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การอนุรักษ์ดินและน้ำ เพราะมีรากที่หยั่งลึกแผ่กระจายลงไปตรง ๆ ทำให้อุ้มน้ำและยึดเหนี่ยวดินได้มั่นคง และมีลำต้นชิดติดกันแน่นหนา ทำให้ดักตะกอนดินและรักษาหน้าดินได้ดี คนเราก็เช่นเดียวกัน มีทั้งบุคคลที่มีชีวิตอยู่โดยเปล่าประโยชน์และบุคคลที่มีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า ต้นหญ้าจึงเป็นบทเรียนได้อย่างดีเลิศ สำหรับนำมาพิจารณาเทียบเคียงให้เป็นคติในการดำเนินชีวิตของบุคล ว่าควรจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างวัชพืช ซึ่งอยู่ ณ ที่ใดก็มีแต่สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ที่นั้น หรือควรจะประพฤติปฏิบัติตนอย่างหญ้าแฝก ซึ่งมีแต่สร้างสรรค์ประโยชน์และความมั่นคงเป็นปึกแผ่นให้แก่ตนและแก่แผ่นดินอันเป็นที่อยู่ที่อาศัย
*สิ่งที่ดีมีประโยชน์นั้น จะต้องใช้ให้ถูกต้องตามหลักวิชา และเหมาะสมแก่สภาพการณ์ทั่วไปด้วย จึงจะได้ผลที่พึงประสงค์ อย่างเช่น การปลูกหญ้าแฝก จะต้องปลูกให้ชิดติดกันเป็นแผง และวางแนวให้เหมาะสมกับลักษณะของภูมิประเทศ เป็นต้นว่า บนพื้นที่สูง จะต้องปลูกตามแนวขวางของความลาดชันและร่องน้ำ บนพื้นที่ราบ จะต้องปลูกรอบแปลงหรือปลูกตามร่องสลับกับพืชไร่ ในพื้นที่เก็บกักน้ำ จะต้องปลูกเป็นแนวเหนือแหล่งน้ำ หญ้าแฝกที่ปลูกโดยหลักวิธีดังนี้ จะช่วยป้องกันการพังทลายของหน้าดิน รักษาความชุ่มชื้นในดิน เก็บกักตะกอนดินและสารพิษต่าง ๆ ไม่ให้ไหลลงแหล่งน้ำ ซึ่งจะอำนวยผลเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนการฟื้นฟูดินและป่าไม้ให้สมบูรณ์ขึ้น บัณฑิตผู้จะออกไปเริ่มต้นชีวิตการงานต่อไป จึงควรจะได้ศึกษาพิจารณาเรื่องความถูกต้องเหมาะสมที่กล่าวนี้ให้ทราบชัด แล้วกำหนดเป็นหลักปฏิบัติให้แก่ตัวเองว่า ในการปฏิบัติกิจการงานทุกอย่างนั้น นอกจากต้องมีความรู้ความคิดที่ดีมีประโยชน์แล้ว จะต้องใช้ความรู้ความคิดให้ถูกต้องพอเหมาะพอดีแก่งาน แก่สถานการณ์ แก่บุคคล และท้องถิ่นด้วย จึงจะหวังผลตอบแทนที่สมบูรณ์คุ้มค่าได้
*งานของชาตินั้นเป็นงานที่กว้างขวาง ประกอบด้ยงานทุกด้านทุกระดับอันสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องถึงกันหมด โดยแต่ละอย่างต่างต้องอาศัยและเกื้อกูลสนับสนุนกันอย่างสอดคล้องพอเหมาะพอดี จึงจะสัมฤทธิ์ผลที่ทำให้ชาติบ้านเมืองมั่นคงและเจริญก้าวหน้าไปได้
 
=== 1998 ===
 
* คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข
*ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศนั้น นอกจากจะต้องมีกำลังรบที่เข้มแข็ง และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ก้าวหน้าทันสมัยแล้วยังจำเป็นที่ประชาชนจะต้องมีความวัฒนาผาสุกปลอดภัยจากภยันตราย และความเดือดร้อนยากเข็ญต่าง ๆ ด้วย จึงเป็นหน้าที่ของทหารในการบำบัดบรรเทาความทุกข์ยากและการพัฒนาสร้างสรรค์ให้เกิดความเจริญร่มเย็นแก่บ้านเมืองและประชาชน
*ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
*การทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้น ที่จะให้เป็นไปโดยราบรื่น ปราศจากปัญหาข้อขัดแย้ง ย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะคนจำนวนมากย่อมมีความคิดความต้องการที่แตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง ท่านจะต้องรู้จักอดทนและอดกลั้น ใช้ปัญญา ไม่ใช้อารมณ์ ปรึกษากัน และโอนอ่อนผ่อนตามกันด้วยเหตุผล โดยถือว่าความคิดที่แตกต่างกันนั้น มิใช่เหตุที่จะทำให้เป็นข้อขัดแย้ง โต้เถียง เพื่อเอาแพ้เอาชนะกัน แต่เป็นเหตุสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความกระจ่างแจ้ง ทั้งในวิถีทางและวิธีการปฏิบัติงาน
*การรู้จักประมาณตน ทำให้คนเรารู้จักใช้ความรู้ความสามารถ ที่มีอยู่ได้พอเหมาะพอดีกับงาน และได้ประโยชน์สูงสุดเต็มตามประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงส่งเสริมศักยภาพในตนเองให้ยิ่งสูงขึ้น ผู้รู้จักประมาณตน จึงสามารถทำตนทำงานได้ผลดีกว่าคนอื่น ผู้ที่แม้จะมีความรู้ความสามารถมากกว่า แต่ไม่รู้จักประมาณตน วันนี้ใคร่จะกล่าวกับท่านถึงเรื่อง การรู้จักประมาณสถานการณ์ การรู้จักประมาณสถานการณ์ ได้แก่การรู้จักพิจารณาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้เห็นชัดถึงความเป็นมา และที่เป็นอยู่ แล้วคาดว่าควรจะเป็นไปอย่างไรในอนาคต อย่างเช่น เมื่อเกิดน้ำท่วม ณ ที่ใดที่หนึ่ง ก็จะต้องศึกษาสถานการณ์ต่าง ๆ ให้รู้กระจ่างทั่วถึง เริ่มแต่น้ำท่วมนั้นเกิดขึ้นมาอย่างไร ในพื้นที่นั้นมีสภาพเป็นอย่างไร เคยมีน้ำท่วมมาแล้วกี่ครั้ง มีระยะถี่ห่างอย่างไร แต่ละครั้งก่อให้เกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด และในปัจจุบันมีลักษณะอย่างไร เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร เมื่อรู้สถานการณ์ที่เป็นมาและที่เป็นอยู่แน่ชัด ก็ควรประมาณสถานการณ์ได้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร และจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด การแก้ไขป้องกัน ก็จะสามารถกำหนดวิธีการได้ถูกตรงกับปัญหา และสภาพพื้นที่ ทั้งสามารถกำหนดเวลาปฏิบัติได้ว่า การใดควรจะทำก่อนหลัง และการใดเป็นการด่วน ที่จะต้องเร่งทำให้แล้วเสร็จทันการณ์ทันเวลา เพื่อป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดมีขึ้นอีก การรู้จักประมาณสถานการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ในการปฏิบัติงาน ยิ่งประมาณสถานการณ์ได้ถูกต้องเพียงใด ก็จะทำให้งานที่ทำสำเร็จผลสมบูรณ์ และได้ประโยชน์คุ้มค่ามากขึ้นเพียงนั้น
*วิธีการพัฒนาที่เหมาะสมแก่ประเทศเราอย่างยิ่ง ก็คือจะต้องทำนุบำรุงเกษตรกรรมทุกสาขาให้พัฒนาก้าวหน้า เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกระดับให้สูงขึ้น เริ่มต้นตั้งแต่การลงมือผลิต โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด ด้วยการดัดแปลงปรับปรุงนำสิ่งที่มีอยู่โดยธรรมชาติมาใช้ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรของเราได้ผลผลิตเพียงพอแก่การเลี้ยงตัว คือพอมี พอกิน เป็นเบื้องต้นก่อน ต่อไป เมื่อเหลือจึงจำหน่ายหารายได้ ซึ่งหากจะให้ได้ผลที่สมบูรณ์ ก็จะต้องมีการจัดการเรื่องการตลาดอย่างดี รวมทั้งมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อันจะทำให้ผลิตผลทางการเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น โดยนัยนี้เกษตรกรของเราก็จะมีฐานะความเป็นอยู่ที่มั่นคงพึ่งตนเองได้ อันจะส่งผลให้ฐานะทางเศรษฐกิจโดยส่วนรวมของประเทศมีความเข้มแข็งตามไปด้วย บัณฑิตทุกคนจึงควรจะได้พิจารณาหลักการดังกล่าวให้เข้าใจชัด เมื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นงานราชการ หรือทำงานส่วนตัว ขอให้ตั้งใจพยายามสร้างพื้นฐาน คือความพอมี พอกิน และพอใช้ ให้ได้ก่อน ถ้าทำได้ดังนี้ ก็เชื่อว่าแต่ละคนจะประสบความสำเร็จ และความเจริญ ในขั้นที่สูงขึ้น โดยลำดับต่อไปได้เป็นแน่นอน
*ในประเทศของเราเท่าที่เป็นอยู่บัดนี้ ยังมีเกษตรกรอีกมากที่ขัดสนและพึ่งตนเองไม่ได้ ความขัดสนของเกษตรกรดังกล่าว เกิดเพราะการขาดแคลนทุนรอน และไม่สามารถใช้กำลังแรงกำลังความคิดที่มีอยู่ ไปปฏิบัติให้ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งยังไม่ได้รับความสะดวกเพียงพอในการค้าขายแลกเปลี่ยน ทำให้ไม่ได้รับรายได้จากผลผลิตอย่างคุ้มค่า เกษตรกรเหล่านั้นจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้ การช่วยเหลือนี้เป็นงานใหญ่ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน และอาศัยกำลังความรู้ความสามารถของนักวิชาการทุกฝ่าย มาช่วยกันให้ความรู้ความคิดและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชา รวมทั้งจัดทำโครงการต่าง ๆ เป็นต้นว่าการจัดหาแหล่งน้ำ และแหล่งเงินทุนมาสนับสนุน
*ในปีที่ล่วงไปแล้ว ประเทศของเราต้องประสบกับภาวะผันผวนหลายอย่าง ซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทำให้กระทบกระเทือนอย่างมากถึงฐานะทางเศรษฐกิจ การคลัง การเมือง ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป ในปีใหม่นี้สถานการณ์ต่าง ๆ ยังมิได้มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงแต่ประการใด ดังนั้น ทุกคนจึงควรจะได้รับรู้ความจริงข้อนี้ และเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญกับภาวะนี้อย่างผู้มีสติ มีปัญญา มีความเข้มแข็ง และกล้าหาญ เพื่อประคับประคองตัวให้อยู่รอด และพร้อมที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคง แต่อย่างไรก็ดี ประเทศของเราก็เคยประสบกับปัญหาดังนี้มาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งเราก็สามารถผ่านพ้นความยุ่งยากทั้งนั้น ๆ มาได้ด้วยความสวัสดี โดยอาศัยความอดทน ความเสียสละ ความมีระเบียบวินัย ความสามัคคีปรองดอง และความมีสติรู้เท่าทันสถานการณ์ ของทุกคนในชาติ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน หากทุกคนจะได้ร่วมมือร่วมใจกันประพฤติตนปฏิบัติงานตามแนวทางแต่เก่าก่อน ก็หวังได้ว่าเราจะพาตัวพาชาติให้อยู่รอดปลอดภัย และจรรโลงสร้างเสริมความเจริญทุกอย่าง ให้ยิ่งมั่นคงและก้าวหน้าได้เป็นแน่นอน
 
=== 1999 ===
 
* ความเจริญของประเทศชาติเป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ. ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดินควรจะได้คำนึงในข้อนี้ให้มาก พิจารณาให้เห็นความสำคัญของผู้อื่น ให้รู้จักนับถือผู้อื่น ใช้ความมีเหตุผลและความร่วมมือกัน ในการปฏิบัติบริหารงานทั้งปวง เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และจรรโลงประเทศชาติของเราให้ดำรงมั่งคงอยู่ตลอดไป
*คนทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ แม้เป็นเด็กก็มีหน้าที่อย่างเด็กคือศึกษาเล่าเรียน หมายความว่าจะต้องเรียนให้รู้วิชา ฝึกหัดทำการงานต่าง ๆ ให้เป็น อบรมขัดเกลาความประพฤติและความจิตใจให้ประณีต ให้สุจริต แจ่มใส และเฉลียวฉลาด มีเหตุผล เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
*คนที่มีไมตรีต่อกัน จะคิดอะไร ก็คิดแต่ในทางสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน จะพูดอะไร ก็ใช้เหตุผลเจรจากัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน จะทำอะไร ก็ช่วยเหลือร่วมมือกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
*เป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายปีแล้ว ที่วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและของประชาชนทั่วไปมีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด เพราะความผันแปรทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในปีใหม่นี้ สถานการณ์ของประเทศโดยส่วนรวมยังไม่แจ่มใสนัก ซึ่งหมายความว่า เราทุกคนต้องขับเคี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาด้านการครองชีพหนักขึ้น น่าพอใจยินดี ที่พวกเราเป็นอันมากยอมรับรู้ความจริงข้อนี้ แล้วระวังตั้งใจเผชิญกับปัญหา และสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยความสงบอดทน และด้วยความมีสติ รู้เท่าทันสถานการณ์ ทำให้ผ่านสภาวการณ์ไม่ปกติต่าง ๆ มาได้เรียบร้อยพอควร และหวังได้ว่าจะประคับประคองตัวให้อยู่รอดและก้าวต่อไปได้โดยสวัสดี
 
