แบร์รี่ ลินดอน ขอฝันจนวันสุดท้าย

ภาพยนตร์ กำกับโดยสแตนลีย์ คูบริก ฉายเมื่อ ค.ศ. 1975

แบร์รี่ ลินดอน ขอฝันจนวันสุดท้าย เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 1975 ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของชายเจ้าเล่ห์ชาวไอริชที่ได้แต่งงานกับแม่ม่ายสาวผู้มั่งคั่ง ทำให้เขาได้ถือครองทรัพย์สินที่ตกทอดมาจากสามีของนาง และได้เข้าไปคลุกคลีอยู่ท่ามกลางแวดวงขุนนางชั้นสูงในคริสต์ศตวรรษที่ 18

กำกับและเขียนบทโดยสแตนลีย์ คูบริก โดยอิงเค้าโครงจากนวนิยายเรื่องเดอะลัคออฟแบร์รี ลินดอนของวิลเลียม เมคพีซ ทัคเคอร์เรย์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวประวัติของแอนดรูว์ โรบินสัน สโตนนี


ผู้บรรยาย แก้ไข

  • No lad who has liberty for the first time, and twenty guineas in his pocket, is very sad, and Barry rode towards Dublin thinking not so much of the kind mother left alone, and of the home behind him, but of tomorrow, and all the wonders it would bring.
    • เมื่อมีอิสรภาพเป็นครั้งแรก พร้อมเงินอีก 20 เหรียญกินี เด็กหนุ่มที่ไหนจะเศร้า แบร์รี่ควบม้าไปดับลินโดยไม่ได้คิดถึงแม่[ผู้]ใจดีที่อยู่ลำพังและบ้าน[ที่จากมา]มากนัก แต่คิดถึงสิ่งมหัศจรรย์ของวันพรุงนี้[ที่กำลังจะมาถึง]
  • Barry's first taste of battle was only a skirmish against a small rearguard of Frenchmen who occupied an orchard beside a road down which, a few hours later, the English main force would wish to pass. Though this encounter is not recorded in any history books, it was memorable enough for those who took part.
    • ศึกแรกของแบร์รี่เป็นเพียงแค่การปะทะเล็ก ๆ น้อย ๆ กับทหารกองหลังของฝรั่งเศส ซึ่งตรึงกำลังอยู่ที่สวนผลไม้ข้างถนนที่กองทัพหลักของอังกฤษต้องการจะเดินทัพผ่านพอดี แม้การปะทะครั้งนี้จะมิได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มใดเลย แต่คนที่ร่วมรบก็จำได้ดี
  • It is well to dream of glorious war in a snug armchair at home, but it is a very different thing to see it first hand. And after the death of his friend, Barry's thoughts turned from those of military glory to those of finding a way to escape the service to which he was now tied for another six years. Gentlemen may talk of the age of chivalry, but remember the ploughmen, poachers and pickpockets whom they lead. It is with these sad instruments that your great warriors and kings have been doing their murderous work in the world.
    • การนั่งฝันถึงความรุ่งโรจน์ของสงครามบนเก้าอี้นวมที่บ้านนั้นดูน่าสนุกอยู่หรอก แต่การได้เห็นการรบกับตาตัวเองนะมันไม่เหมือนกัน หลังจากเสียเพื่อนไป ความคิดของแบร์รี่แปรเปลี่ยนการแสวงหาความรุ่งโรจน์ในกองทัพ สู่การหาหนทางหนีราชการซึ่งผูกมัดเขาไว้อีกกว่า 6 ปี เหล่าสุภาพบรุษอาจพูดฝันถึงยุคแห่งวีรคติน่าสรรเสริญ แต่ขอให้เราอย่าลืมนึกถึงเหล่าชาวนา โจรลักสัตว์และนักล้วงกระเป๋าที่ติดตามพวกเขาเสียด้วย เพราะพวกเขานี้แลคือเครื่องมือที่เหล่านักรบและราชาทั้งหลายใช้เพื่อกระทำกิจการสกปรกเหล่านี้ไปทั่วโลกา
  • A lady who sets her heart upon a lad in uniform must prepare to change lovers pretty quickly, or her life will be but a sad one. This heart of Lieschen's was like many a neighbouring town and had been stormed and occupied several times before Barry came to invest it.
    • นารีผู้คิดรักชายในเครื่องแบบ ต้องพร้อมเปลี่ยนคนรักอย่างฉับไว หากไม่จะเศร้าโศกยิ่งนัก หัวใจของสาวน้อยลิซเคน ก็เหมือนเมืองต่าง ๆ ในแถบนี้ ถูกย่ำยีครอบครองมาหลายครั้งแล้วก่อนที่แบร์รี่จะเข้ามาเชยชม
