ลิลิตพระลอ
ลิลิตพระลอ เป็นลิลิตโศกนาฏกรรมความรัก ที่แต่งขึ้นอย่างประณีตงดงาม มีความไพเราะของถ้อยคำ และเต็มไปด้วยสุนทรียศาสตร์ พรรณนาเรื่องด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ใช้กวีโวหารอย่างยอดเยี่ยม ในการบรรยายเนื้อเรื่อง ที่มีฉากอย่างมากมาย หลากหลายอารมณ์ โดยมีแก่นเรื่องแบบรักโศก หรือโศกนาฏกรรม และแฝงแง่คิดถึงสัจธรรมของชีวิต ลิลิตพระลอนี้เคยถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากนักวรรณคดีบางกลุ่ม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวรรณกรรมที่มอมเมาทางโลกีย์
ลิลิตพระลอที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร เมื่อ พ.ศ. 2459 ให้เป็นยอดแห่งลิลิต
คำคม
แก้ไข๑. ๏ ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิศฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ ๚ะ
๒.๏ อยุธยายศล่มแล้ว | ลอยสวรรค์ ลงฤๅ | |
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร- | เจิดหล้า | |
บุญเพรงพระหากสรรค์ | ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ | |
บังอบายเบิกฟ้า | ฝึกฟื้นใจเมือง ๚ะ |
(กรุงศรีอยุธยาแตกไปแล้ว แต่กลับลอยลงมาจากสวรรค์อีกหรืออย่างไร มีปราสาทพระราชวังอันงดงามตระการตา ด้วยบุญบารมีของพระมหากษัตริย์ช่วยทนุบำรุงพระศาสนาให้รุ่งเรือง ปัดเป่าทุกข์ให้แก่ไพร่ฟ้าชาวประชา)
นักวรรณคดีมักเปรียบเทียบโคลงบทนี้ กับโคลงดั้นจากโคลงกำสรวล ซึ่งขึ้นบาทแรกด้วยสำนวนคล้ายกัน ดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นบทชมพระนครเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ผู้แต่งอาจชื่นชมโคลงจากโคลงกำสรวล ซึ่งชื่นชมพระนครเมื่อครั้งยังรุ่งเรือง
๑. ๏ อยุธยายศยิ่งฟ้า | ลงดิน แลฤๅ | |
อำนาจบุญเพรงพระ | ก่อเกื้อ | |
เจดียลอออินทร | ปราสาท | |
ในทาบทองแล้วเนื้อ | นอกโสรม ๚ะ |
๗. ๏ อยุธยายศโยกฟ้า | ฟากดิน | |
ผาดดินพิภพดยว | ดอกฟ้า | |
แสนโกฎบยลยิน | หยากเยื่อ | |
ไตรรัตนเรืองรุ่งหล้า | หลากสรรค ๚ะ | |
— (โคลงกำสรวล) |
นอกจากนี้ในโคลงหมายเลข ๒๒. ยังถือเป็นแม่แบบของโคลงสี่สุภาพบทหนึ่งด้วย
๒๒. ๏ จากมามาลิ่วล้ำ | ลำบาง | |
บางยี่เรือราพลาง | พี่พร้อง | |
เรือแผงช่วยพานาง | เมียงม่าน มานา | |
บางบ่รับคำคล้อง | คล่าวน้ำตาคลอ ๚ะ |
ด้วยโคลงบทนี้ใช้คำเอก 7 โท 4 และที่เหลือเป็นคำสุภาพทั้งหมด จึงใช้เป็นแม่แบบสำหรับการแต่งโคลงสี่สุภาพได้เป็นอย่างดี
ในตอนท้ายๆ ผู้แต่งยังได้เอ่ยถึงวรรณคดีรุ่นเก่าอีกสองเรื่อง คือ กำสรวลศรีปราชญ์ และทวาทศมาส ซึ่งเป็นนิราศคำโคลงเช่นเดียวกัน
๑๒๔. ๏ กำสรวลศรีปราชญ์พร้อง | เพรงกาล | |
จากจุฬาลักษณ์ลาญ | สวาทแล้ว | |
ทวาทศมาสสาร | สามเทวษ ถวิลแฮ | |
ยกทัดกลางเกศแก้ว | กึ่งร้อนทรวงเรียม ๚ะ |
โคลงบทสุดท้าย (๑๔๔) ผู้แต่งได้ระบุชื่อตนเอาไว้ด้วย ดังนี้
๑๔๔. ๏ โคลงเรื่องนิราศนี้ | นรินทร์อิน | |
รองบาทบวรวังถวิล | ว่าไว้ | |
บทใดปราชญ์ปวงฉิน | เชิญเปลี่ยน แปลงพ่อ | |
ปรุงเปรียบเสาวคนธ์ไล้ | เลือกลิ้มดมดู ๚ะ |
๑๔๕. ๏ อยุธยายศยิ่งฟ้า | ลงดิน แลฤๅ | |
อำนาจบุญเพรงพระ | ก่อเกื้อ | |
เจดียลอออินทร | ปราสาท | |
ในทาบทองแล้วเนื้อ | นอกโสรม ๚ะ |
๑๔๖. ๏ อยุธยายศล่มแล้ว | ลอยสวรรค์ ลงฤๅ | |
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร- | เจิดหล้า | |
บุญเพรงพระหากสรรค์ | ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ | |
บังอบายเบิกฟ้า | ฝึกฟื้นใจเมือง ๚ะ |
๑๔๗. ๏ อยุธยายศโยกฟ้า | ฟากดิน | |
ผาดดินพิภพดยว | ดอกฟ้า | |
แสนโกฎบยลยิน | หยากเยื่อ | |
ไตรรัตนเรืองรุ่งหล้า | หลากสรรค ๚ะ |
ด้วยโคลงบทนี้ใช้คำเอก 7 โท 4 และที่เหลือเป็นคำสุภาพทั้งหมด จึงใช้เป็นแม่แบบสำหรับการแต่งโคลงสี่สุภาพได้เป็นอย่างดี
๑๔๘. ๏ ศรีสิทธิ์พิศาลภพ เลอหล้าลบล่มสวรรค์ จรรโลงโลกกว่ากว้าง แผนแผ่นผ้างเมืองเมรุ ศรีอยุธเยนทร์แย้มฟ้า แจกแสงจ้าเจิดจันทร์ เพียงรพิพรรณผ่องด้าว ขุนหาญห้าวแหนบาท สระทุกข์ราษฎร์รอนเสี้ยน ส่ายเศิกเหลี้ยนล่งหล้า ราญราบหน้าเภริน เข็ญข่าวยินยอบตัว ควบค้อมหัวไหว้ละล้าว ทุกไทน้าวมาลย์น้อม ขอออกอ้อมมาอ่อน ผ่อนแผ่นดินให้ผาย ขยายแผ่นฟ้าให้แผ้ว เลี้ยงทแกล้วให้กล้า พระยศไท้เทิศฟ้า เฟื่องฟุ้งทศธรรม ท่านแฮ ๚ะ
นักวรรณคดีมักเปรียบเทียบโคลงบทนี้ กับโคลงดั้นจากโคลงกำสรวล ซึ่งขึ้นบาทแรกด้วยสำนวนคล้ายกัน ดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นบทชมพระนครเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ผู้แต่งอาจชื่นชมโคลงจากโคลงกำสรวล ซึ่งชื่นชมพระนครเมื่อครั้งยังรุ่งเรือง