=== 2000 ===
 
* ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จะต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยอุดมคติ ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ และระมัดระวังให้การทุกอย่างในหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้อง และเที่ยงตรงเป็นกลาง ด้วยความระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่า การปฏิบัติตัวปฏิบัติงานของตนมีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมืองและของประชาชนทุกคน
* ในรอบปีที่ผ่านไป มีเหตุการณ์หลายอย่าง เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ที่สำคัญควรแก่การชื่นชม เป็นพิเศษ ก็คือการที่นักกีฬาของเรา ได้เหรียญทอง และเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ตกถึงปลายปี ก็มีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจ คือเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ภาคใต้ เป็นผลให้ชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนต้องสูญเสียไปมิใช่น้อย แต่ภัยพิบัติครั้งนี้ ก็ทำให้ได้เห็นน้ำใจ และความสามัคคีของคนไทย อย่างเด่นชัดอีกครั้งหนึ่ง เราต่างพร้อมใจ และเต็มใจช่วยเหลือกันและกันทันที โดยเต็มกำลังและเสียสละ ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ถึงความสามัคคี และความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ที่ยังมีบริบูรณ์ อยู่ในจิตใจของคนไทย ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่ว่าประเทศของเรา จะประสบกับปัญหา หรือภาวะอันไม่ปรกติใด ๆ คนไทยเราจะหันหน้าเข้าหากัน และร่วมมือร่วมใจกัน ปฏิบัติแก้ไข ให้ผ่านพ้นปัญหา หรือภาวการณ์นั้น ๆ ไปได้อย่างแน่นอน ในปีใหม่นี้ ขอให้ท่านทั้งหลาย จงรักษาความสามัคคี และจิตใจอันดีนี้ไว้ให้มั่นคง แล้วพยายามเร่งรัดปฏิบัติสรรพกิจการงาน ให้ประสานสอดคล้อง และเกื้อกูลกัน ด้วยความสุจริตบริสุทธิ์ใจ และด้วยความไม่ประมาท โดยยึดเอาประเทศชาติ และประโยชน์ของส่วนรวม เป็นจุดหมายสูงสุด
* เป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายปีแล้ว ที่บ้านเมืองของเรามีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด ทั้งในวิถีทางดำเนินของบ้านเมือง และของประชาชนทั่วไป เป็นเหตุให้เราต้องประคับประคองตัวมากขึ้น เพื่อให้อยู่รอด และก้าวต่อไปโดยสวัสดี ข้าพเจ้าปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกคนเข้าใจ และเล็งเห็นสถานการณ์ของบ้านเมืองตามเป็นจริง เวลานี้บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุง และการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือ การที่ทำความคิดให้ถูก และแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง ต้องหันหน้าปรึกษากัน ด้วยความรู้คิด ด้วยความเป็นญาติ เป็นมิตร และเป็นไทยด้วยกัน ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไป ให้ทันการณ์ทันเวลา ผลงานของแต่ละคนแต่ละฝ่าย จักได้ประกอบส่งเสริมกันขึ้น เป็นความสำเร็จ และความเจริญวัฒนาของประเทศชาติ
 
=== 2001 ===
 
* การปฏิบัติราชการนั้น นอกจากมุ่งกระทำเพื่อให้งานสำเร็จไปโดยเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว ยังจะต้องกระทำด้วยสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดว่าสิ่งใดเป็นความเจริญ สิ่งใดเป็นความเสื่อม อะไรเป็นสิ่งที่ต้องทำ อะไรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นหรือกำจัด. ผลที่เกิดขึ้นจึงจะเป็นประโยชน์ที่แท้และยั่งยืนทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม
* ในรอบปีที่ผ่านไป มีเหตุการณ์หลายอย่าง เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา ที่สำคัญควรแก่การชื่นชม เป็นพิเศษ ก็คือการที่นักกีฬาของเรา ได้เหรียญทอง และเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ตกถึงปลายปี ก็มีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจ คือเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ภาคใต้ เป็นผลให้ชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนต้องสูญเสียไปมิใช่น้อย แต่ภัยพิบัติครั้งนี้ ก็ทำให้ได้เห็นน้ำใจ และความสามัคคีของคนไทย อย่างเด่นชัดอีกครั้งหนึ่ง เราต่างพร้อมใจ และเต็มใจช่วยเหลือกันและกันทันที โดยเต็มกำลังและเสียสละ ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ถึงความสามัคคี และความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน ที่ยังมีบริบูรณ์ อยู่ในจิตใจของคนไทย ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่ว่าประเทศของเรา จะประสบกับปัญหา หรือภาวะอันไม่ปรกติใด ๆ คนไทยเราจะหันหน้าเข้าหากัน และร่วมมือร่วมใจกัน ปฏิบัติแก้ไข ให้ผ่านพ้นปัญหา หรือภาวการณ์นั้น ๆ ไปได้อย่างแน่นอน
 
=== 2002 ===
 
* ผู้ที่ทำงานให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม ย่อมเป็นคุณแก่ตนด้วย. ผู้ที่ทำงานโดยเห็นแก่ตัวเบียดเบียนประโยชน์ส่วมรวม ย่อมบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและที่สุดก็จะเอาตัวไม่รอด. ข้าราชการทุกคนจึงต้องทำงานทุกอย่าง ด้วยสติสำนึกถึงหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ
*ในขวบปีที่แล้ว มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา แต่มีเรื่องหนึ่งที่ควรกล่าวถึงเป็นพิเศษก็คือ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ที่คนไทยทุกคน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมมือร่วมใจกันโดยพร้อมพรัก ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น แม้เป็นชาวต่างชาติต่างภาษา ก็พากันชื่นชมยกย่อง ข้าพเจ้าเองก็มีความปิติ เต็มตื้นใจที่ได้เห็นน้ำใจของทุกคนเช่นนี้ เพราะเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงคุณธรรมข้อหนึ่ง ที่ยังอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทย ก็คือ การให้ การให้นี้ ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก่ผู้ใด โดยสถานใด ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญ ระหว่างบุคคลกับบุคคล และทำให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม นอกจากนั้น การให้ ยังเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอีกด้วย กล่าวคือ ผู้ให้ก็มีความสุขมีความอิ่มเอิบใจ ผู้รับก็มีความสุข มีกำลังใจ สังคมส่วนรวมตอลดถึงประทศชาติ ก็มีความผาสุกมีความร่มเย็น
*จุดประสงค์ของการเขียนหนังสือก็อย่างเรื่องพระมหาชนก ก็เขียนภาษาอังกฤษภาษาไทย ให้พร้อมกัน คนก็แปลกใจทำไมเขียนอย่างนี้ แต่เขียนอย่างนี้สำหรับเป็นการเรียนภาษา คนที่รู้ภาษาอังกฤษดีก็มาเรียนภาษาไทย คนที่ไม่ค่อยรู้ภาษาไทยก็เรียนภาษาอังกฤษ รู้สึกว่าได้ผลดี คนก็ชอบใจ บางทีภาษาไทยก็เขียนคำที่ไม่มีในภาษาไทย คนที่รู้ภาษาอังกฤษก็ไปดูที่ภาษาอังกฤษ เอ้ ภาษาอังกฤษก็ไม่มีในนั้น ก็สนใจว่าทำไมเขียนอย่างนั้น แต่ปรากฏว่าคำภาษาไทยถ้าไปแยกธาตุ หมายความว่าไปดูรากศัพท์ที่เราเขียนจะเข้าใจว่าเป็นอะไร ไปดูภาษาอังกฤษ ดูรากศัพท์ของภาษาอังกฤษนั้นก็จะเข้าใจ เป็นอันว่าจะได้คำทั้งภาษาอังกฤษทั้งภาษาไทยและแปลเลย คำเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในตำรา แต่ว่าเท่ากับว่าเป็นตำราใหม่และเข้าใจรากศัพท์ ภาษาไทยรากศัพท์ส่วนใหญ่ก็มาจาก ถ้าเป็นคำใหม่ ๆ มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต ภาษาอังกฤษมาจากภาษาอังกฤษโบราณ หรือมาจากภาษาลาติน ภาษากรีก ก็จะปรากฏว่าเราได้เรียนภาษาในหนังสือที่เขียน ได้เรียนภาษาบาลี-สันสกฤต ภาษาลาติน ภาษากรีก ภาษาอังกฤษโบราณ ก็ได้ผล
*เป็นผู้หญิง เมืองไทยเนี่ยผู้หญิงยังด้อยกว่าผู้ชาย ก็เลยจะให้ชื่อทองม้วน คงไม่ได้ ก็เลยให้ชื่อทองม้วน ตัวที่ 2 เป็นผู้ชาย แปลว่า ขนม ชื่อว่า ทองเอก ก็ต้องให้ผู้ชายคนที่หนึ่งชื่อทองเอก ก็เลย ทองม้วน เป็นตัวที่ 3 ยังไงทองม้วน ตัวที่ 3 หล่อมาก แล้วเรียบร้อย เป็นสุนัขที่เรียบร้อย ก็เลยเลือกให้ไปเปิดงาน ไม่ทราบว่าเขาจะปฏิบัติตนยังไง ให้ไปดู แล้วก็ขอให้ทางงาน เขาเลี้ยงดูให้ดี ๆ ที่จริงทองม้วนนี้ เปรียบเทียบกับลูกของทองแดงอื่น ๆ เขาก็ดี สวย ขนยาวกว่าทองแดง มีรูปร่างต่าง ๆ สีต่าง ๆ ทองม้วนสีค่อนข้างจะสวย สีอ่อนกว่าทองแดง แล้วก็มีลูก 9 แต่แตกต่างกันทั้ง 9 มีความสามารถแตกต่างกัน ที่มีความสามารถที่สุดคือ เบอร์ 5 ชื่อ ทองพลุ ทองพลุตัวเล็กว่าทองแดง แต่สีดำ เขาสีดำ แล้วเบอร์ 9 ก็สีดำเหมือนกัน มีสีขาวเพิ่มนั่นชื่อ ทองนพคุณ คือ นพ 9 ตัวที่ 9 ทองนพคุณ ก็เลยมีแปลก ๆ
*คนไทยที่รักหมาไทยก็ชอบหมาแท้ คือ ต้องการหมาหลังอาน หมาบางแก้ว หมาบางแก้วดุมากก็เลยไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดี เพราะว่าถ้าเราปล่อยแม้แต่ลูกเจ้าของก็กัด ยังมีคนเขาเอามาให้ ก็เลยบอกไม่ได้ ไปมอบให้องครักษ์ เขารักสุนัข และเขายอมรับก็เอาไปเลี้ยง ก็ไปเลี้ยง ทำไปทำมากัดลูกเขา มันไม่เชื่อง แล้วก็เคราะห์ดีไม่ได้รับเอาไว้ ถ้ารับเอาไว้ เดี๋ยวนายกฯ มา ถูก…แน่ ถูกแน่ นายกฯ มา โห ๆ ๆ กัดแน่ มันอย่างนี้ แต่ที่นี่รับรอง เขาไม่กัด ลูกทองแดงไม่กัด แต่กัดกันเองนะมี เป็นอย่างนี้ แต่ว่าถ้าเรามาผสมให้ดี ลงท้ายเราจะได้สุนัขที่น่ารัก เลี้ยงเชื่องและใช้งานได้ มีสุนัขเลี้ยงดมกลิ่น มีตัวหนึ่งครูฝึกเขาให้กระโดด กระโดด ๆ แล้วก็ครูฝึกมีป้ายที่ติดแบบนี้ บัตรวิ่งไปวิ่งมา หลุดไม่รู้ตัว บอกโอ๊ะนี่หายไปไหน เขาบอกไปหา มันไปหา คาบมาให้ ไม่ได้สอนเท่าไหร่ แต่เขาก็คาบเอามาได้ ก็หมายความว่า ดี บอกพูดรู้เรื่อง แล้วของหายบ่อย ๆ ให้ไปหาของนั้นไปหามาได้ ก็เป็นประโยชน์ไม่เสียข้าวสุก แล้วก็ที่สนับสนุนว่า สุนัขถ้าเราทำในที่สุดก็เป็นพันธุ์ไทยแท้ ในที่สุดอาจมีพันธุ์ไทยทองแดงแท้ ๆ แต่สีต่าง ๆ นะ อาจไม่แดง ตัวสองตัว ลูกของทองแดง ตัวดำ 2 ตัว ตัวหนึ่งสีแดง แดงทีเดียว แล้วก็ตัวสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแก่ ออกมาแนวนี้ ที่เล่ายืดยาว เพราะว่าจะให้เข้าใจว่า ทำไมเขียนเรื่องทองแดง สอนหลายอย่าง มากกว่าที่นึกว่าจิตใจที่ของสุนัขที่เป็นกตัญญู มีประโยชน์สำหรับประเทศ
*ในขวบปีที่ล่วงมานี้ มีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ บางเรื่องก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อน เสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน บางเรื่องก็ก่อให้เกิดความวิตก ร้อนใจ บางเรื่อง ก็กระทบกระเทือนความเป็นอยู่ อาชีพ และเศรษฐกิจ ทั้งของเอกชน และบ้านเมืองโดยส่วนรวมอย่างมาก ความจริงแล้ว ถ้าเราพิจารณาดูสถานการณ์รอบตัวให้ทั่ว จะเห็นได้ว่าประเทศของเรา ต้องประสบกับวิกฤติการณ์ด้านต่าง ๆ ติดต่อกันมา เป็นเวลาหลายปี แต่ด้วยความรู้เท่าทัน และความร่วมมือ ร่วมใจ ของคนไทยทุกคน ที่ช่วยกันประคับประคอง แก้ไข บ้านเมืองของเรา จึงยังมั่นคงเป็นปกติอยู่ ใครจะไปไหน มาไหน ก็ยังทำได้สะดวก การทำมาหากิน ก็ยังไม่ถึงกับฝืดเคืองนัก ทำให้มั่นใจได้ว่า หากจะมีอุปสรรคปัญหา หรือเหตุไม่ปกติใด ๆ เกิดขึ้น คนไทยเรา จะร่วมกันคิดอ่าน และช่วยกันปฏิบัติ แก้ไข ให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลาย ลุล่วงไปได้อย่างแน่นอน
 