  • The Prussian service was considerably worse than the English. The life that the private soldier led was a frightful one. Punishment was incessant, and every officer had the right to inflict it. The gauntlet was the most common penalty for minor offences. The more serious ones were punishable by mutilation or death. At the close of the Seven Years' War, the army, so renowned for its disciplined valour, was officered by native Prussians. But it was composed, for the most part, of men from the lowest levels of humanity, hired or stolen from almost every nation in Europe. Thus Barry fell into the very worst of courses and company and was soon very far advanced in the science of every kind of misconduct.
    • การรับราชการในกองทัพปรัสเซียนั้นแย่เสียยิ่งกว่าเมื่อคราวอยู่กับกองทัพอังกฤษ ชีวิตของพลทหารมีแต่ความน่าสะพรึง การลงโทษเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และนายทหารทุกนายมีสิทธิ์ที่จะสั่งลงโทษได้ตลอดเวลา โทษที่พบได้บ่อยคือการเฆี่ยน ซึ่งใช้กับความผิดเล็กน้อย หากเป็นความผิดหนักจะลงโทษด้วยการตัดอวัยวะหรือประหารชีวิต เมื่อสงครามเจ็ดปีใกล้ปิดฉากลง กองทัพที่ขึ้นชื่อในด้านระเบียบวินัยนำโดยนายทหารชาวปรัสเซีย แต่ทหารเลวส่วนใหญ่เล่าคือเศษเดนของมนุษยชาติที่จ้างหรือลักพามาจากทั่วทวีปยุโรป ดังนั้น แบร์รี่จึงอยู่ท่ามกลางวิถีและหมู่คนอันเลวร้ายที่สุด และกลายเป็นผู้รอบรู้ศาสตร์แห่งความชั่วร้ายทั้งปวง
  • Five years in the army, and some considerable experience of the world, had by now dispelled any of those romantic notions regarding love with which Barry commenced life. And he began to have it in mind, as so many gentlemen had done before him, to marry a woman of fortune and condition. And, as such things so often happen, these thoughts closely coincided with his setting first sight upon a lady who will henceforth play a considerable part in the drama of his life: the Countess of Lyndon, Viscountess Bullingdon of England, Baroness of Castle Lyndon of the Kingdom of Ireland, a woman of vast wealth and great beauty. She was the wife of The Right Honourable Sir Charles Reginald Lyndon, Knight of the Bath, and Minister to George III at several of the smaller Courts of Europe, a cripple, wheeled about in a chair, worn out by gout and a myriad of diseases. Her Ladyship's Chaplain, Mr. Runt, acted in the capacity of tutor to her son, the little Viscount Bullingdon, a melancholy little boy, much attached to his mother.
    • การรับราชการทหารมาห้าปีและเจนโลกขึ้นพอสมควร ช่วยสลายความคิดเรื่องความรักเชิงโรแมนติกที่แบร์รี่เคยอุทิศชีวิตให้ไปเสียสิ้น ตอนนี้เขาเริ่มคิดเหมือนที่เหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายตกผลึกคิดได้มาก่อนหน้านั้น ว่าจะต้องสมรสกับสตรีผู้มีลาภและยศถา และแล้วขณะกำลังคิดการใหญ่นั้นเอง เขาก็บังเอิญเห็นนางผู้หนึ่งซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในชีวิตเขา เธอคือเคาน์ติสแห่งลินดอน ไวเคาน์ติสบูลลิงดอนในอังกฤษ บารอนเนสแห่งปราสาทลินดอนในราชอาณาจักรไอร์แลนด์ หญิงมากทรัพย์และเลอโฉม ภรรยาของ เดอะไรต์ออนะระเบิล เซอร์ชาลส์ เรจินัลด์ ลินดอน อัศวินแห่งบาธ และผู้แทนพระองค์พระเจ้าจอร์จที่ 3 ในราชสำนักเล็ก ๆ หลายแห่งทั่วยุโรป ผู้พิการต้องนั่งรถเข็น ซ้ำยังป่วยด้วยโรคเกาต์และอีกสารพัดโรค ศาสนาจารย์ประจำตัวท่านหญิง มิสเตอร์รันท์ ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ให้กับไวเคานต์น้อยบูลลิงดอน บุตรชายของหล่อน เป็นเด็กชายที่หดหู่และติดมารดามาก