=== 2003 ===
 
* ข้าราชการ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ระดับไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนแต่มีส่วนสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคน ทุกฝ่าย จึงไม่ควรจะถือตัวแบ่งแยก หากต้องยกย่องนับถือ ให้เกียรติกัน สมัครสมาน ร่วมมือร่วมความคิดกัน ให้การปฏิบัติ บริหารงานของแผ่นดิน ดำเนินไปอย่างมีเอกภาพ และได้ผลที่พึงประสงค์สมบูรณ์ พร้อมทุกส่วน
 
* ถามในห้องทำงานว่า แผนที่ใหญ่อยู่ในฝา เราก็ให้เขาดูว่า เราไปทำอะไรที่ไหน เขาจึงถามว่า ที่ท่านทำนี้สำหรับต่อสู้ก่อการร้ายใช่ไหม เราบอกว่าก่อการร้ายอะไร มีก่อการร้ายทุกแห่ง ทั้งในเมืองก็มี แต่ว่าที่เราไป ไปดู เราไม่ใช่จะไปปราบก่อการร้าย พูดจริง ๆ อย่างที่นายกฯ บอก เรามาสำหรับปราบความจน ความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าเราปราบความจน ความเดือดร้อนของประชาชน เหตุก่อการร้ายอะไรต่าง ๆ ก็บรรเทา ไม่มี ถึงว่าจะต้องพยายามปราบความจน ในการปราบความจนนั้น ก็มี เรียกว่าต้องพัฒนาอาชีพ ความเป็นอยู่ของประชาชน คือ อาชีพไม่ใช่เพียงแต่ปลูกผัก ถั่ว ปลูกงาให้หลานเฝ้า แต่ว่าเป็นเรื่องของให้ความอยู่ดี กินดี ความรู้ การศึกษา กล่าวว่า ต้องช่วยให้การศึกษาดีขึ้น เพราะว่าถ้าการศึกษาไม่ดี คนไม่สามารถที่จะทำงาน การศึกษาต้องได้ทุกระดับ ถ้าพูดถึงระดับสูง หมายความว่า นักวิทยาศาสตร์ขั้นสูง ถ้าไม่มีการเรียนขั้นประถม ขั้นอนุบาล ไม่มีทางที่จะให้คนไทยขึ้นไปเรียนในขั้นสูง หรือเรียนขั้นสูง เรียนไม่ดี ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ดี เพราะว่าขั้นสูงนั้น ต้องมีรากฐานจากขั้นต่ำ ถ้าขั้นต่ำไม่ดี เรียนขั้นสูงต่าง ๆ ไม่รู้เรื่อง เมื่อไม่รู้เรื่อง ก็จะทำอะไรที่น่ากลัว เพราะว่าอย่างคนที่ทำระเบิดได้ ทำระเบิดได้ ซึ่งไม่ยากเลยทำระเบิดนี่ แต่ก่อนนี้นับว่ายาก แต่แท้จริงไม่ยาก ที่เขาระเบิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เกิดเรื่องตะวันออกกลาง เขาไม่ได้ใช้ระเบิดปรมาณูอย่างที่กลัวกัน ใช้ปุ๋ย เอาปุ๋ยมาใส่แล้วก็จุดระเบิดถุงปุ๋ย ระเบิดทั้งตึก อย่างเมืองไทยก็มีเหมือนกัน เอาระเบิดตึกให้เอาระเบิดปุ๋ยมา แต่เดชะบุญ ที่ระเบิดปุ๋ยมีผีอยู่ ผีนั่นนะ ทำให้เจอได้ว่า มีระเบิดปุ๋ย ครั้งนั้น ก็หลายปีอยู่แล้ว ถ้าไม่มีผีที่อยู่ในระเบิดนั้น ผีจริง ๆ นะ ผีจริง คนเขาฆ่าแล้วเอาใส่เข้าไปในถังปุ๋ย ในถังปุ๋ยนั่น ผีมันทำยังไงไม่ทราบ มันโวยวายมา แล้วก็คนเข้าไปเจอ ทำให้เรื่องราวมันมีอยู่ว่า รถที่บรรทุกปุ๋ยนั้น บรรทุกระเบิดปุ๋ยมา ชนกับรถจักรยานยนต์ เขาก็หยุด เพราะว่าเขาก็กลัวเหมือนกัน ถ้าแล่นต่อไปเขาก็ถูกจับ คนขับก็ถูกจับ จะยังไงก็ถูกจับอยู่ดี จักรยานที่ถูกจับนั้นไม่ใช่ผี ผีมันอยู่ในระเบิด ก็เข้าไปเจอ ไปเจอผีในระเบิด
* แต่ท่านนายกฯ ก็เห็นว่าควรที่จะให้เด็ก ๆ สอนครูได้ ถูกต้อง แต่ว่าให้เด็กสอนครู จนกระทั่งครูไม่ได้สอนเด็ก อันนี้เป็นไปไม่ได้ ถ้าเด็กสอนครู เออมันไม่ก้าวหน้า ครูต้องสอนเด็ก ครูดี ๆ ยังมี อย่างน้อยในนี้ก็มีครูที่ดีคนหนึ่ง คือท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ไปสอนเด็ก ๆ แบบให้เด็กสอนครู แต่สังเกตดู นายกฯ สอนเด็กให้เด็กสอนครู แต่ว่าท่านนายกฯ ไม่ยอมให้เด็กสอนนายกฯ ก็อันนี้แหละที่ท่านนายกฯ ไปสอนเด็ก ก็เป็นหมัน เพราะว่าท่านนายกฯ ไม่ยอมให้เด็กสอนครู อันนี้ก็ขอโทษนะ สังเกตดู และเห็นว่า ท่านนายกฯ สอน สอนแบบสอน สอนแบบโบราณ อย่างนี้ท่านนายกฯ ไม่ค่อยชอบ โบราณไม่ชอบ ชอบสมัยใหม่ ต้องไอที ไม่ต้องน้อยใจ ข้าพเจ้าเองก็เจอ
* หลักวิชาของชลประทานอันนี้ เป็นเรื่องของชลประทาน ที่เขื่อนเพชรรับน้ำจากแม่น้ำเพชร แล้วก็ยกระดับน้ำขึ้น อันนี้เป็นวิชาการชลประทาน ยกระดับน้ำขึ้น สำหรับดันให้เข้าไปในคลองส่งน้ำ น้ำนั้นเขาก็เอาใช้ออกไปในนา ในสวนที่ต้องการน้ำ ในยามปกติก็เป็นอย่างนั้น คลองมีเขื่อนยกระดับน้ำ แล้วดันเข้าไปในคลอง คลองซึ่งส่งไปที่ทำการเพาะปลูก แต่ตอนนี้น้ำมันมาก คลองนั้นจะต้องเป็นคลองระบายน้ำ ซึ่งที่เพชรบุรีไม่มีคลองระบายน้ำ มีแต่คลองส่งน้ำ ท่านอาจไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างคลองส่งน้ำ กับคลองระบายน้ำ ส่งน้ำก็เอาน้ำส่งไปในที่ที่ต้องการ ระบายน้ำแปลว่าเอาน้ำนั่นออกจากที่ที่ไม่ต้องการ
* แม้จะกองทัพก็ต้องพอเพียง แต่กองทัพทำอะไรพอเพียงเยอะแยะ ทำโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยแล้ว ก็ที่สมควรที่จะทำแล้ว ก็ทำได้ ถ้าเรือทหารเรือ เรือ ต 91 นั้น เศรษฐกิจพอเพียง แต่เดี๋ยวนี้ ต 91 พัง ก็พังแล้ว แต่ว่าก็ได้รับราชการมานานพอสมควร อื่น ๆ ก็ควรจะคิดถึงพอเพียง มาคงต้องพูดเพราะว่า นายกฯ มาพูด พูดเมื่อวานนี้ ที่สนามหลวงแล้วถือธง ถือธงชนะ ชนะ ไชโย นี่แหละ ทราบดีว่า นายกฯ ไม่ค่อยชอบให้เตือน เพราะว่าเตือนนี่ ใครเตือนเรา มันเคือง มันเคือง แต่จะเล่าให้ฟังเตือนนี่ สมเด็จพระบรมราชชนนี แม่เราอายุ 40 – 50 แล้ว ท่านมา ท่านชม อุ้ยเก่ง ทำไอ้นี่แม่ชอบ แต่ท่านต่อ ต้องต่อ อย่าลืมตัว ท่านว่าอย่างนั้น
* ในขวบปีที่แล้ว มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา แต่มีเรื่องหนึ่งที่ควรกล่าวถึงเป็นพิเศษก็คือ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ที่คนไทยทุกคน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างร่วมมือร่วมใจกันโดยพร้อมพรัก ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น แม้เป็นชาวต่างชาติต่างภาษา ก็พากันชื่นชมยกย่อง ข้าพเจ้าเองก็มีความปิติ เต็มตื้นใจที่ได้เห็นน้ำใจของทุกคนเช่นนี้ เพราะเป็นสิ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงคุณธรรมข้อหนึ่ง ที่ยังอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทย ก็คือ การให้ การให้นี้ ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก่ผู้ใด โดยสถานใด ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญ ระหว่างบุคคลกับบุคคล และทำให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม นอกจากนั้น การให้ ยังเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอีกด้วย กล่าวคือ ผู้ให้ก็มีความสุขมีความอิ่มเอิบใจ ผู้รับก็มีความสุข มีกำลังใจ สังคมส่วนรวมตอลดถึงประทศชาติ ก็มีความผาสุกมีความร่มเย็น
 
=== 2004 ===
 
* ผู้ปฏิบัติราชการ จำเป็นต้องรู้วิทยาการ รู้งาน และรู้ดีรู้ชั่วอย่างกระจ่างชัด จึงจะสามารถปฏิบัติบริหารงานในความรับผิดชอบให้ถูกตรงตามเป้าหมาย และสัมฤทธิ์ผลที่เป็นประโยชน์ เป็นความเจริญที่แท้จริงและยั่งยืน ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม
*แต่ว่าวันนั้นที่ซีอีโอมา ท่านรองนายกฯ มา ท่านมาบอกว่า ถามว่าพระเจ้าอยู่หัวเป็นอะไร ท่านก็บอกว่าเป็นซีอีโอ โอ้เราก็ต้องเข้าใจสิ เราเป็นซีอีโอ ก็เลยเข้าใจว่า เราเป็นนายใหญ่อีกคนหนึ่ง ก็ต้องคัดค้าน คัดค้านว่าไม่ใช่ เราไม่ใช่เป็นนายใหญ่ รัฐธรรมนูญยังบอกว่า พระมหากษัตริย์ไม่เป็นนายใหญ่ เป็นมหา ใหญ่โต กษัตริย์ นักรบใหญ่โต แต่ก็ไม่ได้เป็น เป็นจอมทัพ เป็นมหากษัตริย์ เป็นซีอีโอ ซีอีโอของกองทัพ เราก็เข้าใจไปเลยเถิดไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ ซึ่งก็ขอโทษด้วย ต้องล้อท่านรองนายกฯ ว่า ท่านก็เป็นซีอีโอใหญ่ ใหญ่ที่สุด ก็เลยท่านรับผิดชอบหมด ลงท้ายฟังไปฟังมา ตอนนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดซีอีโอมา บอกว่า การทำงานทำการเป็นยังไง ซีอีโอนี่ เขาบอกสบายมาก ถ้ามีอะไรก็ให้ปลัดจังหวัด ปลัดจังหวัดเป็นผู้สั่งการ
 
* ที่ฟังมานายกฯ พูดกับประชาชน ก็ฟังท่านว่า ท่านพูดหลายอย่างที่ท่านพูด แล้วพูดถึงว่าเด็ก ๆ ต้องฟัง เด็ก ๆ ต้องเรียน ถ้าเรียนประเทศชาติจะดี เดี๋ยวนี้เขาว่าเด็ก ๆ ไม่เรียน เด็ก ๆ แม้แต่ถึงขั้นมหาวิทยาลัย ใช้คำว่าไม่ได้ความ เมื่อไม่ได้ความ อนาคตของชาติอยู่ไหน คือเด็กไม่ฟัง หรือฟัง ฟังแต่ฟังไม่เข้าใจ ฟังไม่เข้าใจ แทนที่จะปฏิบัติสร้างสรรค์ต่อไป ก็ไปเข้าดิสโก้เธค ไปฟังเพลง ไปฟังเพลงที่ ความจริงก็ไม่ใช่เพลงอะไรดี ที่เป็นเพลงที่ไม่ได้เรื่อง ทำให้หูเสีย หูเสียไม่ใช่ว่าคนที่ฟังหูสูงหูต่ำ แต่หูไม่ได้ยิน หูตึง คนที่ไปฟังเพลงในดิสโก้เธคหูตึงทั้งนั้น ถ้าใครเป็นหมอที่นี่ หมอหู ไปตรวจก็ขอยืนยันว่าเด็กสมัยนี้ ถ้าไปตรวจหู หูเสียมากกว่าเด็กสมัยก่อน แม้จะเด็กสมัยท่านนายกฯ ก็หูตึงกว่าเด็กสมัยพระเจ้าอยู่หัวฯ
* ในขวบปีที่แล้ว บ้านเมืองเรามีสิ่งที่ดี ที่ควรแก่การชื่นชมเกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ การที่นานาประเทศเขาเชื่อถือ ไว้วางใจให้ประเทศของเรา จัดการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ ๑๑ ขึ้นนั้น ข้อนี้ต้องนับเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ ทุกคนต่างก็ทราบ ตระหนักเป็นอย่างดี จึงยินดีร่วมมือร่วมงานกัน ด้วยความเต็มใจเสียสละ ทำให้งานครั้งนั้น ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย และงดงาม สิ่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือ เป็นเวลาหลายปีติดต่อกันมา ที่เราต้องประสบกับเหตุไม่ปกติต่าง ๆ หลายเรื่อง จนทำให้หลายๆ คน เกิดความวิตกห่วงใยในอนาคตของตนเอง และของบ้านเมืองเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุที่ส่วนใหญ่มีสติรู้เท่าทัน มีความรู้ความสามารถ จึงต่างขวนขวายช่วยตัวเอง และร่วมมือ ร่วมความคิดกัน ปฏิบัติแก้ไขอย่างจริงจัง จนบัดนี้อาจจะกล่าวได้ว่า สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ผ่อนคลายลง และมีความหวังว่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังจะต้องพยายามปฏิบัติตน ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังต่อไปอีกมาก ในปีใหม่นี้ ทุกคนจึงชอบที่จะตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ว่าจะคิดจะทำสิ่งใด ก็ขอให้คิดให้ดี ให้รอบคอบ ทำให้ดี ให้ถูกต้อง ผลของการคิดดี ทำดี ทำถูกต้องนั้น จะได้ส่งเสริมให้แต่ละคน ตลอดจนประเทศชาติ ดำเนินก้าวหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงสวัสดี
 