บทพูด แก้ไข

กรรมการ: ท่านสุภาพบรุษ เชิญขึ้นนกปืนของท่าน! ท่านสุภาพบรุษ...
ผู้บรรยาย: บิดาของแบร์รี่...
กรรมการ: ...เล็งปืนของท่าน!
ผู้บรรยาย: ...ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกับบุตรชายของตระกูลผู้ดีทั้งหลาย หวังจะให้ยึดอาชีพทางกฎหมาย
กรรมการ: หนึ่ง!
ผู้บรรยาย: ไม่ต้องสงสัยเลยว่า...
กรรมการ: สอง!
ผู้บรรยาย: ...การงานของเขาคงจะดำเนินไปได้ด้วยดีเป็นแน่...
กรรมการ: สาม!
[นักดวลทั้งสองยิงปืนใส่กัน มีคนหนึ่งล้มลงกับพื้น]
ผู้บรรยาย: ...หากไม่ด่วนตายไปเสียก่อน จากเหตุดวลปืนที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายม้า

[เรดมอนด์ แบร์รี่เห็นชายผู้หนึ่งยืนหันหลังให้อยู่กลางถนน]
เรดมอนด์ แบร์รี่: ขออภัยครับท่าน
[ชายผู้นั้นหันหน้ามาพร้อมถือปืนพกคู่หนึ่งเล็งมาที่แบร์รี่]
กัปตันฟีนี: สวัสดีอีกครั้งนะ คุณชายน้อย
[ชายอีกคนขี่ม้ามาข้างหลังแบร์รี่ แล้วร่วมจี้ชิงทรัพย์เขาด้วย]
กัปตันฟีนี: อย่าแม้แต่จะคิดเลย ลงม้าซะดี ๆ กรุณาชูมือขึ้นเหนือหัวด้วยครับ แล้วเดินมาข้างหน้า...หยุด สวัสดี ผมคือกัปตันฟีนี
เรดมอนด์ แบร์รี่: กัปตันฟีนี?
กัปตันฟีนี: กัปตันฟีนี ยินดีรับใช้ครับ
เรดมอนด์ แบร์รี่: กัปตันฟีนีท่านนั้นนะหรีอ?
กัปตันฟีนี: ตัวจริงเสียงจริง ขออนุญาตแนะนำให้ท่านรู้จักกับเซมัส ลูกชายผมนะครับ
เซมัส: สบายดีไหมครับ?
เรดมอนด์ แบร์รี่: สบายดีไหมครับ?
กัปตันฟีนี: ได้โปรดแนะนำตัวด้วยจะได้ไหมครับ?
เรดมอนด์ แบร์รี่: ผมชื่อเรดมอนด์ แบร์รี่
กัปตันฟีนี: สบายดีไหมครับคุณแบร์รี่? ตอนนี้ผมเกรงว่าเราจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนอันน่าเศร้าในการพบปะของพวกเราแล้วละครับ กรุณาหันหลัง คงมือของท่านไว้เหนือหัวด้วยครับ
[เซมัสค้นตัวแบร์รี่ พบถุงเงินจำนวนหนึ่ง]
เซมัส: มีเงินประมาณ 20 เหรียญกินีทองครับ ท่านพ่อ!
กัปตันฟีนี: แหม่ แหม่ แหม่ ดูเหมือนท่านจะเป็นคนมีฐานะนะครับนี้!
เรดมอนด์ แบร์รี่: กัปตันฟีนีครับ นั้นคือเงินก้อนสุดท้ายของแม่ผม ขอผมเถอะนะ ผมก็กำลังหนีทางการอยู่ ผมฆ่านายทหารอังกฤษตายในการดวลปืน นี้ก็กำลังเดินทางหนีไปดับลิน รอให้เรื่องซาแล้วค่อยกลับ
กัปตันฟีนี: คุณแบร์รี่ ในสายอาชีพของผม เราได้ยินเรื่องราวมามากมาย เรื่องของท่านนับว่าน่าสนใจและน่าเศร้าเป็นที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาในรอบหลายสัปดาห์ทีเดียว ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่สามารถทำตามที่ท่านขอได้ครับ แต่ผมจะบอกอะไรให้นะครับ กระผมจะละเว้น ไม่เอารองเท้าหนังอย่างดีของท่าน ซึ่งปรกติแล้วผมจะริบไปด้วยกัน เมืองต่อไปอยู่ห่างออกไปเพียง 5 ไมล์ ผมขอแนะนำให้คุณเริ่มเดินได้แล้วนะครับ
เรดมอนด์ แบร์รี่: ผมขอเก็บม้าไว้ก็ไม่ได้หรือครับ?
กัปตันฟีนี: ผมก็อยากสงเคราะห์ท่านนะ แต่อาชีพอย่างเราจำต้องเดินทางให้ไวกว่าลูกค้า ลาก่อนครับ คุณชายน้อย
[แบร์รี่เดินห่างออกมาจากโจรทั้งสองไปไม่กี่ย่าง]
กัปตันฟีนี: เอามีอลงได้แล้วครับ คุณแบร์รี่!

[แบร์รี่ถูกทหารปรัสเซียจับข้อหาปลอมตัวเป็นนายทหารอังกฤษ]
เรดมอนด์ แบร์รี่: จับผม? ผู้กองพอตสดอร์ฟครับ! ผมเป็นนายทหารอังกฤษนะ
ผู้กองพอตสดอร์ฟ: แกมันไอ้โกหก! ไอ้คนหลอกลวง แกมันพวกหนีทหาร ฉันสงสัยแกมาตั้งแต่เช้าแล้ว คำโกหกฉ้อฉ้ลของแกทำให้ฉันแน่ใจว่าคิดถูกแล้ว แกอ้างว่ามีสารต้องส่งให้กับนายทหารอังกฤษที่ตายไปแล้วตั้งแต่ 10 เดือนก่อน แกอ้างว่าราชทูตอังกฤษประจำกรุงเบอร์ลินที่มีนามสกุลน่าขันว่าโอเกรดีเป็นลุงของแก เอาล่ะ ทีนี้แกจะมาเป็นทหารให้เรา หรือจะให้เราส่งตัวแกกลับไปรับโทษ?
เรดมอนด์ แบร์รี่: กระผมขออาสารับราชการครับ

เรดมอนด์ แบร์รี่: ท่านครับ... กระผมมีเรื่องจะสารภาพครับ ผมเป็นชาวไอริช ชื่อเรดมอนด์ แบร์รี่ ผมถูกบังคับให้รับราชการในกองทัพปรัสเซียเมื่อสองปีก่อน และตอนนี้ผมถูกส่งมาเป็นคนรับใช้ของท่าน ตามคำสั่งของผู้กองพอตสดอร์ฟ นายทหารประจำกรมของผม และลุงเขาที่เป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงตำรวจ... เพื่อสอดแนมท่าน...และกลับไปรายงานเขาครับ
ผู้บรรยาย: ท่าน[เชวาเลียร์ เดอ บาลิบารี่]ก็หวันไหวที่พบเพื่อนร่วมชาติ เพราะท่านก็ถูกเนรเทศมาเช่นกัน ด้วยเสียงแห่งไมตรีและแววตานั้นเอง ทำให้ถิ่นเกิดแต่เก่าก่อนห้วนกลับมาในความทรงจำ

เซอร์ชาลส์ ลินดอน: พอใจกับเมียกูหรือยัง?
เรดมอนด์ แบร์รี่: ขอประทานอภัยครับ?
เซอร์ชาลส์ ลินดอน: นี่ กูยอมโดนสวมเขาดีกว่าเป็นคนโง่นะ

เซอร์ชาลส์ ลินดอน: [หัวเราะ] ไอ้หน้าด้านนี้! มันอยากเข้ามาแทนที่ผม มันอยากเข้ามาแทนที่ ผม ! ช่างน่าดีใจอะไรอย่างนี้ ท่านสุภาพบรุษทั้งหลาย ที่ผมกำลังจะได้สิ่งที่ปราถนา - ครอบครัวผมจะได้มีความสุขเสียทีนะ - ดูซี เมียผมคงรักผมมาก ถึงขนาดเตรียมหาสามีใหม่ไว้รอแล้ว? น่าสบายใจเสียจริงที่เห็นนางเป็นแม่บ้านผู้เพียบพร้อมอย่างนี้ - เตรียมการทุกอย่างไว้คอยวันที่สามีอย่างผมจะลาโลก?
เรดมอนด์ แบร์รี่: กระผมหวังว่าท่านคงจะไม่ด่วนจากพวกเราไปเร็วนักหรอก ใช่ไหมครับเซอร์ชาลส์?
เซอร์ชาลส์ ลินดอน: อาจจะไม่เร็วอย่างที่ใจแกต้องการหรอกเจ้าหนุ่ม ฉันป่วยเกือบตายมาหลายครั้งในรอบสี่ปีมานี้ ก็มีหนุ่มสักคนสองคนนี้แหละ - ที่รอจังหวะเสียบเสมอ ขอโทษทีนะคุณแบร์รี่ ที่ทำให้คุณกับสุภาพบรุษทั้งหลายต้องรอ ไม่ลองไปคุยกับหมอประจำตัวผมดูล่ะ หรือจะให้พ่อครัวผสมสารหนูในออมเล็ตผมก็ได้นะ หี? เป็นไปได้ไหม ท่านสุภาพบรุษทั้งหลาย ว่ากระผมจะมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ทันเห็นคุณแบร์รี่ถูกแขวนคอน่ะ?
เรดมอนด์ แบร์รี่: ท่านครับ หัวเราะทีหลังดังกว่าเสมอนะ


นักแสดง แก้ไข

แหล่งข้อมูลอื่น แก้ไข