=== 2005 ===
 
* เป็นของธรรมดาที่ทุกคนชอบให้เขาชม เขาไม่ชอบให้ติ ข้าพเจ้าเองก็ได้ติคนอยู่เรื่อย ๆ เขาก็ไม่พอใจ แม้ไม่ติคน บางทีเขาประกาศในหนังสือพิมพ์ พระเจ้าอยู่หัวฯ ติคนนู้นคนนี้ แท้จริงไม่เคยติใครเท่าไร บอกว่าเท่าไร เพราะถ้าจะติ แต่ไม่ได้พูดออกมาโจ่งแจ้งว่าติ คนเราถ้าอยู่ในที่แจ้ง ในที่คนเห็นมาก ๆ ย่อมถูกติได้ง่าย ๆ เพราะคนเห็นมาก ถ้าเห็นมากแล้วเราทำอะไรก็ไม่มีดี ถ้ามีดีก็มีไม่ดีมาก แต่ถ้าสมมติว่า ถ้าดีมากก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ดีบ้าง คนเขาติ ถ้าเรารู้สึกไม่ดี มีการแสดงตนว่ารู้ว่าไม่ดีนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึก ถ้าเกิดความรู้สึก บางทีก็รู้สึกชื่นชม บางทีก็เคือง ถ้าผู้ที่ถูกเล็ง บางทีรู้สึกว่าถูกติเตียน และแสดงตัวว่า เข้าใจว่าถูกแล้วเขาติเตียนเรา เราไม่พอใจก็เสียหาย ทำให้ส่วนรวมทั้งหมดปั่นป่วน พูดแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้าพูดมากกว่า จะทำให้เกิดเรื่องยุ่ง แต่ว่าวันนี้ตั้งใจจะพูดอะไร ที่ไม่พาดพิงใครเลย ไม่ติเตียนใครเลย เพราะการติเตียนใคร พาดพิงใครก็เกิดความไม่สบายใจ แต่ที่เห็นอยู่ข้างหน้ามีคนที่พูด ก็คงรู้ว่าใครพูด มีคนพูดว่าข้าพเจ้าไม่ดี พระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ดี ทำอะไรผิด แต่เขาต้องแสดงออกมาว่า พระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ผิด ผิดไม่ได้ เป็นตามความจริงในระบอบประชาธิปไตย ในระบอบรัฐธรรมนูญ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระเจ้าอยู่หัวฯ ผิดไม่ได้ เขาพูดอย่างนั้น The King can do no wrong เหมือนท่านองคมนตรีชอบพูดว่า กษัตริย์ผิด แต่เวลาบอกเดอะคิง บอกว่า The King can do no wrong ก็เป็นสิ่งที่ wrong แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ผิดแล้ว ไม่ควรพูดอย่างนั้น ความจริงเวลาอ่านตำรากฎหมายรัฐธรรมนูญอังกฤษ มีตำราที่คนอ้างเสมอ และคนที่เรียนภาษาอังกฤษ เรียนกฎหมายอังกฤษต้องอ้างเสมอ เรื่อง The King can do no wrong และนักกฎหมายแถวนี้พยักหน้าว่าใช่ ความจริง The King can do no wrong คือ การดูถูกเดอะคิงอย่างมาก เพราะว่าเดอะคิงทำไม can do no wrong ไม่ได้ do wrong แสดงให้เห็นว่าเดอะคิงไม่ใช่คน แต่เดอะคิงทำ wrong ได้ สำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเป็นเดอะคิง และเขาบอกว่า do no wrong เราก็เห็นด้วยกับเขา เพราะการทำอะไร ถ้าคนเราถือว่าต้องมีสติ คือ หมายความว่า รู้ว่าทำอะไร คิดอะไร และไม่ปล่อยให้ผิดออกมา ก็ไม่ผิด ผิดไม่ได้ อันนี้ก็เป็นการพูดว่าข้าพเจ้าเองไม่ผิด ไม่มีวันผิด ถ้าสมมติพูดผิดเพราะไม่รู้ แต่ผิดโดยรู้ว่าผิด การทำผิดโดยรู้ไม่ดี แต่บางทีไม่รู้เพราะว่าไม่มี ขอโทษนะ พูดไม่มีสติ ขาดสติ คือ ไม่ระวังตัว ทีหลังก็เสียใจ เมื่อก่อน ก่อนจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นคิง ก็เสียใจหลายครั้ง แต่ตอนเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเป็นคิง คิงแบบไทย ๆ ฝรั่งบอกเป็นเดอะคิง เข้าใจว่าน้อยครั้งที่ทำผิด เพราะระวัง ถ้าไม่ระวัง ป่านนี้ตายแล้ว ลำบาก ต้องระวัง ไม่ระวังก็ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เรียกว่าการเมือง หรือการอยู่ในสายตาของคน สายตาคนฆ่าได้ถ้าเราไม่ระวัง เราตาย ก็เลยถึงบอกได้ว่าทำไมการที่บอกว่า The King can do no wrong เพราะต้อง can do no wrong ทุกคนก็มีฐานะอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าเดอะคิงเก่ง แต่ทุกคนก็มีส่วนเก่ง เพราะมีตำแหน่งรับ รับตำแหน่งสูง ได้รับเหรียญตรา และคนชี้คน ๆ นี้สูงมาก มียศศักดิ์ เดอะคิงเป็นยศศักดิ์สูง แต่คนที่อยู่ในที่นี้ ยศศักดิ์ทั้งนั้น ไม่ระวังตัวก็ตายเหมือนกัน ถ้าไม่ระวัง ไม่ใช่คนที่นึกว่า คนนั้นเขาต้องตายแน่ เพราะไม่ระวัง ทุกคนตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวสุดท้าย จนหลังแถว จนถึงข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็มีอันตราย
* ใกล้ถึงสิ้นปีก็เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ทำให้สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างร้ายแรง เราคงจะต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูสถานะของบ้านเมืองเป็นการใหญ่ รวมทั้งหาทางป้องกัน เตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เหตุต่าง ๆ ทั้งนั้น ได้ทำให้เห็นแจ้งถึงน้ำใจของพวกเราอย่างเด่นชัด ว่าทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน มีความสามัคคีกัน ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง ได้แสดงเจตนารมย์ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข และเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนไทยไม่ทิ้งกัน ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันที ด้วยความเสียสละและเมตตาจริงใจ ไม่เลือกว่าเป็นชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำแก่ท่านทั้งหลาย เหมือนดังที่เคยกล่าวมาเมื่อหลายปีก่อนว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ในปีใหม่นี้
 
=== 2006 ===
 
* ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จะต้องมุ่งปฏิบัติภาระทั้งปวง ด้วยความอุตสาหะเพ่งพินิจ ใช้ความรู้ความคิด ความเฉลียวฉลาด และความรู้ผิดชอบชั่วดี เป็นเครื่องวิจัยวิจารณ์ ปรับปรุงตัวปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพเสมอ
*ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พร้อมพรั่งด้วยบุคคลจากทุกสถาบันในชาติ ตลอดจนประชาชนชาวไทย ขอขอบใจในคำอำนวยพรและการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ ที่ทุกคนตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้าเป็นพิเศษ ทั้งรัฐบาลได้จัดงานครั้งนี้ได้เรียบร้อยและงดงามน้ำใจไมตรีของประชาชนชาวไทยที่ร่วมกันแสดงออกทั่วประเทศ รวมทั้งที่พร้อมเพรียงกันมาในวันนี้ น่าปลาบปลื้มใจมาก เพราะแต่ละคนได้แสดงออกและตั้งใจมาด้วยความหวังดีจากใจจริง จึงขอขอบใจทุก ๆ คน จิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกคน ทุกฝ่าย ทำให้ข้าพเจ้าเห็นแล้วมีกำลังใจมากขึ้น นึกถึงคุณธรรมซึ่งเป็นที่ตั้งของความรัก ความสามัคคี ที่ทำให้คนไทยเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันรักษาและพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง ประการแรก คือ การที่ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงาน ประสานประโยชน์กัน ให้งานที่ทำสำเร็จผล ทั้งแก่ตน แก่ผู้อื่น และ แก่ประเทศชาติ ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผน โดยเท่าเทียมเสมอกัน ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำความคิด ความเห็นของตนให้ถูกต้อง เที่ยงตรง และมั่นคงอยู่ในเหตุในผล หากความคิด จิตใจ และการประพฤติปฏิบัติที่ลงรอยเดียวกันในทางที่ดี ที่เจริญนี้ ยังมีพร้อมมูลในกาย ในใจของคนไทย ก็มั่นใจได้ว่า ประเทศชาติไทยจะดำรงมั่นคงอยู่ตลอดไปได้จึงขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้
*ที่ได้ปฏิญาณนั้นมีความสำคัญมาก เพราะว่ากว้างขวาง หน้าที่ของผู้พิพากษา หน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง มีหน้าที่กว้างขวางมาก ซึ่งเกรงว่า ท่านอาจจะนึกว่า หน้าที่ของผู้ที่เป็นศาลปกครอง มีขอบข่ายที่ไม่กว้างขวาง ที่จริงกว้างขวางมาก ในเวลานี้อาจจะไม่ควรพูด แต่อย่างเมื่อเช้านี้เอง ได้ยินเขาพูดเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะเรื่องเลือกตั้งของ ผู้ที่ได้คะแนน ได้แต้มไม่ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาเลือกตั้งอยู่คนเดียว ซึ่งมีความสำคัญ เพราะว่าถ้าไม่ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาคนเดียว ในที่สุดการเลือกตั้งไม่ครบสมบูรณ์ ไม่ทราบว่า เกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า แต่ความจริงน่าจะเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะว่าถ้าไม่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งพอ ก็กลายเป็นว่า การปกครองแบบประชาธิปไตย ดำเนินการไม่ได้ แล้วถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณเมื่อตะกี้นี้ ก็เป็นหมัน ถึงบอกว่าจะต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตย ต้องดำเนินการไปได้ ท่านก็เลยทำงานไม่ได้ และถ้าท่านทำงานไม่ได้ ก็มีทางหนึ่ง ท่านอาจจะต้องลาออก เพราะไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหาที่มีอยู่ ต้องหาทางแก้ไขได้ เขาอาจจะบอกว่า ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็บอก ไม่ใช่เรื่องของตัว ศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างเสร็จแล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง เลยขอร้องว่า ท่านอย่าไปทอดทิ้งความปกครองแบบประชาธิปไตย การปกครองแบบที่ จะทำให้บ้านเมืองดำเนินการผ่านออกไปได้ แล้วก็อีกข้อหนึ่ง การที่จะ ที่บอกว่า มีการยุบสภา และต้อง ต้องเลือกตั้งภายใน ๓๐ วัน ถูกต้องหรือไม่ ไม่พูดเลย ไม่พูดกันเลย ถ้าไม่ถูก ก็จะต้องแก้ไข แต่ก็อาจจะให้การเลือกตั้งนี้ เป็นโมฆะหรือเป็นอะไร ซึ่งท่านจะมี จะมีสิทธิ ที่จะบอกว่า อะไรที่ควร ที่ไม่ควร ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่ว่าเท่าที่ฟังดู มันเป็นไปไม่ได้ คือการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เลือกตั้งพรรคเดียว คนเดียว ไม่ใช่ทั่วไป ทั่วแต่ในแห่งหนึ่งมีคนที่สมัครเลือกตั้งคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย เมื่อไม่เป็นประชาธิปไตย ท่านก็พูดกันเองว่า ท่านต้องดูเกี่ยวข้องกับเรื่องของการปกครองให้ดี ตรงนี้ขอฝาก อย่างดีที่สุดถ้าเกิดท่านจะทำได้ ท่านลาออก ท่านเอง ไม่ใช่รัฐบาลลาออก ท่านเองต้องลาออก ถ้าทำไม่ได้ รับหน้าที่ไม่ได้ ตะกี้ที่ปฏิญาณไป ดูดี ๆ จะเป็นการไม่ได้ทำตามที่ปฏิญาณ ฉะนั้น ก็ตั้งแต่ฟังวิทยุเมื่อเช้านี้ กรณีเกิดที่นบพิตำ กรณีที่จังหวัด อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช อันนั้นไม่ใช่แห่งเดียว ที่อื่นมีอีกหลายแห่ง ที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม บ้านเมืองไม่สามารถที่จะ ที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์ ที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านไปศึกษาว่า เกี่ยวข้องอย่างไร ท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ถ้าท่านไม่เกี่ยวข้อง ท่านก็ลาออกดีกว่า ท่านผู้ที่เป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ที่ต้องทำให้บ้านเมืองดำเนินได้ หรือมิฉะนั้น ก็ต้องไปปรึกษากับท่านผู้พิพากษาที่จะเข้ามาต่อมา ท่านผู้พิพากษาศาลฎีกา ท่านผู้นี้ก็คงเกี่ยวข้องเหมือนกัน ก็ปรึกษากันสี่คน ก็ท่านปรึกษากับผู้พิพากษาศาลฎีกาที่จะเข้ามาใหม่ ปรึกษากับท่าน ก็เป็นจำนวนหลายคน ที่มีความรู้ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่มีความและมีหน้าที่ ที่จะทำให้บ้านเมืองมีขื่อมีแป ฉะนั้นก็ขอฝาก คุณอักขราทร ก็ต้องไปพูดกับสมาชิกอื่น ๆ ด้วย ก็จะขอบใจมาก เดี๋ยวนี้ยุ่ง เพราะถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ทางจะปกครองแบบประชาธิปไตย มีของ เรามีศาลหลายชนิดมากมาย แล้วมีสภาหลายแบบ และก็ทุกแบบนี่จะต้องเข้ากัน ปรองดองกัน และคิดทางที่จะแก้ไขได้ นี่พูดเรื่องนี้ ค่อนข้างจะประหลาดหน่อย ที่ขอร้องอย่างนี้ แล้วก็ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าต้องทำมาตรา ๗ มาตรา ๗ ของ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งขอยืนยัน ยืนยันว่ามาตรา ๗ นั้นไม่ได้หมายถึง ให้มอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจ ที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา ๗ นั้น พูดถึงการปกครอง แบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่า ให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจ ทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำเขาจะต้องว่าพระมหากษัตริย์ ทำเกินหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเกิน ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขาอ้างถึงเมื่อครั้งก่อนนี้ เมื่อรัฐบาลของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ตอนนั้นไม่ได้ทำเกินอำนาจพระมหากษัตริย์ ตอนนั้นมีสภา สภามีอยู่ ประธานสภา รองประธานสภามี่อยู่ แล้วก็รองประธานสภาทำหน้าที่ แล้วมีนายกฯ ที่สนองพระบรมราชโองการได้ ตามรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น ไม่ ไม่ได้หมายความว่า ที่ทำครั้งนั้นผิดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ ตอนนั้นเขาไม่ใช่นายกฯ พระราชทาน นายกฯ พระราชทานหมายความว่า ตั้งนายกฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย ตอนนั้นมีกฏเกณฑ์ เมื่อครั้งอาจารย์สัญญาได้รับตั้งเป็นนายกฯ เป็นนายกฯ ที่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือรองประธานสภานิติบัญญัติ นายทวี แรงขำ
*พูดถึงความสงบร่มเย็น อาจแยกได้เป็นสองส่วน คือ ความสงบภายนอก กับความสงบภายใน ภายนอก ได้แก่ ความเป็นอยู่ และสภาวะแวดล้อมที่เป็นปรกติ ไม่มีภัยอันตราย หรือความยุ่งยากเดือดร้อน เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือการขัดแย้งมุ่งร้ายทำลายกันภายใน ได้แก่ จิตใจที่สะอาดแจ่มใส ไม่มีกังวล ไม่มีความขุ่นเคืองขัดข้อง จิตใจที่สะอาด และสงบนี้สำคัญมาก เพราะทำให้บุคคลมีสติรู้ตัว มีวิจารณญาณเที่ยงตรงถูกต้อง สามารถคิดอ่านสร้างสรรค์ สิ่งที่จะอำนวยประโยชน์สุข ความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนชื่อเสียงเกียรติคุณ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการ ให้สัมฤทธิผลได้
 
=== 2007 ===
 
* งานของแผ่นดินนั้น เป็นงานส่วนรวม มีผลเกี่ยวเนื่องถึงความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของบ้านเมืองและสุขทุกข์ของประชาชนทุกคน ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน จึงต้องสำนึกตระหนักในความรับผิดชอบที่มีอยู่ และตั้งใจพยายามปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความเข้มแข็งสุจริต และด้วยปัญญารู้คิดพิจารณา ว่าสิ่งใดเป็นความเจริญ สิ่งใดเป็นความเสื่อม อะไรเป็นสิ่งที่ต้องทำ อะไรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นและกำจัด อย่างชัดเจน ถูกตรง
*ถ้าทุกคนในชาติตั้งตนตั้งใจให้อยู่ในความสามัคคีดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม ประเทศชาติของเราก็จะสามารถรักษาความปรกติมั่นคง พร้อมพัตนาให้รุดหน้าไปได้ดังปรารถนา
*สถานการณ์ของบ้านเมืองเราจากปีก่อน และต่อเนื่องมาถึงปีที่แล้ว เป็นอย่างไรก็เป็นที่ทราบกันอยู่แก่ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราได้มีรัฐธรรมนูญ และได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นับว่าประเทศชาติของเรา ได้ผ่านหัวเลี้ยวสำคัญอีกขั้นหนึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่จะต้องช่วยกันประคับประคอง กิจการของบ้านเมือง ให้ดำเนินไปด้วยดี ให้มีความเป็นปึกแผ่น และร่มเย็นเป็นปกติสุข ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดให้ถูกตรง และแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย แต่ละคน แต่ละฝ่าย จะต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว พยายามโอนอ่อนผ่อนปรนเข้าหากัน ด้วยไมตรีจิตและความเมตตากรุณา อย่าก่อปัญหา และก่อเงื่อนไข อันเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบ และความแตกแยก
*ไทยเรารักษาเอกราชและผืนแผ่นดินให้มั่นคงเป็นปึกแผ่นมาได้ ก็เพราะเราทุกคนมีความสำนึกตระหนักในความเป็นไทยและหน้าที่ที่จะธำรงรักษาชาติประเทศไว้ให้เป็นอิสระ มั่นคง ตามประวัติการณ์ที่สถานการณ์บ้านเมืองเราในทุกวันนี้ เป็นที่ทราบแก่ใจของเราทุกคนที่สุดแล้วว่า ไม่น่าไว้วางใจ พูดได้ว่าหากคนไทยขาดความสำนึกในชาติ ขาดความสามัคคี ก็อาจจะประสบเคราะห์กรรมทั้งชาติ จึงขอให้ทหารทุกคนและชาวไทยทุกคน ทุกหมู่ ทุกเหล่า ได้พิจารณาตัดสินว่า ประเทศชาติของเรานั้นสำคัญควรที่จะรักษาไว้ให้ยั่งยืนต่อไปหรือไม่ ถ้าเห็นว่าสำคัญมั่นใจก็ให้สังวร ระวังกายใจ ให้ตั้งมั่นอยู่ในสัตย์สุจริตพยายามลดอคติลง และเสริมสร้างความเมตตา สามัคคีกันและกัน ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดให้ยึดเอาความมั่นคงปลอดภัยของชาติเป็นที่หมายสูงสุด
*ขอให้ไปศึกษาต่อในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ คือว่าไม่ได้หมายความว่าให้ทำกำไรเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดีมันก็ดี แต่ว่าขอให้มันพอเพียง ถ้าท่านเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไปมันไม่ใช่พอเพียง
*ในปีที่แล้ว บ้านเมืองของเรามีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง บางเรื่องที่กระทบกระเทือนถึงฐานะทางเศรษฐกิจ การคลัง การเมือง ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่และความมั่นคง ปลอดภัย สมควรที่เราชาวไทย จะร่วมมือกันแก้ไข ให้คลี่คลายไปโดยเร็ว แต่เรื่องที่ควรแก่การชื่นชม ก็มีอยู่มิใช่น้อย ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่จัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ให้อย่างงดงามยิ่งใหญ่ และในคราวที่เจ็บป่วย ก็พากันแสดงความคิดห่วงใยอย่างจริงใจ ข้าพเจ้ายังรู้สึกประทับใจอยู่ ที่ได้เห็นท่านทั้งหลาย ไม่ว่าเพศใด วัยใด อยู่ในฐานะหน้าที่ใด พร้อมเพรียงกันมาให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้า กำลังใจนี้เป็นพลังอย่างสำคัญ ที่ทำให้คนเรากล้าเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค สามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานให้ประสบผลสำเร็จที่ดีได้
 
=== 2008 ===
 
* ข้าพเจ้ายินดีที่ได้ฟังรัฐมนตรี ที่จะเข้ารับหน้าที่ต่อไปนี้ได้ปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดี เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งท่านมีหน้าที่ที่สำคัญที่สุด เพราะว่าจะต้องทำให้ประเทศชาติมีความสุข ความเรียบร้อย ถ้าท่านทำงานเรียบร้อย ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย ก็เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นบุญสำหรับประเทศ เพราะว่าประเทศต้องมีคนที่ดูแลความเป็นอยู่อย่างดี มิฉะนั้น ไม่สามารถที่จะปฏิบัติงานของประชาชนทั่วไปได้ดีนัก แต่ถ้าท่านได้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสุข ความเรียบร้อย ก็ทำให้ประเทศชาติเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะให้ประเทศชาติดำเนินไปโดยดี เพราะว่าถ้าไม่สามารถที่จะมีความเป็นไทยอยู่ได้ ก็ขอให้ท่านพยายามที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะให้คนไทยมีความเรียบร้อย มีความสุขเพราะว่าถ้าทำไม่ดีจะเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูง หรือ คนทั่วๆ ไป ทำไม่ดี คนหนึ่งคนใด ก็ทำให้ประเทศชาติล่มจมได้ และก็ท่านก็มีหน้าที่สำคัญเพราะท่านอยู่สูง มีหน้าที่สูง ก็จะต้องทำให้ประเทศชาติดำเนินไปโดยดี ก็ขอให้ท่านสามารถปฏิบัติงาน เพื่อความดีของประเทศ ความสงบสุขของประเทศ ซึ่งเป็นความจำเป็นที่สุด ถ้าท่านทำได้ท่านเองก็มีความสุข และประชาชนทั่วไปทุกพวก ทั้งหมู่ ทั้งเหล่า ทุกเหล่าได้มีความสุขทั้งนั้น คนไหนจะทำอะไรก็สามารถจะปฏิบัติงานได้ ถ้าท่านช่วยกันดูแลประเทศชาติให้มีความราบรื่น ท่านเองก็มีความสุขเหมือนกัน ฉะนั้นที่ท่านตั้งใจที่จะปฏิบัติงานโดยดีนั้น เป็นความดีที่ท่านจะทำสำหรับตัวเองด้วย สำหรับส่วนรวมด้วย เพราะว่า ถ้าส่วนรวมอยู่ดีท่านก็อยู่ดี ขอให้ท่านสามารถที่จะปฏิบัติงานโดยเรียบร้อย ทำให้ทั้งประเทศมีความราบรื่น ซึ่งเราต้องการความสงบของประเทศ ก็ขอให้ท่านสามารถที่จะปฏิบัติงาน โดยเรียบร้อยทุกอย่าง และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการแต่ละส่วนที่ท่านต้องทำ
*งานราชการนั้น คืองานของแผ่นดิน ข้าราชการจึงต้องสำเหนียก ตระหนักอยู่ตลอดเวลา ถึงฐานะและหน้าที่ของตน แล้วตั้งใจปฏิบัติงานทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ ด้วยความสุจริตเที่ยงตรง และด้วยความมีสติยั้งคิด รู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด สิ่งใดควรกระทำ สิ่งใดควรงดเว้น เพื่อให้งานที่ทำ ปราศจากโทษเสียหาย และบังเกิดผลประโยชน์ที่แท้ คือความเจริญมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน
*สถานการณ์ของบ้านเมืองเราจากปีก่อน และต่อเนื่องมาถึงปีที่แล้ว เป็นอย่างไรก็เป็นที่ทราบกันอยู่แก่ใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราได้มีรัฐธรรมนูญ และได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นับว่าประเทศชาติของเรา ได้ผ่านหัวเลี้ยวสำคัญอีกขั้นหนึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่จะต้องช่วยกันประคับประคอง กิจการของบ้านเมือง ให้ดำเนินไปด้วยดี ให้มีความเป็นปึกแผ่น และร่มเย็นเป็นปกติสุข ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดให้ถูกตรง และแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย แต่ละคน แต่ละฝ่าย จะต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว พยายามโอนอ่อนผ่อนปรนเข้าหากัน ด้วยไมตรีจิตและความเมตตากรุณา อย่าก่อปัญหา และก่อเงื่อนไข อันเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบ และความแตกแยก ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใด ก็เร่งกระทำให้สำเร็จ ลุล่วงไป ให้ทันการณ์ ทันเวลา ผลงานของทุกคน ทุกฝ่าย จะได้ประกอบส่งเสริมกัน ให้ประเทศชาติ อันเป็นที่อยู่ ที่อาศัยของเรา ดำรงมั่นคงอยู่ ด้วยความผาสุข ร่มเย็น ตลอดไป
 
=== 2009 ===
 
* ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกัน มาให้พรวันเกิด ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจ ซึ่งปรารถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้า มีความสุข ความสวัสดีโดยประการต่าง ๆ ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรา มีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ยิ่งกว่าส่วนอื่น จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญ อยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือชาติบ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ที่ทำกินของเรา มีความเจริญมั่นคงยั่งยืนไป ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่าน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล ให้สัมฤทธิ์ แก่ท่านทั่วหน้ากัน
*การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน. ข้าราชการทุกฝ่ายทุกระดับ จึงต้องทำความเข้าใจในความสำคัญข้อนี้ให้ถ่องแท้ แล้วเพียรพยายามปฏิบัติงานของตนด้วยความตั้งใจ จริงใจ และด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง เพื่อให้งานที่ทำบังเกิดผลประโยชน์เป็นความเจริญมั่นคงแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
 
=== 2010 ===
 
* บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่น มั่นคง และร่มเย็น เป็นปกติสุข สืบมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างร่วมแรง ร่วมใจกัน บำเพ็ญกรณียกิจต่าง ๆ ทำหน้าที่ โดยถือประโยชน์ส่วนรวมของชาติ เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรจะได้ทำความเข้าใจ ในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด มีความไม่ประมาท และมีความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาท ขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาด เสียหายในหน้าที่ และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด ขาดเหตุผล ความรู้จักถูกผิดนั้น เป็นเหตุให้เกิดความหลง ความลืมตัว ทำให้กระทำสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสีย เสื่อมสลาย มาสู่ตนเอง ตลอดทั้งประเทศชาติได้
*ความปรารถนาของทุกคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือ ต้องการให้ตนเองมีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบ ร่มเย็น ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์ อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ และจริงใจ ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตน แก่ประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผล ได้ดังที่ตั้งใจปรารถนา
*การทำความดีนั้น แม้จะไม่มีใครรู้เห็น แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ผลดีที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มพูนและแผ่ขยายกว้างออกไป เป็นประโยชน์เป็นความเจริญมั่นคงที่แท้แก่ตน แก่ส่วนรวม ตลอดถึงชาติบ้านเมืองพร้อมทุกส่วน ข้าราชการทุกคนจึงต้องตั้งใจให้หนักแน่นเที่ยงตรง ที่จะกระทำความดีทั้งในการประพฤติตนและการปฏิบัติงานด้วยความอุตสาหะเสียสละ โดยไม่หวั่นไหวย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา หรือความลำบากเหนื่อยยาก
 
=== 2011 ===
 
* ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน อาจจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศชาติ
*งานราชการนั้น เป็นงานส่วนรวม มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน ผู้ปฏิบัติบริหารงานราชการ จึงต้องคำนึงถึงความสำเร็จของงานเป็นสำคัญ อย่านึกถึงบำเหน็จรางวัลหรือประโยชน์เฉพาะตนให้มากนัก มิฉะนั้นงานในหน้าที่จะบกพร่อง เกิดเป็นผลเสียหายแก่ตน แก่งานส่วนรวมของชาติได้ ขอให้ถือว่า การทำงานในหน้าที่ได้สำเร็จสมบูรณ์ เป็นทั้งรางวัลและประโยชน์อันประเสริฐสุด เพราะจะทำให้ประเทศชาติและประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขและมั่นคง
*ขอแสดงความยินดีกับคณะรัฐมนตรีที่ได้ตั้งขึ้นมาใหม่ และที่มากล่าวคำปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ความเจริญมั่นคงของประเทศ ประเทศชาตินี้จะต้องมีผู้ที่ปกครอง ผู้ที่ทำหน้าที่สูงสุด เพื่อให้ทุกส่วนของทั้งงานของประเทศดำเนินไปโดยดี ขอให้ท่านได้ทำตามที่ได้กล่าว เพื่อที่จะให้งานของประเทศดำเนินไปด้วยดี และทั้งขอให้ท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้กล่าว สำหรับงานของประเทศก็สำคัญที่ผู้ใหญ่จะแสดงตัวอย่างให้กับทุกคนในประเทศ เพื่อที่จะให้งานต่าง ๆ ดำเนินไปโดยดี ก็ขอให้ท่านทำงานตามที่ได้กล่าวปฏิญาณ และสามารถปฏิบัติตามความตั้งใจ ถ้าทำได้แล้ว ท่านก็มีความพอใจที่ได้ปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ และความสำเร็จของท่านในทุกวันที่ท่านทำ จะเป็นผลสำเร็จที่ดีสำหรับประเทศและทุกคนในประเทศ ที่ต่างคนต่างยังอยากที่จะให้มีความสำเร็จในทุกสาขา ก็ขอให้ท่านได้สามารถปฏิบัติ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยความมีผลสำเร็จ ท่านเอง ในส่วนตัวของท่านก็จะมีความพอใจถ้าทำได้ตามที่ท่านตั้งใจไว้ ขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ และทำให้บ้านเมืองมีความสำเร็จตามที่ต้องการ ซึ่งประเทศไทยนั้นน่าจะมีได้ ในปัจจุบันนี้ในโลกนี้มีความวุ่นวายอย่างยิ่ง เมืองไทยยังมีความวุ่นวายน้อย ให้รักษาความสงบสุข รักษาความสำเร็จที่ได้ทำมาแต่ปางก่อน ก็ถือว่าท่านจะมีความสำเร็จได้แล้วจะมีความพอใจ ก็ขอทุกท่านทำงานด้วยความตั้งใจอย่างดีที่สุด เพื่อผลสำเร็จของบ้านเมืองในทุกสาขาและทุกด้าน มีความพอใจในงานการ และมีความสำเร็จในงานการ ทำให้ประเทศชาติเป็นที่อยู่ที่สบายในโลก ซึ่งในโลกนี้มีความวุ่นวายพอแล้ว ขอให้ในประเทศไทยมีความเรียบร้อย
 
=== 2012 ===
 
* คำอวยพรและคำปฏิญาณสัญญา ที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นทีประทับใจมาก ขอขอบพระทัยและขอบใจท่านทั้งหลาย ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน ที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต ความปรารถนาดีและความพร้อมเพียงกันของทุกท่าน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยมีความเชื่อเสมอมาว่า ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ ที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน
 
=== 2013 ===
 
* ขอขอบพระทัย ขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญา ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพรและไมตรีจิตนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือ ความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย
*บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคงและร่มเย็นเป็นสุขสงบมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาติ คนไทยทุกคน จึงควรจะได้ตระหนักในข้อนี้ให้มาก แล้วตั้งใจประพฤติตัว ปฏิบัติงาน ให้สมแก่ฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม ในความมั่นคงปลอดภัยของชาติ บ้านเมืองไทย
*งานของแผ่นดินนั้น เป็นงานส่วนรวม มีผลที่กว้างขวาง เกี่ยวข้องกับบ้านเมือบและบุคคลทุกคนทุกฝ่าย เมื่อเป็นงานส่วนรวมและมีผลเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก ปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ อันเนื่องมาจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ย่อมเกิดมีขึ้นบ้างเป็นปกติธรรมดา ข้าราชการผู้ปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดิน ตลอดจนทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องมีใจที่หนักแน่นและเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง แม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีสติ ใช้ปัญญาและเหตุผลเป็นเครื่องปฏิบัติวินิจฉัย โดยถือว่าความคิดเห็นและคำวิพากษ์วิจารณ์นั้น คือ การระดมสติปัญญาและประสบการณ์อันหลากหลายจากทุกคนทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติบริหารงานและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้งานทุกส่วนทุกด้านของแผ่นดินสำเร็จผลเป็นความเจริญมั่นคงแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง.
 
=== 2014 ===
 
* ข้าราชการไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ระดับไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนมีส่วนสำคัญอยู่ในงานของแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคนจึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความสามารถ ด้วยอุดมคติ ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ และระมัดระวังให้การทุกอย่างในหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องเที่ยงตรง ด้วยความระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่า การปฏิบัติตัว ปฏิบัติงานของตนมีผลเกี่ยวเนื่องถึงสุข ทุกข์ ประชาชน ตลอดจนความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงของประเทศชาติ
*ความปรารถนาของทุกคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือต้องการให้ตนเอง มีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมือง มีความสงบร่มเย็น ในปีใหม่นี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลาย รักษาสุขภาพกายสุขภาพจิต ให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้สามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ได้เต็มกำลัง ข้อสำคัญ จะคิดจะทำสิ่งใด ให้นึกถึงส่วนรวมและความเป็นไทยไว้เสมอ งานของตน และงานของชาติ จักได้ดำเนินก้าวหน้าไปโดยถูกต้อง เที่ยงตรง ไม่ติดขัด และบรรลุถึงประโยชน์ เป็นความสุข ความเจริญ และความสงบร่มเย็น ดังที่ทุกคนตั้งใจปรารถนา
 
=== 2015 ===
 
* งานราชการนั้น คืองานของแผ่นดิน มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนทุกคน งานทุกอย่างจึงต้องมีผู้ปฏิบัติและมีผู้รับช่วง เพื่อให้ดำเนินต่อเนื่องไปไม่ขาดสาย ดังนั้น ผู้ปฏิบัติบริหารงานราชการทุกฝ่ายทุกระดับจึงไม่ควรยกเอาเรื่องใครเป็นผู้ทำมาก่อน หรือใครเป็นผู้รับช่วงงานขึ้นเป็นข้อสำคัญนัก จะต้องถือประโยชน์ที่จะเกิดจากงานเป็นหลักใหญ่ แล้วร่วมกันคิดร่วมกันทำ ด้วยความอุตสาหะเสียสละและด้วยความสุจริตจริงใจ งานทุกอย่างจึงจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด และสำเร็จผลเป็นประโยชน์ได้แท้จริงและยั่งยืนตลอดไป
 
=== 2016 ===
 
* หม่อมฉันและพระราชินีเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์ก่อการร้ายที่กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หม่อมฉันและพระราชินีขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังฝ่าพระบาทและประชาชนชาวเบลเยียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของผู้ประสบความสูญเสียจากเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนี้
* ข้าพเจ้าและพระราชินีนเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า นายเอส.อาร์.นาธาน อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ ถึงแก่อสัญกรรม ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังท่านและครอบครัวของท่านอดีตประธานาธิบดี รวมทั้งประชาชนชาวสิงคโปร์ ในการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศในครั้งนี้
 
=== ไม่ทราบปี ===
 
* เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน  แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้  ให้มีพอเพียงกับตัวเอง
* การที่จะมีต้นน้ำลำธารไปชั่วกาลนานนั้น สำคัญอยู่ที่การรักษาป่า และการปลูกป่าบริเวณต้นน้ำลำธาร
* การกระทำที่สร้างสรรค์ คือการกระทำที่ได้ผล เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
* ป่าชายเลนมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย แต่ปัจจุบันป่าชายเลนของประเทศไทยเรากำลังถูกบุกรุกและถูกทำลายลงไป โดยผู้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน จึงควรหาทางป้องกัน อนุรักษ์ และขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นโกงกางเป็นไม้ชายเลนที่แปลกและขยายพันธุ์ค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยระบบน้ำขึ้นน้ำลงในการเติบโตด้วย จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ กรมป่าไม้ กรมประมง กรมชลประทาน และกรมอุทกศาสตร์ ร่วมกันหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการทดลองขยายพันธุ์โกงกางและปลูกสร้างป่าชายเลนกันต่อไป
* ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกประเทศในโลกจึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อมให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมี ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อนมนุษย์
 
== คำคมเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ==
 
* เป็นรางวัลที่ได้รับบทบาทจากผู้ที่เป็นพ่อนะฮะ ก็ขออนุญาตพูดถึงพ่อนิดหนึ่งก็แล้วกันครับ พ่อเป็นเสาหลักของบ้านนะครับ บ้านของผมหลังใหญ่นะครับ ใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคน ผมเกิดมานี่บ้านหลังนี้ก็สวยงามมากแล้ว สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ บรรพบุรุษของพ่อ เสียเหงื่อ เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลก กว่าจะได้บ้านหลังนี้ขึ้นมานะครับ จนมาถึงวันนี้ พ่อคนนี้ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน และก็ดูแลความสุขของทุก ๆ คนในบ้าน ถ้ามีใครสักคนโกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ แล้วก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกกับคน ๆ นั้นว่า ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ... เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และผมเชื่อว่า ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน
** พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทยเปรียบเสมือนพี่ชายผู้แสนดี
** สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ
* พี่จะไม่ถามว่ารักในหลวงไหม รู้อย่างเดียวว่าคนอีสาน ในหลวงเสด็จฯบ่อยมาก และช่วยคุณเยอะมาก คนอีสานคะ โปรดฟัง ในหลวงรักพวกคุณ แปลกนะที่บางทีพวกคุณลืมในหลวงเนอะ แปลกอะ พี่ไม่ได้ว่านะ พี่เข้าใจ เพราะคุณมันเกิดช้าไง
** อรพิมพ์ รักษาผล
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแห่งประเทศไทยเปรียบเสมือนพี่ชายผู้แสนดี
** สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ทรงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวของปวงชนชาวไทย นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ปรับข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวดัตช์ในไทย เพื่อให้เข้ากับสภาวะของการไว้ทุกข์ โดยแนะนำให้นักท่องเที่ยวเคารพกฎระเบียบและสังคมไทย
** เบิร์ต โคเอนเดอร์
 
* ความรู้สึกจริง ๆ คือผิดหวัง มันมีความรู้สึกที่แยกแยะในรายละเอียดได้หลาย ๆ ความรู้สึกนะครับ แต่ถ้าจับมารวม ๆ กันมันก็คงใช้คำว่าผิดหวังน่าจะครอบคลุมทุกอย่าง เพราะว่ามันหลายแง่มุม ในแง่มุมที่คิดอย่างนั้นคือ ถ้าคนที่เป็นคนในสังคม คนที่จะไม่เห็นด้วยแล้วก็โจมตีกันอย่างรุนแรงเนี่ย มันมักจะเป็นซีกของผู้มีส่วนได้เสียทางการเมือง ถึงจะทำได้ขนาดนี้ แต่ในฐานะน้องที่อยู่ในวงการบันเทิง จะแสดงความรู้สึกที่ไม่เห็นด้วย แล้วก็จากความรู้สึกตรงข้ามอย่างรุนแรง โดยล่วงล้ำไปถึงขนาดใช้ค่าว่า สิ่งที่ดาราในความหมายของเขาพูดนั้นทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนอนไม่หลับ คือคนเรามันคิดต่างกันได้ แต่ความคิดต่างกัน เมื่อเราไม่เห็นด้วย ก็ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แค่นั้นก็น่าจะเข้าใจนะครับ
** ศรัณยู วงศ์กระจ่าง
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และได้รับการเคารพเทิดทูนอย่างที่สุด เนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณในการพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับพสกนิกรตลอดการครองราชย์ 70 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการยึดมั่นในพระราชปณิธานที่ว่าจะ "ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม" อย่างแท้จริง ในเวทีพหุภาคี นานาประเทศล้วนยอมรับพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้องค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และการกำหนดให้วันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันดินโลก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระราชกรณียกิจในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของดินต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
** ปีเตอร์ ธอมป์สัน
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงสถิตย์อยู่ในความทรงจำของชาวคาซัคสถานตลอดไป ในฐานะผู้นำผู้ทรงมีวิสัยทัศน์และมีพระราชจริยวัตรอันโดดเด่น ที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้แน่นแฟ้น
** นูร์ซุลตัน นาซาร์บายิฟ
 
* พี่จะไม่ถามว่ารักในหลวงไหม รู้อย่างเดียวว่าคนอีสาน ในหลวงเสด็จฯบ่อยมาก และช่วยคุณเยอะมาก คนอีสานคะ โปรดฟัง ในหลวงรักพวกคุณ แปลกนะที่บางทีพวกคุณลืมในหลวงเนอะ แปลกอะ พี่ไม่ได้ว่านะ พี่เข้าใจ เพราะคุณมันเกิดช้าไง
** อรพิมพ์ รักษาผล
 
* เมื่อก่อนดาราอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงแสดงความคิดเห็น แต่ผมว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่จริงควรมีตรรกะความคิดสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด ถ้าการมาของผมครั้งนี้ทำให้มีผลกระทบกับหน้าที่การงาน ถ้ามันจะเกิดขึ้นก็ไม่กลัว ผมรู้ว่าตั้งแต่ต้นวงการนี้ไม่แน่นอน ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้งานเพราะเรามาทำเพื่อในหลวงผมไม่แคร์ ผมมีศักดิ์ศรีพอ
** อะตอม สัมพันธภาพ
 
== การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ==
 
* ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท นับเป็นความโศกเศร้าเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองสิริราชสมบัติได้มีพระราชกรณียกิจนานัปการ อาทิ โครงการพัฒนาชนบทซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกฟื้นชีวิตของชาวไทยนับล้านคนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จะทรงสถิตอยู่ในหัวใจของประชาชนทุกคนและชาวยุโรปสืบไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้และขอแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยต่อประชาชนชาวไทยทุกท่านมา ณ ที่นี้
** คณะมนตรียุโรป
*นนามรัฐบาลญี่ปุ่นและประชาชน ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมจะจดจำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในฐานะที่เป็นผู้มีพระปรีชาสามารถสูงส่งและทรงมีพระราชจริยวัตรงดงาม” และกล่าวยกย่องว่า "พระองค์เป็นผู้ที่มีความปรีชาสามารถในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมจิตใจปวงชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดชทรงช่วยนำการพัฒนาและการยกระดับความเป็นอยู่ของชีวิตประชาชนไทยให้ดีขึ้น
**ชินโซ อะเบะ
* ในนามตัวแทนประชาชนของจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงราชวงศ์ และประชาชนไทย ที่สูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่
** ไช่ อิงเหวิน
*พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่สูงส่ง การอุทิศพระองค์เพื่อประเทศไทยและภูมิภาคนั้นมากเกินกว่าคำบรรยายใด
**นาจิบ ราซะก์
*รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์จะทรงเป็นระลึกถึงของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้
**ไบรอัน เดวิดสัน
*ความเสียใจเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทเจ้าอยู่ในพระโกศของรัฐบาลและประชาชนชาวมาเก๊า ขอแสดงความเสียใจ ตลอดไป
**เพอร์ นันโค
*พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก อีกทั้งยังทรงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทยทุกคน เพราะพระองค์ทรงอุทิศตนเพื่อประชาชนของพระองค์ และเพื่อประเทศชาติ เพราะพระองค์ต้องการให้ประชาชนในประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดี พระองค์ทรงใช้ความสามารถที่มีและพระราชอำนาจเพื่อปกครองประเทศให้เป็นปึกแผ่น
**ลี เซียนลุง
* หม่อมฉันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ความสัมพันธ์ระหว่างสองราชวงศ์ของเราใกล้ชิดมาโดยตลอด เจ้าชายเฮนริค (พระสวามี) และหม่อมฉันขอแสดงความเสียใจมายังพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนคนไทย
** สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
*หม่อมฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในนามของหม่อมฉันและประชาชนชาวนอร์เวย์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนประชาชนคนไทยด้วย
**สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์
*ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนชาวไทยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงครองราชย์มาอย่างยาวนาน
** สำนักพระราชวังเบลเยียม
* ข้าพเจ้ามีความโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง หลังได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" "ขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทยต่อการสูญเสียในครั้งนี้
** เอนรีเก เปญา เนียโต
*ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในปัจจุบัน การอุทิศพระองค์เพื่อความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้ยากไร้ในชนบทจะถูกจดจำตลอดไป
**อับดุลลาห์ ยามีน
*หม่อมฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในนามของหม่อมฉันและประชาชนชาวนอร์เวย์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนประชาชนคนไทยด้วย
**สมเด็จพระราชินีแม็กซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์
*หม่อมฉันและพระราชินีได้ทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจถึงฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ ตลอดจนขอร่วมถวายความอาลัยร่วมกับประชาชนชาวไทย
**สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์
 
* สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินี ของมาเลเซีย แสดงความเสียพระราชหฤทัย หลังทรงทราบข่าวการสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
** สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านตวนกู อับดุล ฮาลิม มูอัซซัม ชาห์
 
* ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นการสูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายแก่ประเทศชาติ ในสถานการณ์ที่เจ็บปวดและเศร้าโศกนี้ ข้าพเจ้าขอร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งขอแสดงความเสียใจไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถด้วย รวมทั้งพระราชวงศ์ไทยทั้งมวล
** พระมหาวีรกษัตรีย์นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา
 
* รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการสิ้นสุดรัชสมัยที่ยาวนาน ข้าพเจ้าขอส่งความระลึกไปถึงพระราชวงศ์ และพสกนิกรชาวไทย
** สมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม
 
* ข้าพเจ้ารู้สึกโทมนัสอย่างสุดซึ้งเมื่อทราบถึงการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชฯ และข้าพเจ้าขอร่วม ในความอาลัยด้วยใจจริงมายังสมาชิกทุกองค์แห่งพระบรมศานุวงศ์และประชาชนทุกคนแห่งราชอาณาจักรในช่วงเวลาแห่งความ เศร้าโศกครั้งนี้ เพื่อการเทิดทูนแด่พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่รงเปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ พระพละกำลัง และความเที่ยงธรรมอัน เป็นมรดกอันทรงค่าอนันต์แก่ปวงชน ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาเพื่อพี่น้องชาวไทยทุกคนขอให้พวกเราทำงานร่วมกันในการส่ง เสริมเส้นทางไปสู่สันติภาพ ข้าพเจ้าวิงวอนขอพระพรนานัปการจากองค์พระเจ้ามายังพวกท่านทุกคนที่กำลังคร่ำครวญโศกเศร้า ถึงการจากไปของพระองค์ท่าน ขอให้พวกท่านได้รับความบรรเทาและการปลอบโยน
** สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
 
* หม่อมฉันและและพระราชินีทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ หม่อมฉันและพระราชินีขอแสดงความเสียใจไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ
** สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน
 
* หม่อมฉันและพระราชินีได้ทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจถึงฝ่าพระบาทและพระราชวงศ์ ตลอดจนขอร่วมถวายความอาลัยร่วมกับประชาชนชาวไทย
** สมเด็จพระราชินีซอนยาแห่งนอร์เวย์
 
* ในนามของข้าพเจ้า รัฐบาล และประชาชนแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ขอแสดงความเสียใจต่อพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาล และปวงชนชาวไทย ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" และกล่าวว่าพระองค์ "ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีความปราดเปรื่อง
** ฮัสซัน โรฮานี
 
* พวกเราต่างทราบว่านี่คือเหตุการณ์ที่สะเทือนใจและความโศกเศร้าอันใหญ่หลวงจากการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย
** เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ
 
* การเสียสละและความรักอย่างไร้ขีดจำกัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชต่อปวงประชาไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ตราตรึงในจิตใจของประชาชนชาวไทย แต่ยังได้รับการเคารพยกย่องไปทั่วโลก ตลอดช่วง 70 ปีในรัชสมัยของพระองค์ ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว พระบิดาของชาวไทยจะไม่เพียงแต่อยู่ในหัวใจของผู้ที่ใกล้ชิดกับพระองค์เท่านั้น แต่จะทรงอยู่ในใจของผู้คนที่พระองค์ทรงได้เปลี่ยนแปลง
** สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงห่วงใยพสกนิกรเป็นอย่างยิ่ง ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อความผาสุกของพสกนิกร ทรงเป็นที่เคารพรักและเทิดทูนของคนไทยทั้งชาติ การสูญเสียในครั้งนี้จึงนับเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายในการส่งเสริมมิตรภาพระหว่างไทยกับจีน และทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากิจการด้านความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างที่ยากจะหาใครเสมอเหมือนได้
** หลี่ เค่อเฉียง
 
* ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท นับเป็นความโศกเศร้าเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองสิริราชสมบัติได้มีพระราชกรณียกิจนานัปการ อาทิ โครงการพัฒนาชนบทซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกฟื้นชีวิตของชาวไทยนับล้านคนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จะทรงสถิตอยู่ในหัวใจของประชาชนทุกคนและชาวยุโรปสืบไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้และขอแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยต่อประชาชนชาวไทยทุกท่านมา ณ ที่นี้
** โดนัลด์ ทัสค์
 
* ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท นับเป็นความโศกเศร้าเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงครองสิริราชสมบัติได้มีพระราชกรณียกิจนานัปการ อาทิ โครงการพัฒนาชนบทซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกฟื้นชีวิตของชาวไทยนับล้านคนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จะทรงสถิตอยู่ในหัวใจของประชาชนทุกคนและชาวยุโรปสืบไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้และขอแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยต่อประชาชนชาวไทยทุกท่านมา ณ ที่นี้
** คณะมนตรียุโรป
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยพระองค์ทรงเสียสละเพื่อให้ประชาชนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนอาเซียนและปวงชนชาวไทย เวียดนามตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องจากทรงมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยในหลายปีที่ผ่านมาและหวังว่า ประเทศไทยจะฟันฝ่าความสูญเสียครั้งนี้ไปได้และพัฒนาก้าวรุดหน้าต่อไปตามความปรารถนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
** เหงียน ถิ กีม เงิน
* ในนามรัฐบาลญี่ปุ่นและประชาชน ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมจะจดจำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในฐานะที่เป็นผู้มีพระปรีชาสามารถสูงส่งและทรงมีพระราชจริยวัตรงดงาม” และกล่าวยกย่องว่า "พระองค์เป็นผู้ที่มีความปรีชาสามารถในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมจิตใจปวงชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดชทรงช่วยนำการพัฒนาและการยกระดับความเป็นอยู่ของชีวิตประชาชนไทยให้ดีขึ้น
** ชินโซ อะเบะ
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยพระองค์ทรงเสียสละเพื่อให้ประชาชนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนอาเซียนและปวงชนชาวไทย เวียดนามตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องจากทรงมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยในหลายปีที่ผ่านมาและหวังว่า ประเทศไทยจะฟันฝ่าความสูญเสียครั้งนี้ไปได้และพัฒนาก้าวรุดหน้าต่อไปตามความปรารถนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
** ฝ่าม บิ่งห์ มิงห์
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยพระองค์ทรงเสียสละเพื่อให้ประชาชนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนอาเซียนและปวงชนชาวไทย เวียดนามตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องจากทรงมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยในหลายปีที่ผ่านมาและหวังว่า ประเทศไทยจะฟันฝ่าความสูญเสียครั้งนี้ไปได้และพัฒนาก้าวรุดหน้าต่อไปตามความปรารถนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
** เหงียน ซวน ฟุก
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงถูกจดจำโดยคนรุ่นต่อไปในความพยายามของพระองค์ เพื่อสันติภาพและความมั่นคงของประชาคมโลก รวมทั้งพระราชกรณียกิจเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย
** สมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะฮ์
 
* ในนามของรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีและประชาชน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งและห่วงใยแด่พระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนชาวไทยในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดช ผู้ทรงมีความสัมพันธ์อย่างพิเศษกับประเทศของเราที่ทรงส่งกองทัพมาร่วมรบในสงครามเกาหลีในรัชสมัยของท่าน พระองค์ท่านทรงเป็นพระราชบิดาและทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพสกนิกรชาวไทย ตลอดช่วง 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงได้ร่วมประวัติศาสตร์ชาติไทยและทรงได้นำพาประเทศให้มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การปฏิรูปใน พ.ศ.2475 จนได้มีการกำเนิดประเทศไทยในยุคปัจจุบัน พระปรีชาสามารถในการเป็นผู้นำเพื่อรวบรวมความสามัคคีของประชาชนชาวไทยของพระองค์ ท่านจะเป็นที่จดจำตลอดไป ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทยและทรงได้อุทิศพระองค์ตลอดชีวิตเพื่อพสกนิกรผู้ยากไร้จนทรงได้รับการยกย่องอย่างสูงจากปวงชนชาวไทยเสด็จสู่สวรรคาลัย
** พัก กึน-ฮเย
 
* รัฐบาลออสเตรเลียและประชาชนชาวออสเตรเลียขอพระราชทานกราบบังคมทูลแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นที่เคารพรักและเทิดทูนของประชาชนชาวไทยและทรงเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เอเชียยุคใหม่ ในขณะที่ทรงครองราชย์นั้นประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงสุดในภูมิภาค และในสากลด้วยพระราชคุโณปการอันใหญ่หลวงในการพัฒนาประเทศของพระองค์ พระวิริยะอุตสาหะของพระองค์ต่อประชาชนชาวไทยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์เป็นที่ประจักษ์อย่างเด่นชัดผ่านพระราชกรณียกิจนานัปการ พระองค์ทรงยกระดับความเป็นอยู่และความสุขของประชาชนชาวไทยให้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ปวงชนต่างน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชไมตรีกับเครือรัฐออสเตรเลียและเครือรัฐออสเตรเลียยกย่องสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศทั้งสองซึ่งพระองค์ทรงให้การสนับสนุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ.2505 การเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการจัดตั้งสมาคมออสเตรเลีย-ไทย ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น ชุมชนไทยในออสเตรเลียต่างรู้สึกโศกเศร้าต่อการสูญเสียอันใหญ่หลวงนี้ ในช่วงเวลาอันเศร้าโศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าและรัฐบาลออสเตรเลีย รวมทั้งประชาชนชาวออสเตรเลีย ขอพระราชทานกราบบังคมทูลแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และพสกนิกรชาวไทย
** มัลคอล์ม เทิร์นบูล
 
* ข้าพเจ้ามีความโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง หลังได้ทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" "ขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทยต่อการสูญเสียในครั้งนี้
** เอนรีเก เปญา เนียโต
 
* ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์และขอแสดงความเสียใจยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปกครองราชอาณาจักรไทยด้วยพระเกียรติ
** เทเรซา เมย์
 
* ข้าพเจ้าขอร่วมแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทยทุกคน
** จัสติน ทรูโด
 
* รู้สึกตกใจอย่างที่สุดต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์เสด็จสู่สุคติ
** อับดุล ฮามิด
 
* ในนามตัวแทนประชาชนของจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงราชวงศ์ และประชาชนไทย ที่สูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่
** ไช่ อิงเหวิน
 
* ข้าพเจ้ารู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประเทศไทยและประชาคมโลก ได้สูญเสียผู้นำผู้ทรงไหวพริบและทุ่มเทอุทิศพระวรกาย ประเทศอินเดียได้สูญเสียเพื่อนอันเป็นที่รัก และจะสรรเสริญพระราชกรณียกิจของพระองค์ในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศตลอดไป
** ประณับ มุกเคอร์จี
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชสมบัตินานที่สุดในโลก และได้ทรงพัฒนาประเทศจนเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญของภูมิภาคนี้ และเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจสำคัญชาติหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พระองค์ครองราชย์ นิวซีแลนด์และไทยได้พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด ซึ่งต่างปรารถนาให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
** จอห์น คีย์
 
* ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เราทั้งหลายขอร่วมแสดงความอาลัยในวาระแห่งความสูญเสียอันยิ่งใหญ่
** อิลฮัม อะลีเยฟ
 
* ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังประชาชนชาวไทยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ประเทศไทยและโคโซโวเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เราจึงเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้
** ฮาชิม ทาซี
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี โดยพระองค์ทรงเสียสละเพื่อให้ประชาชนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนอาเซียนและปวงชนชาวไทย เวียดนามตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเนื่องจากทรงมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับไทยในหลายปีที่ผ่านมาและหวังว่า ประเทศไทยจะฟันฝ่าความสูญเสียครั้งนี้ไปได้และพัฒนาก้าวรุดหน้าต่อไปตามความปรารถนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
** เจิ่น ดั่ย กวาง
 
* หม่อมฉันและและพระราชินีทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ หม่อมฉันและพระราชินีขอแสดงความเสียใจไปยังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ
** เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก พระราชสวามี
 
* เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียครั้งสำคัญของประเทศไทย และย้ำถึงสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างไทยและสหรัฐฯ จากการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชสมภพ และประทับที่เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซ็ตของสหรัฐฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนี เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งได้ทรงมีพระราชดำรัสเรื่องนี้ต่อที่ประชุมรัฐสภาสหรัฐฯ ในการเสด็จฯ เยือนสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ.1960 สหรัฐฯ น้อมรำลึกถึพระราชดำรัสในการพระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่ว่า ทรงประสงค์จะถูกจดจำเพียงว่า ทรงได้บำเพ็ญประโยชน์อย่างไรบ้าง ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า พระราชดำริเรื่องนี้ หมายถึงการให้ความช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ โดยเฉพาะกลุ่มด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบาง และประชาชนระดับรากหญ้าในทุกด้าน พระวิริยะอุตสาหะ และพระอัจริยภาพ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพสกนิกร ด้วยพระองค์เอง อาทิ โครงการแก้มลิง และโครงการอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่มีการจดทะเบียน น่าชื่นชมอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นโชคดีของชาวไทย และโลกที่ได้มีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
** ซาแมนธา พาวเวอร์
 
* ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรียูเออี รวมทั้งมกุฏราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี ขอแสดงความอาลัยต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอแสดงความเสียใจและความเห็นใจอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทยในนามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อการสูญเสีย และขอแสดงความเสียใจเป็นการส่วนพระองค์ต่อพระราชวงศ์ และขอให้ประเทศไทยประสบความเจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพสืบไป
** ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยัน มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี
 
* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไม่เพียงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชยาวนานที่สุดในโลก แต่ยังเป็นผู้นำทางประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีความก้าวหน้าที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย
** โรดรีโก ดูแตร์เต
 
* ข้าพเจ้ารู้สึกโศกเศร้าอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าขอน้อมรำลึกเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ผู้ทรงเป็นมิตรของประเทศฝรั่งเศส ผู้ทรงมีดวงพระชะตาอันพิเศษสุด และทรงงานตลอดพระชนม์ชีพเพื่อนำประเทศสู่ความทันสมัยและความเจริญรุ่งเรือง ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจในนามของประชาชนชาวฝรั่งเศสและในนามของข้าพเจ้าต่อพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนชาวไทยด้วยความจริงใจ
** ฟรังซัวส์ ออลลองด์
 
* ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวออสเตรเลีย ข้าพเจ้าขอถวายความอาลัยแด่พระราชวงศ์ของไทยและร่วมแสดงความเสียใจกับประชาชนชาวไทยในช่วงเวลาที่โศกเศร้านี้ พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของทวีปเอเชีย ในรัชสมัยของพระองค์ ประเทศไทยได้เติบโตจากประชากร 20 ล้านคน เป็นกว่า 67 ล้านคนในปัจจุบัน และมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยอดเยี่ยม ประชาชนชาวไทยในออสเตรเลียซึ่งมีจำนวนประมาณ 50,000 คน จะร่วมถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยเช่นเดียวกัน
** แมลคัม เทิร์นบุลล์
 
* การสวรรคตนี้ถือเป็นการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทย พสกนิกรไทย มิตรของไทยทั่วโลก รัฐบาลและประชาชนกัมพูชาขอน้อมถวายและขอส่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังสมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลและประชาชนไทย
** สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน
 
* ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรียูเออี รวมทั้งมกุฏราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี ขอแสดงความอาลัยต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอแสดงความเสียใจและความเห็นใจอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทยในนามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อการสูญเสีย และขอแสดงความเสียใจเป็นการส่วนพระองค์ต่อพระราชวงศ์ และขอให้ประเทศไทยประสบความเจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพสืบไป
** มุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม
 
* ตลอดหลายสิบปีที่ทรงครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นที่รักและเทิดทูนอย่างจริงใจของพสกนิกรชาวไทย และทรงเป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งในต่างประเทศ
** วลาดีมีร์ ปูติน
 
* “ขอแสดงความเสียใจกับข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ข่าวนี้ทำให้ผมนึกถึงเมืองไทยและเพื่อนชาวไทย”
** มาร์ก เคนต์
 
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงประทับอยู่ในความทรงจำและในจิตใจของเรา ในฐานะที่ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของคนในชาติ ผู้ทรงอุทิศชีวิตและจิตวิญญาณของพระองค์เพื่อการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
** ซาคีอากีอิน เอลเบกดอร์ช
 
* ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ต่อการสูญเสียผู้นำอันเป็นที่รักและเคารพมากที่สุด การเสด็จฯ เยือนปากีสถานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในปี พ.ศ. 2505 ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำในฐานะก้าวย่างสำคัญของความสัมพันธ์ไทย-ปากีสถาน ประชาชนและรัฐบาลปากีสถานยังคงรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยพิบัติเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอาซาดจัมมูและแคชเมียร์ในปี พ.ศ. 2548 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงนำสิ่งของบรรเทาทุกข์มายังปากีสถานด้วยพระองค์เอง
** นาวาซ ชาริฟ
 
* ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรียูเออี รวมทั้งมกุฏราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี ขอแสดงความอาลัยต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอแสดงความเสียใจและความเห็นใจอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทยในนามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อการสูญเสีย และขอแสดงความเสียใจเป็นการส่วนพระองค์ต่อพระราชวงศ์ และขอให้ประเทศไทยประสบความเจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพสืบไป
** เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน
 
* ขอแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียรัฐบุรุษผู้ทรงคุณอันโดดเด่น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
** ชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ
*องค์การยูนิเซฟร่วมถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชนและได้ทรงอุทิศพระวรกายและพระราชหฤทัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยย่อท้อ นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นในการพัฒนาเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด องค์การยูนิเซฟร่วมแสดงความเสียใจกับการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทยทุกคนในครั้งนี้
**กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ
*ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรียูเออี รวมทั้งมกุฏราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี ขอแสดงความอาลัยต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และขอแสดงความเสียใจและความเห็นใจอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนชาวไทยในนามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อการสูญเสีย และขอแสดงความเสียใจเป็นการส่วนพระองค์ต่อพระราชวงศ์ และขอให้ประเทศไทยประสบความเจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพสืบไป
**เจ้าชายมุฮัมมัด บินซัยยิด อัลนะฮ์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี
* พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทรงถูกจดจำโดยคนรุ่นต่อไปในความพยายามของพระองค์ เพื่อสันติภาพและความมั่นคงของประชาคมโลก รวมทั้งพระราชกรณียกิจเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย
** เจ้าชายซัลมาน บินฮะมัด บินอีซา อัลเคาะลีฟะฮ์ มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน
 
* พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรมและเสียสละอย่างใหญ่หลวง ทรงมีบทบาทอย่างสำคัญในการปรับปรุงและกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับราชอาณาจักรไทย การสวรรคตจึงเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของชาวไทยและเป็นการสูญเสียมิตรของชาวลาว
** บุนยัง วอละจิด
 
* พระองค์ทรงเป็นที่เคารพบูชาของชาวบังกลาเทศ ทรงเป็นสัญลักษณ์ของคุณความดี การอุทิศตน และงานด้านมนุษยธรรม" และ "พระองค์จะทรงเป็นที่เคารพนับถือในใจของเราตลอดไป ในฐานะพระมหากษัตริย์ในอุดมคติ ผู้ทรงประสบความสำเร็จในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
** เชก ฮาซินา
 
* ทุกหัวอกพสกไทยไหวผวา ทั้งแผ่นดินรินน้ำตาฟ้าร่ำไห้ แดดรอนรอน..ทินกรจะลาไกล ร้าวดวงใจราววูบดับกับระวี ๗๐ ปี ครองไผท ครองใจราษฎร์ ๗๐ ปี มิ่งขวัญชาติราชธรรมนำสุขศรี จารึกไว้ใต้ร่มฟ้าพระบารมี ว่าวันนี้ ทุกข์รวมไทยเป็นใจเดียว
** จิระนันท์ พิตรปรีชา
 
* ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอกวาดอร์ กรุงกีโต ข้าพเจ้าและพระราชินีเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งยังก่อความเสียหายอย่างหนักต่อโครงสร้างพื้นฐานและทรัพย์สินในประเทศของท่าน ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงมายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้
** ราฟาเอล กอร์เรอา
 
* โลกได้สูญเสียผู้นำที่ใกล้ชิดกับประชาชน เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาเซียนและของโลก
** โจโก วีโดโด
 
* ระหว่างการครองราชย์ตลอดระยะเวลา 70 ปี โครงการพัฒนาชนบทของพระองค์ได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยหลายล้านคน พระองค์จะทรงเป็นที่จดจำต่อไปสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยเฉพาะในยุโรปพระองค์ทรงเป็นที่จดจำในฐานะผู้ที่ทรงงานหนักเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
** ฌองโคล้ด ยุงเคอร์
 
* หัวใจของฉันอยู่กับคนไทยทุกคนเนื่องด้วยการเสด็จสวรรคตของในหลวง รัชกาลที่ 9 ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้
** คริสตี้ เคนนี่
 
* รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์จะทรงเป็นระลึกถึงของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้
** ไบรอัน เดวิดสัน
 
* ระหว่างการครองราชย์ตลอดระยะเวลา 70 ปี โครงการพัฒนาชนบทของพระองค์ได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยหลายล้านคน พระองค์จะทรงเป็นที่จดจำต่อไปสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยเฉพาะในยุโรปพระองค์ทรงเป็นที่จดจำในฐานะผู้ที่ทรงงานหนักเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
** ดอนัลต์ ตุสก์
 
* ทรงเป็นที่เคารพรักและเทิดทูนของประชาชนทั้งประเทศ ทรงได้รับการชื่นชมและเคารพจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทรงเป็นผู้นำที่แท้จริงที่เป็นแรงบันดาลใจของประเทศไทยและของโลก พระองค์ทรงทุ่มเทปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ยกระดับความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยในทุกด้าน และทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทำงานเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ดังที่ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "คนดีย่อมทำให้คนอื่นเป็นคนดี ความดีจะกระตุ้นให้เกิดความดีในสังคมและทำให้ผู้อื่นเป็นคนดี" พระองค์จะเป็นที่จดจำในฐานะทรงเป็นผู้นำที่โดดเด่น เสียสละทุ่มเทเพื่อประเทศ ทรงเป็น "กษัตริย์นักพัฒนา" เป็นนักคิดผู้มีวิสัยทัศน์ ที่มีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนการพัฒนาระดับโลก อีกทั้งยังทรงใช้พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี เป็นสะพานสานสัมพันธ์และหล่อหลอมมิตรภาพด้วย
** คาฮา อิมนัดเซ
 
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ไทย]]
[[หมวดหมู่:ชาวไทย]]
[[หมวดหมู่:พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช| ]]